เมื่อต้องโบยบินข้ามผ่านช่วงวัย (‘WINGS’) | #บังทันอ่าน ‘เดเมียน’

รีวิวองค์ประกอบจากนวนิยาย ‘เดเมียน’ บนบทเพลงและจักรวาลคู่ขนานจาก ‘WINGS’

(คำเตือน : บทความในส่วนนี้มีเนื้อเรื่องจาก ‘เดเมียน’)

[เราจะกล่าวถึงสมาชิกวง BTS ด้วยชื่อ RM, Jin, SUGA, j-hope, Jimin, V, Jung Kook และตัวละครจาก BTS Universe (BU) ด้วยชื่อเทียบภาษาไทย นัมจุน, ซอกจิน, ยุนกิ, โฮซอก, จีมิน, แทฮยอง, จองกุก]

อาทิเช่น ซอกจินและซินแคลร์

ฉากซอกจินจุมพิตรูปปั้นติดปีกท้าย MV เพลง Blood Sweat & Tears ดูคล้ายจุดจบวัยเยาว์ของซินแคลร์เหลือเกิน—ความคิดนี้ผุดขึ้นมาหลังเราพลิกหน้าสุดท้ายของนวนิยาย ‘เดเมียน’ 

“He too was a tempter; he, too, was a link to the second, the evil world with which I no longer wanted to have anything to do”

อาร์มี่ทุกท่านอาจรู้จักซินแคลร์และเดเมียนอยู่แล้วแม้ไม่เคยอ่านวรรณกรรมชิ้นนี้ เพราะนี่คือคำกล่าวของซินแคลร์เองในวัยเยาว์ผู้เฝ้าตั้งคำถามต่อเพื่อนรักของเขา เดเมียน ผ่านเสียงและสำเนียงของนัมจุน

เขาก็เป็นมารมาล่อลวงผมไม่ต่างกัน เขาเป็นตัวเชื่อมกับโลกที่สอง โลกชั่วร้ายที่ผมไม่ต้องการจะเข้าไปเกี่ยวข้องอีกแล้ว”*

Books recommended by Big Hit Shop

‘เดเมียน’ ถูกแนะนำอย่างเป็นทางการให้อาร์มี่ได้รู้จักผ่าน Big Hit Shop  หนังสือเล่มนี้ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี ค.ศ. 1919 นวนิยายโดย เฮอร์มานน์ เฮสเส นักเขียนรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม ‘ผู้สร้างผลงานที่ลึกล้ำด้วยสำนึกด้านมนุษยธรรม และงดงามด้วยวรรณศิลป์’  ส่วน ‘ซินแคลร์’ คือตัวเอกผู้ต่อสู้อยู่ระหว่างความเป็นมนุษย์และการเติมเต็มทางจิตวิญญาณ โดยมีเพื่อนผู้เฉลียวฉลาดคอยชี้ทางช่วยเหลือ ซึ่งก็คือ เดเมียน นั่นเอง

เกือบ 100 ปีต่อมา  WINGS คือช่วงเวลาที่วง BTS กำลังเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ทั้งด้านช่วงวัยและสายอาชีพ  Jung Kook บรรลุนิติภาวะเป็นคนสุดท้าย สมาชิกทั้งหลายมีเพลงเดี่ยวบนอัลบั้มรวมเป็นครั้งแรก ใจความการไขว่คว้าคลำทางบนโลกหลังแสงสว่างส่งผ่านวันเวลามาสู่อัลบั้มนี้ ผ่านการตีความจากปัจเจกบุคคลบนสารอันเป็นสากลของ ‘เดเมียน’  และหากคุณอาร์มี่อ่านหนังสือเล่มนี้จนจบจะพบว่า ไม่เพียง MV เท่านั้นที่อิงแอบกับนวนิยาย คำโปรยจากนัมจุนบน WINGS Short Film ทุกชิ้น ล้วนเป็นห้วงคิดคำนึงของซินแคลร์

