RAP MONSTER (27 ส.ค. 2015) : การรักตัวฉันเอง

‘แกน่ะ รักตัวเองเหอะ’

การที่จะพูดคำนี้ออกมามันทั้งง่ายและยากในเวลาเดียวกัน จริงๆ แล้วคำจัดความของความรักมันคืออะไรและสีสันของความรักจะเป็นได้สักกี่รูปแบบกัน รักมันไม่ต่างอะไรกับปริซึมเลยครับ มีแต่คนที่มีใจนึกถึงตัวเองจริงๆ ถึงจะเข้าใจในคำพูดนั้น แต่สำหรับคนส่วนใหญ่ที่ไม่รักตัวเองแล้วคำพูดนั้นมันก็เป็นเพียงเมฆหมอกที่จับต้องไม่ได้

เพราะงั้นแล้วแล้วคีย์เวิร์ดที่เป็นรูปธรรมในมุมมองของผมก็คือคำว่า ‘ความกล้า’ และ ‘การให้อภัย’ อาจเพราะหลายๆ ด้านที่น่ารังเกียจของตัวเรา หรือเพราะเราไม่มีความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับความจริงและสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งหากเรามีความกล้าที่จะเผชิญสิ่งต่างๆ มากพอ ผมคิดว่าสุดท้ายแล้วมันก็เป็นสิ่งที่ทำให้เรารักตัวเองไม่ใช่หรอ อยู่ๆ ก็มีความคิดที่ว่าทุกอย่างมันเริ่มต้นจากความกล้าเองนั่นแหละครับ คำที่ไม่มีความหมายอะไรเลยกลับกลายเป็นคำที่พิเศษขึ้นมาอย่างมากเลยสำหรับผมในช่วงนี้

ที่น่าตลกก็คือความกล้านั้นมันก็กลายเป็นคำว่า ‘ภาชนะ’ ได้เหมือนกัน มันยิ่งทำให้ผมเข้าถึงคำๆ นี้เป็นพิเศษยิ่งขึ้นไปอีก สุดท้ายแล้วสิ่งสำคัญก็คือภาชนะที่ได้บรรจุหัวใจเอาไว้ไงล่ะฮะ และท้ายที่สุดตัวผมจะสามารถเป็นภาชนะแบบไหนกัน

ระหว่างการสัมภาษณ์หนึ่งที่ผ่านมาไม่นานนี้ผมเคยได้รับคำถามว่า สุดท้ายแล้วอยากจะใช้ชีวิตแบบไหน ผมตอบไปว่าอยากใช้ชีวิตที่รู้จักให้อภัยครับ เขาจะเข้าใจขนาดไหนหรือจะไม่เข้าใจเลยก็ตาม ยังไงก็ขอบคุณจริงๆ ครับที่พยักหัวหงึกๆ รับคำตอบของผม ใช่แล้วครับ ถึงแม้เท่าที่จะให้อภัยได้มันจะยากเย็นแต่มันก็ไม่เลวร้ายอะไรเลย การจะให้อภัยได้มันไม่เป็นเพียงการให้อภัยเพื่อปลอบโยนสิ่งที่ผมทำผิดไป แต่ผมอยากจะใช้ชีวิตที่ ‘ในท้ายที่สุด’ ผมรู้จักที่จะให้อภัยในทุกสิ่งที่ผมทำได้ การที่ผมรักตัวเองมันก็คือการที่ผมให้อภัยตัวเองได้ไม่ใช่หรอ

สิ่งที่อยู่ๆ ก็นึกขึ้นได้ระหว่างที่ดำเนินชีวิตผ่านกระแสของเวลาที่ไม่มีที่สิ้นสุดก็คือ ในโลกนี้ไม่มีใครที่ ‘เหมือนกับผม’ เลยแต่คนที่ ‘คล้ายกับผม’ กลับมีมากกว่าที่คิด เพราะงั้นคุณคงไม่มีใครเหมือนกับผมสักคน และจะไม่มีใครที่จะมาเข้าใจผมได้สักคนเดียว อย่าร้องไห้เลย ถ้าคุณมีหัวใจที่อบอุ่นแล้ว แน่นอนว่าจะมีคนที่มีหัวใจที่มีความอบอุ่นเหมือนกันที่อยู่ที่ไหนสักแห่งปรากฎตัวขึ้นมาครับ ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็จะเป็นแบบนั้น ต่อให้ไม่มีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นแม้จะใช้ชีวิตด้วยหัวใจอันอบอุ่น

แต่สิ่งที่แน่นอนในโลกนี้ คือสิ่งที่ไม่แน่นอนครับ

เพราะฉะนั้นพวกเรา

ก็ให้อภัยตัวเราเองกันนะครับ

ที่มา | แฟนคาเฟ่
แปลจากเกาหลีเป็นไทยโดย CANDYCLOVER

DMCA.com Protection Status

ทาง CANDYCLOVER มีความยินดีหากผู้อ่านเล็งเห็นประโยชน์ของคอนเทนต์นี้ และต้องการนำไปประกอบเอกสารหรือสื่อทางการศึกษา เผยแพร่ต่อบนโซเชียลมีเดีย รวมถึงนำไปผลิตของที่ระลึก เช่น Giveaway สำหรับแจกฟรี มิใช่การจัดจำหน่าย

หากต้องการนำข้อมูลไปใช้อ้างอิง กรุณาติดต่อทางอีเมลล์ bts.candyclover@gmail.com และรอการตอบกลับที่ระบุว่าอนุญาตแล้วเท่านั้น ยกเว้นกรณีการนำข้อมูลที่ “แปล เรียบเรียง หรือจัดทำโดย CANDYCLOVER” ไปรีโพสต์ ทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไข นำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ รีโพสต์บนแฟนเพจ เว็บไซต์ หรือเว็บบอร์ด ที่มิใช่แพลตฟอร์มของ CANDYCLOVER พร้อมใส่เครดิตเองโดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงนำไปเป็นคอนเทนต์ทางสื่อโทรทัศน์ หรือกระทำการใด ๆ ก็ตามที่เข้าข่ายแอบอ้างผลงาน หากพบเห็นจะดำเนินคดีทางกฎหมายให้ถึงที่สุด

หากท่านชื่นชอบคอนเทนต์ที่ CANDYCLOVER นำเสนอ สามารถให้การสนับสนุนพวกเราได้ง่าย ๆ เพียง 1.) ไม่สนับสนุนแอคเคาต์ที่แอบอ้างข้อมูลที่แปลโดย CANDYCLOVER 2.) รีพอร์ตแอคเคาต์ดังกล่าวผ่านระบบของแพลตฟอร์มที่ท่านพบเห็นโพสต์ที่เข้าข่าย โดยเลือกหัวข้อ “ละเมิดลิขสิทธิ์” 3.) สนับสนุนค่ากาแฟทาง Ko-fi หรือ Patreon

About the Author /

bts.candyclover@gmail.com

I go by the name Candy, a co-founder, admin, designer, translator, writer of and for CANDYCLOVER. I'm a graphic/UI designer and a self-taught Korean translator who's passionate about telling success stories of BTS in the form of mixed media from graphic to web-based experiences. Now, I'm also pursuing my career as a professional Korean translator. My recent book-length translation projects are: I AM BTS (TH Edition), BTS The Review (TH Edition) and more to come!

Post a Comment