กลยุทธ์ผู้นำ: เสียงขับร้องจากสุนทรพจน์ของ BTS
แปลบทความ กลยุทธ์ผู้นำ เสียงขับร้องจาก สุนทรพจน์ของ BTS สารและผู้ส่งสารตัวอย่าง โดยนิตรยสาร Forbes
สัปดาห์ที่ผ่านมา วง BTS บอยแบนด์ยอดนิยมจากเกาหลีใต้ได้เข้าพบประธานาธิบดี Biden เพื่อปิดฉากเดือนแห่งชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย ชาวฮาวายพื้นเมือง และชาวหมู่เกาะแปซิฟิก(AANHPI) เช่นเดียวกับที่โฆษกธรรมเนียบขาว Karine Jean-Pierre นิยามพวกเขาไว้ในการเปิดตัว ณ ห้องแถลงข่าวของเธอ ป็อบไอคอนระดับนานาชาติเหล่านี้ยังควบตำแหน่ง “ยุวทูตผู้เผยแพร่สารแห่งความหวังและพลังบวกทั่วโลก” วัตถุประสงค์ของการประชุมพบปะประธานาธิบดีคือการหารือในวาระความเป็นหนึ่งเดียว สัญลักษณ์ของชาวเอเชีย รวมถึงความหลากหลาย เช่นเดียวกับประเด็นการต่อต้านอาชญากรรมและการเลือกปฏิบัติจากความเกลียดชังเชื้อชาติเอเชีย (รับชม สุนทรพจน์ของ BTS ณ ห้องแถลงข่าวของทำเนียขาว)
สมาชิก BTS แต่ละคนกล่าวแถลงการณ์เป็นภาษาเกาหลีสั้นๆ ซึ่งถูกแปลต่อให้กับเหล่านักข่าวของทำเนียบขาว และออกอากาศผ่านกล้องวิดีโอ แต่ผู้นำของพวกเขา Kim Nam Jun เป็นที่รู้จักในชื่อ RM กลับสื่อสารแถลงการณ์ด้วยภาษาอังกฤษอย่างไร้ที่ติ ทักษะที่เขาได้พัฒนามาตั้งแต่เด็กด้วยการรับชม “Friends” กับคุณแม่ อันที่จริงแล้ว ทักษะการพูดของเขาเองนั้นยอดเยี่ยม เขานำเสนอต้นแบบที่ดีไม่ว่าต่อผู้นำเสนอคนใด
RM ได้สาธิตพรสวรรค์ของเขาในสุนทรพจน์อย่างยาว ที่กล่าว ณ สมัชชาสหประชาชาติ เปิดตัว Generation Unlimite โครงการที่ออกแบบเพื่อมอบการศึกษาและจัดอบรมในการ ”จัดการวิกฤติที่ฉุดรั้งคนหนุ่มสาวหลายล้านคน” สิ่งที่ทำให้สุนทรพจน์ของเขาน่าเอาอย่างคือแนวทางที่เขาเรียบเรียงเรื่องราวของเขาและบอกเล่ามันออกมา; องค์ประกอบสองส่วนสำคัญของการกล่าวสุนทรพจน์หรือการนำเสอใดๆก็ตาม: นั่นคือ สารและผู้ส่งสาร
เพื่อแสดงภาพวิสัยของวิกฤติในคนวัยหนุ่มสาว เขาบอกเล่าเรื่องราวปุถุชนถึงขวบปีที่ยังเยาว์:
“มองย้อนกลับไป ตอนนั้นผมเริ่มกังวลใจว่าคนอื่นจะคิดอย่างไรในตัวผม และเริ่มมองตัวเองในมุมมองของพวกเขา ผมหยุดจ้องมองดวงดาวบนท้องฟ้ายามค่ำคืน ผมหยุดเฝ้าฝันยามกลางวัน ผมพยายามยัดตัวเองเข้าไปในแม่พิมพ์ที่คนอื่นหล่อ ไม่นาน ผมก็เริ่มปิดกั้นเสียงของตัวเองและเริ่มฟังเสียงของคนอื่น ไม่มีใครเรียกหาชื่อของผม เช่นกันกับตัวของผมเอง หัวใจหยุดเคลื่อนไหว ดวงตาต่างหลับใหล เช่นนี้แล้ว ผม พวกเรา ล้วนสูญเสียชื่อเรียก ราวกับดวงวิญญาณ”