“พอนึกถึง WINGS แล้ว ผมมีจุดที่เหมือนซินแคลร์ในเรื่องเดเมียนเยอะแยะเลย” Jung Kook กล่าวไว้ใน WINGS Concept Book “ทั้งการเป็นคนที่ปลีกตัวจากความเป็นห่วงเป็นใยของคนอื่น หรือพอเป็นผู้ใหญ่แล้วล่องลอยไปเลย ผมน่ะเหมือนเขาเลยจริง ๆ ”**

#1  BEGIN

เพลงนี้เองคือเรื่องราวของ Jung Kook วัย 15 ปี ที่ได้เจอสมาชิกวงครั้งแรก เขาเติบโตขึ้นมาโดยคิดว่าตนปราศจากความยากลำบาก แต่สิ่งที่เจ็บใจคือการที่สมาชิกคนอื่นต้องเจ็บปวด ผู้ที่คอยช่วยเหลือและมีชีวิตร่วมกับเขา —นี่คือคำกล่าวอันเป็นแรงบันดาลใจให้ RM (ผู้แต่งเนื้อร้องตามคำขอของ Jung Kook)

You make me begin  (คุณทำให้ฉันเริ่มต้น)

“กลางวันกับกลางคืนมาพบกันที่นี่ จากสองขั้วตรงข้าม”

ฉากและสัญลักษณ์หลายๆอย่างฉายขนานไปกับกระบวนการเติบโตของซินแคลร์  จองกุกที่ยืนมองรูปวาดใบหน้าของยุนกิคล้ายซินแคลร์ที่พบว่าภาพเขียนของเขาคือใบหน้าของเดเมียน  ภาพวาดรูปนกและวันที่ฝนตกก็อยู่ในวันที่เขาดิ้นรนสับสนในชีวิตและนึกถึงเดเมียน

#2  LIE

Jimin แต่งเพลงนี้จากอดีตของตัวเอง เขาคอยวนเวียนกล่าวโทษว่าตนไม่ดีพอ ไม่ว่าจะหนีจากความคิดนี้อย่างไร ก็ไปไม่เคยพ้น

ฉันจมลงไปในคำโกหกทั้งหลาย  —Caught in a lie

“โลกหนึ่งคือโลกของพ่อแม่ผม ผมคุ้นเคยกับโลกนี้เกือบทุกๆด้าน ไม่ว่า แม่ พ่อ ความรักและความยำเกรง แบบฉบับความประพฤติและโรงเรียน”

เช่นเดียวกับจีมินจากจักรวาลคู่ขนาน ผู้ติดอยู่กับคำโกหกที่ว่าเขาจำเรื่องจากสวนพฤกษชาติไม่ได้  ซินแคลร์ในวัยเยาว์ก็เฝ้าวิ่งหนีจากคำโกหกเรื่องแอปเปิลสีทอง ซึ่งจีมินแอบกัดเข้าไปใน WINGS Short Film #2  ครอบครัวที่ดีงามของทั้งคู่ไม่มีทางรู้เรื่องนี้

Jimin is eating an apple in WINGS Short Film #2

#3  STIGMA

V ร่วมเขียนและกำหนดแนวทางของเพลงนี้ เนื้อหาสอดคล้องไปกับแทฮยองบน BU ผู้บอบช้ำจากความรุนแรงในครอบครัว  และอีกมุมหนึ่ง RM คาดว่า V เองก็อาจมีความลับบางอย่างของเจ้าตัวแฝงอยู่ในเนื้อเพลงด้วยเช่นกัน

ราวกับแก้วที่แตกไปแล้วเป็นเสี่ยงๆ 

“เป็นรอยร้าวแรกในเสาหลักที่ชีวิตวัยเยาว์ผมได้พึ่งพิง ก่อนที่คนแต่ละคนจะกลายมาเป็นตัวตนที่แท้จริงของตัวเองได้  ความเจ็บปวดหรือบาดแผลนี้จะเติบใหญ่ไปกับเรา มันอาจได้รับการเยียวยาและลืมเลือนไป แต่มันจะยังมีชีวิต เลือดจะยังไหลซิบๆ อยู่ในส่วนลึกของหัวใจเรา”

