j-hope — เพราะความหวังคือเกราะป้องกันของหัวใจ
เพราะความหวังคือเกราะป้องกันของหัวใจ ความหวังคืออาหารหลักของจิตวิญญาณในตัวเรา ที่ไม่อาจสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่ต้องอาศัยความศรัทธากับความรักในหัวใจเป็นแรงขับเคลื่อน กับความหมายของ “ความหวัง” ที่เราสามารถเรียนรู้จาก j-hope แห่ง BTS
ในทฤษฎี Hierarchy of Needs หรือทฤษฎีลำดับความต้องการของมนุษย์ ของ อับราฮัม เอส.มาสโลว์ ที่ถูกคิดค้นขึ้นเมื่อปี 1943 โดย มาสโลว์ ได้จัดลำดับขั้นตอน ความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ออกเป็น 5 ขั้น ดังต่อไปนี้
2. ความปลอดภัย ความมั่นคง (Safety, Security)
3. ความรัก หรือการเป็นเจ้าของ (Love, Sense of Belongings)
5. การบรรลุความหมายหรือความสมบูรณ์ของชีวิต (Self-actualization)
ความต้องการลำดับที่ 5 นี้ มาสโลว์ ได้จัดไว้เป็นลำดับสุดท้ายนั่นหมายความว่า การบรรลุความหมายของชีวิตเป็นความต้องการสูงสุดในชีวิตของมนุษย์
ในมุมมองของผู้เขียน BTS สามารถอธิบายองค์ประกอบทั้ง 5 ตามทฤษฎีลำดับความต้องการของมนุษย์ ของ มาสโลว์ ได้อย่างแจ่มชัด เพราะพวกเขาสามารถบรรลุความหมายของชีวิตได้ด้วยตัวเอง ในแบบของตัวเองแล้วนั่นเอง
ซึ่งบทความในตอนนี้ผู้เขียนจะมาแบ่งปันเกี่ยวกับสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการใช้ชีวิตที่ผ่านมา ชีวิตที่มีความหวังเป็นองค์ประกอบ โดยมี BTS เป็นส่วนหนึ่งของแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต
แน่นอนว่าผู้เขียนเองก็มีเป้าหมายหรือความฝันที่อยากจะไปถึง เช่นเดียวกับเพื่อน ๆ ARMY ความฝันนั้นก็เปรียบเสมือนยอดพีระมิดตามตามทฤษฎีความต้องการของมนุษย์ คือการบรรลุศักยภาพของตนเอง และบางช่วงบางตอนในการเดินทางของชีวิต มีความยากลำบากในตัวของมันซึ่งเราหลีกเลี่ยงมันไม่ได้ หากหลีกเลี่ยงก็เท่ากับยอมแพ้ แล้วในที่สุดก็จะไม่มีวันได้สัมผัสกับความหมายของชีวิตบนยอดพีระมิดนั้นได้
การมี BTS เป็นแรงบันดาลใจ มุมหนึ่งก็ช่วยให้ ชีวิตง่ายขึ้นเหมือนกันนะ เพราะผู้เขียนสามารถหาความหมาย และสามารถหยิบบทเพลงของพวกเขามาเป็นแรงบันดาลใจได้ตลอดเวลา เป็นแรงขับเคลื่อนอีกแรงหนึ่ง ในชีวิต อีกด้วย
เราเหล่า ARMY ต่างก็รับรู้กันดีว่า j-hope คือตัวแทนของความหวัง เป็นเสียงของความหวังท่ามกลางสังคมที่ยากจะจับแก่นสารความต้องการที่แท้จริงของตัวเองได้อย่างในปัจจุบัน
j-hope เป็นเสียงแห่งความหวังที่สามารถมีตัวตนให้เราสัมผัสถึงได้ และช่วงนี้ ผู้เขียนเอง มีเพลง On The Street เป็นแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตอีกด้วย
On the Street เปรียบเสมือนเส้นทางแห่งความฝัน และเบื้องหลังมีคำว่า hope หรือความหวัง เป็นแรงขับเคลื่อน รายละเอียดในความหวังมีองค์ประกอบที่พอจะสามารถอธิบายเป็นภาพที่ได้เห็นจากเพลงนี้ได้ก็คือ J. Cole คือแรงบันดาลใจ ในเส้นทางดนตรีให้กับ j-hope ภาพ จุดเริ่มต้นของ j-hope กับเด็กน้อย แล้วตัดภาพมาที่ J. Cole บนดาดฟ้า จนกระทั่ง การพบกันของทั้งคู่ นั่นแหละคือแรงขับเคลื่อนของความหวัง
ในด้านการใช้ชีวิต ของมนุษย์ ผู้เขียน สามารถนำทฤษฎีของมาสโลว์ เพื่อทำความเข้าใจความต้องการของตัวเอง และ ในเส้นทางความฝันของผู้เขียน ก็มีลำดับ ขั้น ที่จะไปถึง ความฝันนั้น จากเพลง On the Street ด้วยเช่นกัน จากท่อนนี้ของเนื้อเพลง
Every time I walk
Every time I run
Every time I move
As always, for us
Every time I look
