
“Speak Yourself” สุนทรพจน์จากคิมนัมจุน BTS ที่ชวนให้กลับมาค้นหาตัวเองได้เสมอ

“บางทีเมื่อวานนี้ผมอาจะเคยทำผิดพลาด ตัวผมคนเมื่อวานก็ยังเป็นผม ผมในวันนี้ก็คือตัวผมพร้อมความผิดพลาดและข้อบกพร่องต่างๆ ในวันพรุ่งนี้ผมอาจจะฉลาดขึ้นอีกหน่อย แต่นั่นก็ยังเป็นผมอยู่เช่นเดิม ความผิดพลาดและข้อบกพร่องเหล่านี้คือสิ่งที่ผมเป็น”
– คิม นัมจุน
สุนทรพจน์บนเวที UNICEF 2018
ก่อนอื่นต้องขอเล่าก่อนว่า จุดเริ่มต้นของ BTS กับตัวผู้เขียนเอง เพิ่งจะเริ่มต้น เมื่อปลายปี 2020 เชื่อว่า เป็นปีที่หนักหน่วงสำหรับเราทุกคนรวมไปถึงตัวผู้เขียนเองด้วย เนื่องจากต้องเผชิญกับเชื้อ ไวรัส COVID-19 น่าจะเป็นการเริ่มต้นความผูกพัน ที่อาจจะแปลก แตกต่างจาก Army ท่านอื่นสักหน่อย เพราะไม่ได้เริ่มต้นจาก การติดตามผลงานเพลง ไม่ได้เริ่มต้นจากการติดตามตัวศิลปินเอง แต่เป็นการเริ่มต้นจากการเรียนภาษาอังกฤษผ่านทางช่องยูทูป โดยบังเอิญเจอคลิป “BTS speech at the United Nations | UNICEF”
เพราะคลิปนี้ ซึ่งเป็นการกล่าวสุนทรพจน์ไว้ตั้งแต่ ปี 2018 จำได้ว่าใช้เวลาจมอยู่กับสุนทรพจน์นี้นานพอสมควรเลย ฟังซ้ำไป ซ้ำมา หลายรอบมากๆ เพราะเนื้อหาที่พวกเขากำลังสื่อออกมา มันตรงกับ ความรู้สึกของผู้เขียนในช่วงนั้นไปหมด ไม่ว่า ความกังวลว่าคนอื่นจะมองเราแบบไหน การจมอยู่กับความผิดพลาดที่ผ่านมาของตนเอง ความกดดันจากการคาดหวังต่าง ๆ ทั้งจากตัวเอง และคนรอบข้างเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นแทบจะตลอดเวลา และ กลัวที่จะลงมือทำอะไรที่อยากทำจริง ๆ กลัว ผิดหวัง กลัวผิดพลาด เป็นช่วงเวลาที่สับสน ความคิดตีกันเองมากที่สุด ช่วงหนึ่งของชีวิตเลยก็ว่าได้
นั่นทำให้ผู้เขียนรู้สึก หลงรักพวกเขาในทันที่เลยก็ว่าได้ ยังพูดกับเพื่อนเลยว่า “พวกเขาเจ๋งอะ” ก่อนหน้านี้ใช่ว่าจะไม่รู้จักพวกเขาเลย ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยได้ยินเพลงของพวกเขา (แค่ได้ยิน แต่ไม่เคยเข้าไปฟังอย่างจริงจังเลยสักครั้งค่ะ) และไม่ใช่ว่าจะไม่เคยได้ยินคนพูดถึงผลงานของเขามากมายขนาดไหน รู้จัก ได้ยิน แต่ไม่เคยได้ติดตาม ที่ไม่ได้ติดตามนั้นไม่ใช่ว่าตัวเองจะไม่ชอบวงการไอดอลหรอกนะ จริง ๆ แล้วก็ติ่งประมาณหนึ่งเลยแหละ แค่ก่อนหน้านี้มีความสนใจและโฟกัสที่เรื่องอื่นมากกว่า คงเป็นปกติของวัยเริ่มทำงานที่ต้องเริ่มคิดถึงอนาคตตัวเองให้มากขึ้นด้วย