ซินแคลร์มีครอบครัวที่สว่างไสวสมบูรณ์แบบ แต่ก็เกิดรอยแยกขึ้นได้ในท้ายที่สุด  เมื่อตัวตนด้านมืดที่ไม่อาจบอกเล่ากับใครปรากฎขึ้นมาในวันหนึ่ง ตราขบถแห่งความต่างคงเป็นดั่งบาดแผลที่ไม่มีวันหาย  รอยที่แทฮยองทำไว้ในฉากเปิดของ WINGS Short Film #3 นี่เองคือ อะบราซัส พระเจ้าผู้มีทั้งด้านมืดและด้านสว่าง ซึ่งซินแคลร์เฝ้าตามหานับแต่ได้ข้อความตอบกลับมาจากเดเมียน  และ STIGMA อาจหมายถึงตราที่หน้าผาก ซึ่งเดเมียนตีความว่าคือสัญลักษณ์ของผู้แตกต่างซึ่งพระเจ้าสร้างไว้กับเคน ลูกชายของอดัมกับอีฟผู้ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นคนชั่วร้าย

#4  FIRST LOVE

รักแรกของ SUGA คือ เปียโนสีน้ำตาล มันคือเพื่อนคนเดียวของเขาในวัยเด็ก เนื้อเพลงบอกเล่าเรื่องราวที่เขาละทิ้งไปในยามที่หลงทางท่ามกลางการเติบใหญ่  เมื่อไหร่ที่คุณได้ฟังเพลงนี้ (รวมถึง so far away ของ Agust D) คุณคงจะรู้สึกได้ว่ามันมีความหมายเพียงใดและบรรจุจิตวิญญาณของเขาไว้ขนาดไหน 

“มีหลายหนทางที่พระผู้เป็นเจ้า สามารถทำให้เรารู้สึกอ้างว้างแล้วนำเรากลับสู่ตัวเอง พระองค์ทรงใช้วิธีนี้เองจัดการกับผมในระหว่างเวลานั้น”

ยุนกิจากจักรวาลที่ห่างไกลใน WINGS Short Film #4 ยินเสียงผิวปากจากความมืด ซึ่งครั้งหนึ่งเคยปรากฏในสำนึกของซินแคลร์วัยเยาว์ยามวิ่งหนีคำโกหก มันตามติดเขามาถึงวัยหนุ่มอันสับสนเมามาย แต่เมื่อได้พบหมุดหมายอันเปรียบดั่งรักแรก ซินแคลร์จึงหันกลับมาสู่ชีวิตได้อีกครั้ง

#5  REFLECTION

“เมื่อไหร่ที่เกลียดตัวเองเสียมากมาย ผมจะไปที่สวนตุกซอม”

เพลงนี้ RM เขียนที่สวนตุกซอมฮันกังจริงๆ  เขาไปที่นั่นยามต้องเผชิญหน้ากับความคิดและความยากลำบาก  เขาเขียนเพลงสะท้อนภาพภายในที่อยากให้ตัวเองได้ฟัง

I wish I could love myself  (ผมก็หวังว่าจะรักตัวเองได้)

“ส่วนอีกโลกหนึ่งนั้นเล่า แม้จะซ้อนอยู่ในบ้านเราเหมือนกัน แต่ก็ต่างไปจากโลกแรกอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ  เป็นที่รวมเรื่องผีและข่าวลืออื้อฉาว สิ่งลึกลับ เขย่าขวัญ มีทั้งเรื่องเกี่ยวกับโรงฆ่าสัตว์ เกี่ยวกับคุก แม่ค้าปลาขี้เมาปากร้าย เรื่องวัวตกลูก เรื่องม้าล้มตาย เรื่องนักย่องเบา ฆาตรกรรม และการฆ่าตัวตาย“