จากนั้นเขาจึงอธิบายว่าทำอย่างไร—โดยเพ่งจุดสนใจไปที่ดนตรี ซึ่งเป็น”เขตพักพิงเดี่ยว”ของเขา และโดยผูกพันเข้ากับสมาชิกวง BTS—เขาจึงสามารถกลับตัวได้สำเร็จ
“ผมอาจจะผิดพลาดไปแล้วจากเมื่อวาน แต่ผมจากเมื่อวานก็ยังคงเป็นผมอยู่ดี ผมเป็นคนที่ผมเป็นได้ทุกวันนี้ ก็ด้วยความผิดพลาดทั้งหลายของตัวเอง พรุ่งนี้ผมอาจจะฉลาดขึ้นสักนิด และนั่นก็คือผมเช่นกัน ความผิดพลาดและบกพร่องทั้งหมดนั้นคือสิ่งที่ผมเป็น สรรสร้างหมู่ดาวที่สุกสกาวที่สุดบนกลุ่มดาวแห่งชีวิตของผม ผมได้กลับมารักตัวตน คนที่ผมเป็น คนที่ผมเคยเป็น และคนที่ผมหวังจะเป็น”
จากนั้นเขาก็ขยายสารส่วนตัวออกไปสู่ “เหล่าหนุ่มสาวนับล้าน”:
“ผมขอถามพวกคุณทุกคน ชื่อเรียกของพวกคุณคืออะไรครับ? สิ่งใดที่ปลุกหัวใจของคุณและทำให้มันกลับมาเต้นได้อีกครั้ง? บอกเล่าเรื่องราวของคุณสิครับ ผมอยากได้ยินเสียงของคุณ และผมอยากได้ยินความเชื่อมั่นของคุณ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร มาจากที่ไหน ผิวสีอะไร ไม่สำคัญเรื่องเพศสภาพ: เปล่งออกมาด้วยตัวคุณเอง ตามหาชื่อเรียกของคุณ สุ้มเสียงของคุณ ด้วยการเปล่งมันออกมา ด้วยตัวของคุณเอง”
คุณสามารถเห็นทักษะการสื่อสารของ RM ได้ในวิดิโอสุนทรพจน์ 6 นาทีของเขา บันทึกเป็นการเฉพาะต่อการสื่อสารผ่านสายตาอันทรงประสิทธิภาพสู่ผู้ชมจำนวนมาก—แม้เขาจะใช้บันทึกข้อความช่วย เขาทำแบบนี้ด้วยการชำเลืองมองบันทึกระหว่างจุดพักมากกว่าขณะจุดพูด เทคนิคพื้นฐานนี้ทำให้เขาดูมั่นใจมากกว่าดูลอกแลก
การเว้นช่องว่างยังทำให้เขาสามารถรวมร้อยถ้อยความเป็นขบเสียงอันสมบูรณ์ มากเท่าเทียมกับที่เขาเอ่ยเนื้อเพลงเมื่อขับร้อง เทคนิคนี้สำคัญอย่างมากสำหรับผู้ฟังเช่นสมัชชาสหประชาชาติ ที่ซึ่งภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองของหลายๆชาติ—เช่นเดียวกับโลกใบนี้ที่กำลังกระจายขยายกว้างออกไป จังหวะจะโคนที่ชัดเจนทำให้ผู้ฟังทั้งหมดเข้าถึงได้ง่าย มีความเข้าใจ และคล้อยไปตาม
เช่นนี้ RM ได้สร้างสุนทรพจน์ ให้เกิดสุรเสียงขับร้อง
.
แปลและเรียบเรียงโดย @toei
ที่มา | Forbe | BTS Makes Speech Sing by Jerry Weissman