และหลังจากที่ได้ฟังสุนทรพจน์ในครั้งนั้น ได้ให้คำตอบกับตัวผู้เขียนเองเป็นคำตอบที่ให้ความหมายลึกซึ้ง “เพราะเราแต่ละคนไม่สมบูรณ์แบบ เราเคยทำพลาด และเราจะยังคงผิดพลาดได้ตลอด ไม่ว่าอย่างไร คน ๆนั้น ก็คือตัวเราเอง ยอมรับ โอบกอดและปลอบโยน ความผิดพลาดของตนเอง อย่ากลัวที่จะเป็นตัวเอง เมื่อเรารักและเมตตาต่อตนเองได้ เราก็จะใจกว้างพอ ที่จะรักคนอื่น หรือสิ่งมีชีวิตอื่นบนโลกใบนี้ ไม่ต้องเป็นใคร แค่เป็นตัวเองในวันนี้ให้ดีขึ้นกว่าเมื่อวานก็เพียงพอแล้ว”
หลังจากนั้นก็ได้เริ่มทำความรู้จักกับสมาชิกในวง BTS แต่ละคน เข้าไปฟังเพลง หมายถึง ฟังจริงๆ ค้นหาความหมายของแต่ละเพลง ทำให้ยิ่งรับรู้สิ่งที่พวกเขาพยายามสื่อ ได้มากขึ้น นี่คงจะเป็นเหตุผลที่แท้จริงของคำว่า “จังหวะของเวลาของเราแต่ละคน” การพบกันในเวลาที่เหมาะสมทำให้สิ่งต่างๆที่ธรรมดา ๆ มีคุณค่า ทำให้เข้าใจบางอย่างได้ลึกซึ้งขึ้นคงเป็นแบบนี้นี่เอง
จากความประทับใจแรกเริ่ม จนถึงตอนนี้ สุนทรพจน์นี้ก็ยังคงเป็นแรงบันดาลใจ เป็นกำลังใจในวันที่ความท้อใจ ความสงสัยในตัวเองที่วนเวียนกลับมารบกวนความรู้สึกอยู่เรื่อยมารวมถึงเวลาที่เผลอกดดันตนเองจากความคาดหวังของตัวเองจนเกินไป ยังคงย้ำเตือนตัวเองอยู่เสมอว่า “ความผิดพลาดคือส่วนหนึ่งในตัวเรา ให้อภัยตัวเอง ใจดีกับตัวเองให้มาก ๆ มันโอเคที่จะทำผิดพลาด” เพราะเราเองไม่สามารถควบคุมทุกอย่างได้ หากพยายามจนถึงที่สุดแล้ว สิ่งที่ควรตัวเราเองน่าจะทำคือ ควรจะขอบคุณตัวเองที่ได้อดทนและพยายามมาโดยตลอด
สุดท้ายผู้เขียนเองอยากบอกกับผู้อ่านทุกคนว่า เพราะเราเป็นสิ่งสวยงามของโลกใบนี้ สวยงามในแบบของตัวเอง อาจจะมีมุมหยาบกระด้างที่ไม่อยากนึกถึง มีความน่ารักในบางมุม ขาดไปนิด เกินไปหน่อย ก็ขอให้ภูมิใจในความไม่เหมือนใครของตัวเอง อาจจะต้องใช้เวลาในการแสวงหาคุณค่าในตัวเอง แต่เราจะทำมันได้ ในทีเล็กทีละน้อย
และหากสามารถทำได้อีกนิดก็อยากที่จะสามารถแลเห็นคุณค่าของผู้อื่นรวมถึงสิ่งต่าง ๆ ให้ได้ด้วยเช่นกัน เพื่อที่จะสามารถเข้าใจ และยอมรับในความแตกต่างที่มีอยู่รอบ ๆ ตัว มากขึ้น เมื่อเข้าใจได้มากขึ้น การตัดสินน้อยลง นี่อาจจะเป็นความสุขอย่างหนึ่งที่ตามหาก็ได้นะ
“เรามาค้นหาคุณค่าในตัวเองไปพร้อม ๆ กันกล้าที่จะเป็นตัวเราเองอย่างมีคุณค่า เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ”
เขียนโดย: iamlucky23
คำแปล: ฟัง RM กล่าวสุนทรพจน์บนเวที UN – Workpoint News – YouTube
แหล่งที่มา : BTS speech at the United Nations | UNICEF – YouTube