ภาพวาดนกดิ้นรนพ้นเปลือกไข่ ได้เข้าไปอยู่ในร่างกายของนัมจุน  ราวกับซินแคลร์ที่กลืนตรารูปนกลงไปในความฝันของเขาเอง

#6  MAMA

j-hope พูดถึงคุณแม่ของเขาจริงๆในเพลงนี้ ความรักของสุภาพสตรีท่านนี้โอบกอดเนื้อร้องบนทำนองที่สนุกสนานของ j-hope

เธอไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ล่องเรือลำเล็กแห่งความฝันลอยออกไป

แม้คุณพ่อจะไม่เห็นด้วย คุณแม่ของ j-hope ทำงานถึงสองแห่งเพื่อสนับสนุนความฝันของเขา

“ใบหน้าซึ่งเหมือนหน้าบุตรชายดูไร้กาลเวลา ไม่มีอายุ เต็มด้วยพลังภายใน สุภาพสตรีสวยสง่ายิ้มให้ผม กิริยาที่ทักทายคือการต้อนรับกลับสู่บ้าน  ผมยื่นมือให้เธออย่างสงบ”

นี่คือคำบรรยายถึง อีวา ผู้เป็นแม่ของเดเมียน เราจะเห็นคำว่า EVA ปรากฎบนภาพเขียนตอนท้ายอย่างชัดเจน  แม่ในที่นี้อาจหมายถึงภาวะพึ่งพิง แท่งช็อกโกแลตในมือของโฮซอกทำให้นึกถึงช็อกโกแลตจากแม่ของซินแคลร์ เธอมักมอบให้เขาเป็นรางวัลสำหรับการเป็นเด็กดี  ซึ่งเขาไม่ยินดีจะรับมันอีกต่อไป  ความเจ็บป่วยภายในที่ต้องกดเก็บความผิดไว้แสดงออกมาทางร่างกาย  เราจะเห็นฉากที่คล้ายคลึงนี้ในนวนิยาย แม่ของเขาให้แพทย์มาตรวจดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับซินแคลร์ แต่พวกเขาสองคนไม่ได้เจ็บปวดทางกายจริงๆ พวกเขาเจ็บปวดทางใจ ดังที่แพทย์ของโฮซอกประเมินลงไปว่า ‘Munchausen syndrome’ (กลุ่มอาการที่บุคคลแสร้งแสดงอาการทางกาย)   

#7  AWAKE

Jin แต่งทำนองและเนื้อร้องเสนอโปรดิวเซอร์อยู่ตลอดแต่ไม่เคยได้รับเลือก  กระทั่งครั้งนี้เขาพยายามจนทำนองที่เขาแต่งได้รับการตอบรับเป็นครั้งแรกในเพลง AWAKE  หากได้ยินคอรัสท่อน “Maybe I, I…” เมื่อไหร่ นั่นคือการเดบิวต์ของเขาในฐานะนักแต่งเพลง 

“นกกำลังดิ้นรนออกจากเปลือกไข่  ไข่คือโลก ใครที่ต้องการเกิดต้องทำลายโลก นกกำลังบินไปสู่พระเป็นเจ้าผู้ทรงพระนามอะบราซัส”

ภาพวาดนกของซินแคลร์ถูกส่งไปถึงเดเมียน เขาใส่กรอบแขวนไว้ภายในบ้าน คล้ายสถานที่ที่ซอกจินเดินเข้าไปในตอนท้าย WINGS Short Film #7 มันถูกประดับด้วยภาพวาดนกจากจองกุก บุลวดลายบนผนังด้วยรูปลักษณ์ของอะบราซัส  สิ่งเหล่านี้ตั้งตระหง่านตลอดเส้นชีวิตทั้งหมดของซินแคลร์เช่นเดียวกัน

