BTS  หัวใจ  และสื่อนัยแห่งการเปลี่ยนแปลง

BTS และการเปลี่ยนแปล

; แปลบทความ BTS and change (BTS และการเปลี่ยนแปลง) โดยนักจิตวิทยา จาก INQUIRER

หลังเติบโต บนเส้นทางสายดนตรี เป็นปีที่ 9  วง BTS เพิ่งมีประกาศโฟกัสงานโซโล่บ้าง

พวกเขาประกาศ ในทางอย่าง BTS มากที่สุด ด้วยมื้อค่ำออกอากาศอย่างยาว นับชั่วโมง ซึ่งพวกเขาแลกเปลี่ยนบทสนทนา อันเที่ยงแท้จริงใจไว้ต่อกัน ร่วมกับ ARMY แฟนๆของพวกเขา แทนที่จะกล่าวผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ออกมา  พวกเขาเลือกแบ่งปันการไตร่ตรอง แบบไร้การคัดกรอง  ไปสู่การตัดสินใจในปัจจุบัน

เพลงใหม่ของวงเพิ่งถูกปล่อยออกมา เมื่อสัปดาห์ก่อน  “Yet To Come (The Most Beautiful Moment)”  ซุกซ่อนคำสัญญาที่ว่า “สิ่งสวยงามที่สุด จะเดินทางมา ในคราถัดไป (the best is what comes next)”

พวกเขาได้มอบบทเรียนชีวิตมากมายระหว่างทางให้กับเหล่าแฟนๆ  และครั้งนี้ พวกเขาได้แสดงให้เห็นว่า การเปลี่ยนแปลงที่แข็งแรงหน้าตาเป็นอย่างไร

ฉันได้ยินชื่อ BTS ซุปเปอร์สตาร์ระดับโลกครั้งแรก จากคนไข้วัยเยาว์ของฉัน  ในขณะที่มันเป็นปกติของคนทั่วไป กับการกล่าวถึงความสนใจหรือกิจกรรมยามว่างในทางจิตบำบัด  มันก็ค่อนข้างแตกต่างออกไป เมื่อได้ยินว่าวงดนตรีวงหนึ่งดลบันดาลใจให้พวกเขาตระหนักรักในตัวเอง

ฉันทำงานกับคนไข้ ผู้ต่อสู้กับความโศกเศร้าสิ้นหวังอันแทบฐาวร  การได้เห็นดวงตาของพวกเขาฉายวาวขึ้นมา—ในช่วงเวลาที่พูดถึงเนื้อร้องและเรื่องของวง  จวบจนคนเหล่านั้นทำให้พวกเขารู้สึกเดียวดายลดลงได้อย่างไร  บนโลกใบนี้—จึงทำให้ฉันเข้าใจว่า มันไม่ใช่แค่วงใดก็ได้  ประสบการณ์ต่างๆของคนไข้ย้ำเตือนกับฉันว่า  ความหวังและบันดาลใจอาจมาได้จากหลายแห่งหน  รวมถึงดนตรีและศิลปะ  บุคคลช่างถากถางอาจเยาะเย้ยแนวคิดของเหล่าศิลปิน เช่นที่อาจเห็นเป็นประเด็นใน op-ed ชิ้นหนึ่ง  ซึ่งทว่าตัวฉันกลับเคยประจักษ์ด้วยตัวเองแล้ว ถึงอิทธิพลต่อผู้คนของพวกเขา  ทั้งต่อผู้เยาว์และผู้ใหญ่

ข่าวของ BTS ไม่ใช่แค่งานและการโปรโมตเพลงอีกต่อไป  แต่โยงใยประเด็นการทูตนานาประเทศ  เช่นที่พวกเขาขึ้นกล่าวต่อหน้าสหประชาชาติหลายครั้ง  ล่าสุดก็ยังไปในฐานะยุวทูตแห่งเกาหลีใต้ ด้วยหนังสือเดินทางทูต  และไม่กี่วันก่อน พวกเขาก็ได้รับเชิญจากทำเนียบขาว สหรัฐอเมริกา เข้าพบประธานาธิบดี Joe Biden พูดคุยประเด็นอาชญากรรมการเกลียดชังชาวเอเชีย

พวกเขายังเป็นขุมพลังจำเพาะต่อความสุขสงบส่วนตน ของผู้คนทุกวัยในช่วงการระบาด  BTS เขียนเพลงเกี่ยวกับประเด็นทางสังคม เกี่ยวข้องกับผู้คนวัยเยาว์ ตั้งแต่ก้าวเข้ามาในปี 2013  ปลุกปั้นสานต่อคติของบริษัทที่ว่า  “ศิลปินและดนตรีเพื่อการเยียวยา—music and artists for healing”  เช่นเมื่อพวกเขานำเสนอบทเพลงแห่งความหวังและพลังแง่งาม ยามที่ผู้คนต้องดิ้นรนค้นหาความหมาย ภายในช่วงเวลาแห่งการล็อกดาวน์

