
รวมทุกเรื่องราวจากมิกซ์เทปแรกสุดของวง BTS, ”Born Singer”
สดับ “Born Singer” รวมทุกเรื่องราวจากมิกซ์เทปแรกสุดของวง BTS—แปลบทความรีวิวเพลงโดย Randy Suh, weverse magazine
ดนตรีมีอำนาจวิเศษเก็บรักษาความทรงจำ ความทรงจำอันไม่อาจจับต้องได้ และเราอาจจัดเก็บไว้ในถ้อยคำหรือรูปถ่าย ซึ่งบางสิ่งไม่ว่าอย่างไรก็สลายหายไปเป็นอากาศ มันไม่ใช่งานง่ายเมื่อภาษาไม่อาจเทียบเท่าอารมณ์อันชัดแจ้ง แต่ช่วงเวลาที่เราวางดนตรีลงและฟังเพลงโปรดชิ้นเก่า ราวกับว่าเราย้อนคืนวันเหล่านั้นกลับมาได้ บางครั้งฉันก็รู้สึกตกใจ ที่ห้วงอารมณ์อันเก่าซึ่งยากจะพรรณนา หรือเหตุการณ์อันเฉพาะเจาะจงรวมทั้งความรู้สึก ณ เวลานั้น พากันพุ่งพรวดกลับมาในคราวเดียว พร้อมประจักษ์แท้จริงที่ว่าความทรงจำเหล่านั้นยังหลงเหลืออาศัยอยู่ภายในตัวฉัน นี่แล่ะคือพลังของดนตรี มันสัมผัสถึงทุกสิ่งที่ล้ำค่ากว่า เพราะมันกลับมาสู่เราโดยไม่พึ่งพาสัมปชัญญะใดๆ
“Born Singer” คือที่ระลึกจากวันแรกสุดของ BTS รวมถึงการเดบิวต์ของพวกเขา วงได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ณ วันที่ 13 มิถุนายน 2013 แต่เริ่มโชว์เคสไปในวันที่ 12 และปล่อยเพลงแบบไม่เป็นทางการชื่อ “Born Singer” ผ่าน SoundCloud และ YouTube หนึ่งเดือนพอดิบพอดีในวันที่ 12 กรกฎาคม เมื่อแทร็กลิสท์ของ ‘Proof’ ถูกปล่อยออกมา “Born Singer” ก็เปิดเผยว่าจะเป็นเพลงแรกบนอัลบั้มรวม ซึ่งมีกำหนดปล่อยในมิถุนายนนี้ นำพาความทรงจำทั้งหลายกลับมาสำหรับแฟนๆที่รู้จักเพลงนี้เป็นอย่างดีและยังสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ที่ได้ยินเรื่องของมันเป็นครั้งแรก
Born Sinner
ตัวเพลงอ้างอิงจาก “Born Sinner” ของ J. Cole ซึ่งปรากฏเป็นเพลงหลักตอนท้ายในอัลบั้มปีสองของเขา ปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2013 บอกกล่าวเรื่องราวคำมั่นสัญญาของแรปเปอร์หนุ่มที่ว่า เขาจะทำมันให้ดีกว่า: “I’m a born sinner … But I live better than that.”—“ผมเป็นคนบาปโดยกำเนิด … แต่ผมอยู่ต่อไปได้ดีกว่านั้น” J. cole เป็นหนึ่งในดาวรุ่งพุ่งไกลจากวงการเพลง hip hop ของอเมริกาในเวลาดังกล่าว การที่ BTS ปล่อยเพลงที่ใส่ภาษาเกาหลีเข้าไปในเนื้อร้องของทำนองสุดร้อนแรงเวลานั้น แสดงให้เห็นว่าตัววงให้ความสนใจอย่างแรงกล้าต่อวงการเพลง hip hop ร่วมสมัย พวกเขายังนำเสนอความสามารถในการบอกเล่าเรื่องราว