Boy Meets Evil

Comeback Trailer เองก็มีคำโปรยของซินแคลร์ (แน่นอน แต่เป็นเสียงนัมจุน)  j-hope เขียนเพลงจากอดีตและหัวใจของเขา ซึ่งเราจะสัมผัสได้ชัดเจนจากการเต้นอันไม่อาจละสายตาไปได้เช่นเดียวกัน

“บาปของผมไม่ได้อยู่ที่สองอย่างนั้น แต่อยู่ที่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับมารร้าย  มารร้ายได้กุมผมไว้ในมือแล้ว ศัตรูอยู่บนไหล่ผมนี่เอง”

สิ่งอันเป็นพื้นฐานและธรรมชาติแห่งชีวิตที่สุดหลายประการถูกมองว่าเป็นมารร้าย เช่น เรื่องเพศ, การเชื่อมั่นในตัวเอง, ความแตกต่าง หรือคำโกหก เราจึงซุกซ่อนมันไว้และมักทุกข์ทรมานเพราะไม่อาจจัดการกับมันได้  ซินแคลร์และเดเมียนคือผู้ที่บอกเล่าว่าเราไม่ใช่มนุษย์คนแรกที่ต้องดิ้นรนเพื่อโผล่พ้นโลกใบนี้  วง BTS และ WINGS ก็บอกเล่าว่าเราไม่ใช่คนสุดท้ายเช่นกันที่ต้องเผชิญชะตากรรมดังกล่าว

เช่นเดียวกับยุค ‘WINGS’ อันวิจิตรงดงามและเร้าอารมณ์ นวนิยาย ‘เดเมียน’ อันเต็มไปด้วยความเป็นมนุษย์ ก็สวยงามเป็นประกายและโศกเศร้าราวจะสิ้นสุดลงทุกเมื่อ  ฉายภาพชะตากรรมท่ามกลางโลกภายในและไฟสงคราม  สำนวนของผู้แปลมือรางวัล คุณ ‘สดใส’ นั้นดีมาก ชวนให้เราอ่านรวดเดียวสองร้อยกว่าหน้าได้อย่างง่ายดาย (หรืออ่านซ้ำบรรทัดเดิมๆเพราะชื่นชม)  เมื่ออ่านจบก็จะพบว่า WINGS มีวัตถุดิบที่เพิ่มเติมจาก HYYH เพราะซินแคลร์นี่เอง(นอกจากองค์ประกอบศิลป์อื่นๆ) เขาอาจเป็นใครก็ได้ใน BU หรือพวกเราทั้งหมด  ฉะนั้น นอกจากนี้อาจเป็นไปได้ว่า คุณจะค้นพบอีกสิ่งหนึ่งซึ่งสำคัญที่สุดก่อนโบยบินสู่วัยผู้ใหญ่  นั่นคือตัวคุณเอง  และอาจมีหวังในการงอกงามของชีวิตมากยิ่งขึ้น เมื่อได้สัมผัสกับมุมด้านของมนุษย์ทั้งหลาย อันเป็นชิ้นส่วนของภาพอันกว้างใหญ่และไร้ซึ่งกาลเวลา ที่กวีและศิลปินผู้อ่อนน้อมเผยให้เราสัมผัสผ่านผลงานแห่งจิตวิญญาณของพวกเขา

เดเมียน แปลโดย สดใส


*คำโปรยบน WINGS Short Film จาก ‘เดเมียน’ ทั้งหมดในบทความนี้ เทียบจากหนังสือ ‘เดเมียน’ ฉบับแปลไทยสำนวนของคุณสดใส

**คำแปลจากบทความของคุณ candyclover

ที่มา | BTS Live : WINGS Behind Story by RM, BTS ‘WINGS’ preview SHOW, ktaebwi, doolset lyrics

?WINGS Concept Book: สัมภาษณ์ SUGA, V, Jungkook แปลโดย candyclover

About the Author /

acupofbts.toei@gmail.com

drinking a cup of hot tea, looking up to the galaxy, you’ll be alright.

Post a Comment