Every time I love
Every time I hope
As always, for us (on the street, I’m still)
ผู้เขียนได้ความหมายจากท่อนนี้ให้กับตัวเอง โดยเริ่มต้นด้วย
Walk หมายถึง การเดินทางก้าวออกจากจุดที่ กำลังยืนอยู่ ณ ตอนนี้
Run หมายถึง ในตอนที่มีพลังล้นเหลือ จงวิ่ง ตามความฝัน
Move ในคำนี้ผู้เขียนให้ความหมาย โดยแบ่งออกเป็น 2 สถานการณ์ด้วยกัน ในส่วนแรกหมายถึง เมื่อออกเดินทางแล้ว นั่นหมายความว่าฉันไม่ได้อยู่ในจุดเดิมอีกต่อไป และ ในสถานการณ์ที่ 2 ก็คือ เมื่อพลังใจเริ่มถดถอยให้พยายามเคลื่อนไหวแม้จะทำได้แค่น้อยนิดก็ตาม
Look หมายถึง มองหาความเป็นไปได้ มองย้อนกลับมาที่ตัวเอง และ มองภาพตามความเป็นจริง และพยายามฝึกฝนตัวเองให้ยอมรับ ความเป็นจริงนั้น
Love หมายถึง ความรักที่ฉันมอบความจริงใจ และความใส่ใจลงไปในความฝัน และทุกขั้นตอนหากปราศจากความรัก หากไม่ใส่ความรักลงไปในนั้น ความฝันของฉันจะมีคุณค่าได้อย่างไร
Hope คือ แหล่งพลังงานสูงสุดของเส้นทางแห่งความฝัน หรือเส้นทางการใช้ชีวิต ต้องอาศัยศรัทธา และความเชื่อใจที่แรงกล้า ในสิ่งที่มองไม่เห็นและไม่อาจสัมผัสทางร่างกายที่เรียกว่า “ความหวัง” หากไม่ปล่อยมือจากความหวัง ความหวังจะเป็นเกราะป้องกันให้หัวใจกลับมาเช่นเดียวกัน แต่มีข้อแม้ว่า ความหวังต้องอยู่บนพื้นฐานแห่งความจริงที่สามารถเป็นไปได้ หวังให้ถึงที่สุดโดยไม่หลอกตัวเอง
และถ้าหากมองดูดี ๆ แล้ว คีย์เวิร์ดทั้ง 6 คำในเนื้อเพลง On the Street นี้ สามารถไปในทิศทางเดียวกันกับทฤษฎีความต้องการของมนุษย์ ของมาสโลว์ ได้อย่างลงตัว คงเป็นเพราะเส้นทางการใช้ชีวิตของเรา กับเส้นทางแห่งความฝันของเรานั้นคือสิ่งเดียวกัน มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน มีแหล่งพลังงานแหล่งเดียวกัน นั่นก็คือ ความรักและความหวัง
มาถึงจุดนี้ผู้เขียนมีความหวังว่า(หรือจะเรียกว่าให้ความหวังกับตัวเองน่าจะถูกต้องกว่า ฮ่าๆๆ) “เมื่อเรามีศรัทธาในความฝันแล้ว ความหวังจะโอบกอดเรา อย่างอบอุ่นด้วยเช่นกัน โดยผ่านทางแรงบันดาลใจของเรา ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง” เมื่อมีความยากลำบากเกิดขึ้น “เราจะยังมีความหวังเป็นเกราะป้องกันให้กับหัวใจ” ความหวังจะฉุดเราขึ้นจากความลำบากนั้นได้เร็วขึ้น และช่วยปลอบโยนใจให้กับเราผ่านถ้อยคำ หรือ บุคคลผู้ซึ่งเรานำมาเป็นแรงบันดาลใจให้กับตัวเอง เหมือนอย่างตอนนี้ที่ผู้เขียนมี ร้านเวทมนตร์ ของ บังทัน ฯ และ อาร์มี่ คอยปลอบโยนใจอยู่นี่ไง
ขอบคุณ พี่โฮป สำหรับรอยยิ้มอันสดใสที่ส่งมาให้กันเสมอ ขอบคุณความรักอันอบอุ่นที่มอบให้กันมาตลอด ขอบคุณที่ทำงานหนักเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ใครอีกหลาย ๆ คน และ อยากจะบอกว่า คำกล่าวของพี่โฮปที่ว่า “I’m your hope” นั้น ไม่ได้กล่าวเกินจริงเลยสักนิดเดียว เพราะ พี่โฮปคือ “Your my hope” ของพวกเราเหล่า Army จริง ๆ ค่ะ
และอีกนิดนึงก็จะถึงวันเกิดของ พี่โฮป แล้ว เพื่อแทนคำขอบคุณ แหล่งพลังงานของความหวัง ของผู้เขียน ผู้เขียนจึง ขอมอบบทความนี้ เป็นของขวัญวันเกิดให้กับโฮปนะคะ และสัญญาว่าหากมีกำลังมากพอ ผู้เขียนจะส่งต่อแสงน้อย ๆ แห่งความหวังนี้ออกไป เช่นเดียวกับที่ พี่โฮป และ บังทัน ฯ ส่งมาให้กัน
“คิดถึงรอยยิ้มของ พี่โฮป”
ปล. เดือนตุลาคมก็แค่หยิบตาเดียวเอง อดทนอีกนิดนะตัวฉัน พี่โฮปจะกลับมาแล้ว ตื่นเต้นรอไปก่อนแล้วกันนะ ฮ่าๆๆ
แหล่งข้อมูล : Urbinner
ภาพจาก : Weverse
เขียนโดย : I AM LUCKY 23