ผ่านการเพิ่มเนื้อร้องใหม่ในเพลงเดิม เช่นเดียวกับที่ศิลปินหน้าใหม่ใดๆจะกระทำ แต่พวกเขาไม่ได้เลือกเพลงง่ายๆเพียงเพราะว่ามันฮิตหรอกนะ; BTS แสดงความเคารพต่อ J. Cole อย่างแท้จริงหลายครั้ง j-hope ชื่นชอบแรปเปอร์คนนี้เป็นพิเศษ ถึงขนาดอุทิศเนื้อร้องเต็มสองบรรทัดให้กับเขาในเพลง “Hip Hop Phile” จากอัลบั้ม Dark&Wild สตูดิโออัลบั้มแรกของวง และยังตั้งชื่อมิกซ์เทปแรกของเขาว่า Hope World คล้องกับอัลบั้มเดบิวต์ของ J. Cole, Cole World: The Sideline Story สมาชิกคนอื่นของ BTS ก็แสดงความชื่นชอบนับครั้งไม่ถ้วนต่อ J. Cole เช่นกัน ผ่านการแนะนำเพลงของเขาให้กับแฟนๆมากมายหลายครั้ง J. Cole นั้นหาตัวจับยากท่ามกลางนักประพันธ์เพลง hip hop ช่วงต้นทศวรรษ 2010 การประพันธ์เนื้อร้องอันสุขุมในช่วงเวลาที่ดนตรีปาร์ตี้คือเพลงกระแสหลัก ในฐานะโปรดิวเซอร์ เขาสร้างบีทส์ร้อยกรองอันเป็นเอกลักษณ์ ด้วยทักษะด้านดนตรีที่มีตามธรรมชาติตั้งแต่เด็ก สมาชิก BTS เอง อยู่ในช่วงสิบปลายไปยี่สิบต้น ณ เวลานั้น—ที่คลื่นลูกใหม่แห่ง hip hop สาย lyrical ถูกนำทัพโดย J. Cole และ Kendrick Lamar เต็มอัตราศึก—พวกเขาใช้เวลาในช่วงเทรนนี่ไปกับการฟังเพลงแนวนั้นเลย ดนตรีอย่างโคลงกวีอันเป็นเอกลักษณ์ของ J. Cole ซึ่งสมาชิกหลงใหลเป็นอย่างมาก ยังคงอยู่ภายใน DNA ของ BTS จนถึงทุกวันนี้ และเราจะยังคงได้ยินเสียงของมันอยู่ตรงนั้นตรงนี้ในเพลงใหม่ๆของพวกเขาเสมอ
“Born Singer” อัดแน่นไปด้วยความทรงจำ 20 วันแรกหลังการเดบิวต์ของวง BTS คุณอาจคิดว่าทันทีที่เดบิวต์ คงจะท่วมท้นไปด้วยความยินดีเพียงอย่างเดียว ทว่ามันไม่ได้เป็นเช่นนั้นสำหรับ BTS ภาพลักษณ์ของพวกเขาถูกขนานนามว่าเป็น hip hop idol ปลุกการโต้แย้งรุนแรงท่ามกลางแฟนเพลง hip hop และ idol เช่นกันทันทีจากจุดเริ่มต้น แม้แต่ก่อนเดบิวต์ มีกลุ่ม K-pop ก่อนหน้า BTS ที่เปิดตัวแบบ hip hop idol ในทำนองเดียวกันอยู่แล้ว แต่เพลงส่วนใหญ่ของพวกเขาสะท้อนบรรยากาศปาร์ตี้แบบ hip hop หรือใกล้ชิดติดอยู่กับมาตรฐานแบบ K-pop ซึ่งผู้ฟังเปิดรับมากกว่า ในขณะที่ BTS อาจเดินหน้าปล่อยแทร็กที่ใกล้เคียงกันด้วยตัวพวกเขาเอง จุดยืนแยกแตกต่างเริ่มต้นของพวกเขาคือความเที่ยงแท้ ซึ่งมากเท่ากับความภาคภูมิใจในดนตรีแบบ hip hop พวกเขาอาจยังเยาว์วัยและไม่เพียบพร้อมสมบูรณ์ แต่พวกเขาแต่งเนื้อร้องในครรลองที่ตนรู้จักและอยากถ่ายทอดถึง เช่นเรื่องราวของโรงเรียน