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต  BTS นับเป็นของขวัญ—ทั้งต่อตัวฉันและคนไข้  บทเพลงของพวกเขาทำให้คนไข้อายุน้อย (และไม่น้อย) ได้รับรู้ถึงความเข้าอกเข้าใจ  สำหรับใครที่ไม่คุ้นเคยกับ BTS  คุณอาจไม่ตระหนักนักว่าพวกเขามีความเป็นมนุษย์มากเพียงใด  พวกเขาแบ่งปันอย่างเปิดเผย—ร้องไห้ให้กับ—การดิ้นรนสับสนบนสายอาชีพของตน  พวกเขาสื่อสารถึงความยากในการรักษาเพอร์โซน่า ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังเวที  พวกเขาไม่มุ่งหวังจะสมบูรณ์แบบหรือเสแสร้งว่าไร้ข้อผิดพลาด  นี่คือแบบอย่างที่เราต้องการสำหรับลูกๆของเรา:  มนุษย์ผู้สามารถพลั้งพลาด และมุ่งมาดเติบโตให้ดียิ่งขึ้น  บทเพลงของพวกเขากลายเป็นภาษาที่คนไข้ใช้สื่อ ว่าแท้จริงแล้วพวกเขารู้สึกอย่างไร    คนไข้ของฉันอ้างอิงประวัติของหนุ่มๆอย่างเป็นอิสระระหว่างประชุม  เป็นอุปมาว่าสิ่งใดคือสิ่งที่พวกเขากำลังเผชิญหน้าด้วยตนเอง ณ ขณะนี้   BTS พร้อมคำสารภาพ ถึงความกังวลใจในการดำรงอยู่และสุขภาพจิต  ได้ช่วยลดการตีตราจากสังคม ประเด็นปมความแข็งแรงทางใจ  มากกว่าบุคคลสาธารณะใดที่ฉันได้รู้จักมา

ยังไม่ครบ 24 ชั่วโมงดีนัก หลังแถลง  ฉันสังเกตว่าแฟนๆกำลังโศกเศร้าในแบบที่แตกต่าง  มันมีความเศร้าอยู่ตรงนั้นแน่ๆ  คงเป็นความว่างเปล่าจากการไม่อาจคาดเดาอนาคต  แต่ฉันก็ยังสัมผัสได้ถึงนัยแห่งความเข้าใจอันสงบนิ่ง  แฟนๆของพวกเขาแสดงให้เห็นว่ามันมีความหมายเช่นไร ในการรักษาความเศร้าของตนเอาไว้  ไปพร้อมกับความสุขของใครอีกคน  ARMY และ BTS มีความหลักแหลมเสมอกันในเรื่องของอีกฝ่าย  และ ณ เวลานี้ ดูเหมือน ARMY จะรับรู้ได้โดยสัญชาตญาณว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ คือสิ่งที่จำเป็นต่อ BTS

การเปลี่ยนแปลงทำให้ผู้คนมากมายหวาดหวั่น  ระลอกแรกของเรานั้นคือการต่อต้าน  โดยทั่วไปเราก็อยากให้อะไรๆเป็บแบบเดิมอยู่อย่างนั้น  เช่นที่ผู้ป่วยบางรายได้กล่าวบรรยายไว้ว่า ฉันยอมทรมานกับสิ่งที่คุ้นเคยเสียดีกว่า ทุกข์ทนกับสิ่งที่ไม่เคยเผชิญหน้า  นี่คือส่วนหนึ่งว่าทำไม  ยกตัวอย่างเช่นที่เราโอดครวญถึงการคงอยู่ของทายาททางการเมืองมากแค่ไหน เราก็ยังทำได้แค่โหวตให้พวกเขากลับมา  ระบบที่บกพร่องคุ้นเคยยังดีเสียกว่า การพึ่งพาระบบที่ไม่เคยลิ้มลอง—การเปลี่ยนแปลง  เมื่อต้องเลี้ยงดูลูก เรามีแนวโน้วจะกลับไปเป็นเช่นที่เราถูกเลี้ยงมา ให้มันพาไปสู่สไตล์ของเรา เนื่องว่าเราคุ้นเคยกับผลลัพธ์ของมัน เมื่อเทียบกับสิ่งใหม่ซึ่งแปลกออกไปสิ้นเชิง  แต่การเปลี่ยนแปลงก็กลับยังเป็นสิ่งสุดวิสัย ไม่มีการเติบโต—ไม่มีการก้าวหน้าใด—เมื่อไร้การเปลี่ยนแปลง  การเปลี่ยนแปลงบางอย่างทำให้สิ่งต่างๆแย่ลงได้  ใช่ค่ะ  และมันก็มีการเปลี่ยนแปลงที่คุ้มค่า

เพื่อนำพาคำกล่าวของบทอธิษฐานแห่งความสงบโดยคร่าว,  ปัญญาอยู่ในญาณหยั่งรู้ว่าสิ่งใดคุ้มค่าจะเปลี่ยนแปลง

.

ที่มา | BTS and change, INQUIRER by Anna Cristina Tuazon

แปลและเรียบเรียงโดย @toei

มื้อค่ำกับ BTS

?ทบทวนคำสารภาพที่กล้าหาญของ BTS
?คำแปล Yet To Come

?BTS ณ ทำเนียบขาว

?ทูตพิเศษฯ BTS

?BTS ณ UNGA ครั้งที่ 75

?BTS ณ UNGA ครั้งที่ 76

About the Author /

acupofbts.toei@gmail.com

drinking a cup of hot tea, looking up to the galaxy, you’ll be alright.

Post a Comment