และเช่นเดียวกับศิลปิน hip hop อื่นๆ พวกเขาทำมิกซ์เทปและอัพโหลดลง SoundClound หากหนึ่งในลักษณะนิยามของ K-pop คือปรารถนาจะก้าวข้ามอคติแล้วล่ะก็ การเคลื่อนไหวของ BTS ก็แตกต่างออกไปในเส้นทางที่ทอดยาวของแรงขับดังกล่าว เอาแค่ในฐานะ idol ที่สามารถร้องเพลงและเต้นสดๆเพื่อตอกกลับการทึกทักว่า idol ร้องเพลงไม่ได้เรื่อง BTS ค้นพบชุดความคิดที่ว่า idol ไม่สามารถเขียนเนื้อร้อง “ที่แท้จริง”ได้ และสู้กลับไปยังอคติเช่นว่า นับมาตั้งแต่แม้ก่อนเดบิวต์ อย่างไรก็ตามความพยายามในช่วงต้นของพวกเขาก็ยังไม่ถูกยอมรับอย่างกว้างขวาง กลับมีแต่แรงเสียทาน เนื้อเพลงของ “Born Singer”ยังคงหลงเหลือบันทึกอันชัดแจ้งถึงแรงตอบสนองของผู้คนหลังเดบิวต์และพวกเขารู้สึกอย่างไรตอบรับกลับมัน
Born Singer
การได้เดบิวต์สู่เสียงวิจารณ์ ด้วยเรื่องจริงแท้แค่ไหนในความเป็น hip hop ของพวกเขา เนื้อเพลงของสมาชิก BTS ในวัยเยาว์นั้นรสหวานปนขม เข้าได้กับบีทของ “Born Sinner” ซึ่งมีเรื่องราวสองขั้วในตัวเพลง ระหว่างบาปกำเนิดและพิธีชำระบาปอย่างคริสตชน ไม่เหมือนกับเวอร์ชั่นของ J. Cole เพลงของ BTS เปิดตัวด้วยเสียงคอรัส ราวบทสวดส่งร้อยถ้อยเรียงผ่าน Born Sinner สู่เสียงของ Jung Kook, Jin, V และ Jimin เปลี่ยนเป็นบางสิ่งซึ่งใกล้เคียงกับคณะประสานเสียงบนเวทีมากกว่า SUGA เผยความโกรธขึงต่อข้อกล่าวหาซึ่งควรจะเป็นมากกว่าความผิดหวังธรรมดา เขารู้สึกเหมือนโดนทิ้งขว้างกับความพยายามทำบางอย่างที่แตกต่างของ BTS เวิร์ส 20-bar ของ RM นั้นควรค่าสมราคาของมัน: ความหวาดหวั่นต่อการทำให้ผู้คาดหวังสูงต้องผิดหวัง อย่างไรเสียความรู้สึกต่างๆก็ชัดเจนโจ่งแจ้งและเปลือยเปล่าเกินกว่าเพลงไหนในอัลบั้มจริง แม้แต่จากนี้ไป เวิร์สของ j-hope ขมวดส่วนของทุกคนเอาไว้ด้วยกัน เปลี่ยนชุดประสบการณ์ส่วนตัวของแต่ละคนสู่ประสบการณ์ร่วมหนึ่งเดียวกันของวง ยิ่งไปกว่านั้น ในคอรัสสุดท้าย พวกเขาขับร้อง a capella พร้อมกับปรบมือ ชักชวนให้เหล่าแฟนๆ ARMY เข้าร่วมการแสดง 16 bars สุดท้ายนี้ของ “Born Singer” นำความตั้งใจของ BTS ที่จะพาเพลงไปสู่ความทรงจำไม่เฉพาะระหว่างสมาชิกวงเท่านั้นแต่ร่วมกับผู้ฟังที่ตั้งอกตั้งใจเช่นเดียวกัน หากจะกล่าวเช่นนั้น “Born Singer” ก็เป็นบทสวดสรรเสริญแรกเริ่มของ BTS และ ARMY อย่างแท้จริง
ดนตรีที่บรรจุความสามารถพิเศษข้างต้น ซึ่งปกปักรักษาความทรงจำทั้งหลาย อาจพูดได้ว่าเกี่ยวข้องกับความทรงจำระยะยาวชื่อว่า ความทรงจำโดยปริยาย ข้อมูลด้านภาษาจะถูกนำพาผ่านเนื้อร้องและหลงเหลืออยู่ในความทรงจำที่บอกเล่าได้โดยสัมปชัญญะ เรียกอีกอย่างว่า ความทรงจำเชิงประกาศ หากแต่ภาพและความรู้สึกที่หนักหน่วงต่อห้วงนำของเนื้อร้องเมื่อสอดคล้องกับทำนองเข้าเสียแล้ว จะถูกบรรจุสู่ห้วงความทรงจำโดยปริยายซึ่งอยู่ภายใต้จิตไร้สำนึก และมันไม่จำเป็นเลยที่ต้องอยู่ตรงนั้นในปี 2013 เพื่อได้สัมผัสถึงความหนักแน่น; ไม่ว่าคุณจะได้ยินมันในวันที่ถูกปล่อยบน SoundClound ระหว่าง BTS LIVE TRILOGY: EPISODE I. BTS BEGINS ปี 2015 ณ BTS LIVE TRILOGY EPISODE III THE WINGS TOUR THE FINAL ปี 2017 หรือแทร็คแรกของอัลบั้ม Proof ในปี 2022 คุณก็เป็นเจ้าของประสบการณ์ที่หนักแน่นของตัวคุณเองแล้ว หรือไม่ก็อีกในไม่ช้า “Born Singer”สร้างสำเนาทางความรู้สึกทั้งหมดของ BTS ช่วง 20 วันแรกจาก 12 มิถุนายน 2013 ออกไปไม่มีที่สิ้นสุด หลายล้านครั้ง หรือไม่ก็หลายสิบล้านครั้ง ด้วยเหล่า ARMY มันถูกเก็บรักษาไว้ในความทรงจำของพวกเขา ในลู่ทางส่วนตนของพวกเขาเอง ความสามารถของดนตรีที่เจาะลงตรงใต้จิตสำนึกมอบพลังในการดึงประสบการณ์ส่วนบุคคลออกมาสู่ผิวสัมผัส และเป็นไปได้ว่ามันอาจจะสามารถสร้างประสบการณ์ร่วมให้มีรูปร่างขึ้นมา ด้วยงานเพลงเช่น “Born Singer”
การฟังเพลงทุกวันนี้แทบจะเป็นประสบการณ์ส่วนตัวเสมอไปเสียแล้ว ด้วยการเพิ่มขึ้นของจำนวน Sony Walkman ในศตวรรษที่ 20 เป็นเรื่องปกติเสียแล้วที่จะฟังเพลงผ่านหูฟัง และความนิยมใน Apple iPod ก็เพียงเร่งตัวไปตามกระแสนิยมดังกล่าวเท่านั้น ทุกวันนี้บริการสตรีมมิ่งเพลงอันเป็นที่นิยมสูงสุดทั่วโลกต่างแนะนำเพลงส่วนบุคคลผ่านอัลกอริทึม ในขณะที่มันสนุกดีที่ได้ครองบางสิ่งซึ่งคุณเท่านั้นที่สามารถมีความสุขกับมันได้ ก็ยังมีแนวโน้มหนึ่งซึ่งกำลังเติบโตอยู่ตรงนั้น เป็นจำนวนที่เคยหดหายไปของเพลงฮิตซึ่งถูกรับฟังเป็นวงกว้าง บนโลกใบนี้ที่แตกเป็นเสี่ยงด้วยรสนิยม BTS คือใจกลางของสังคมที่ก่อร่างสร้างฐานแฟนเพลงขนาดใหญ่ที่สุด ทำให้วงกลายเป็นเป็นบางสิ่งซึ่งผู้คนมากมาย—ARMY ที่กระจัดจายไปทั่วโลกได้เชื่อมต่อออนไลน์เข้าด้วยกันเป็นการเฉพาะต่อความสนใจร่วม แม้ในปี 2022 เมื่อไหร่ที่ผู้คนได้ยินเพลง “Born Singer” พวกเขาก็จะรู้สึกร่วมไปกับวงดนตรีซึ่งครั้งหนึ่งเป็นเจ้าของอนาคตซึ่งไม่แน่นอน ความทรงจำที่ครั้งหนึ่งเคยถูกขังอยู่ในพวกทั้งเจ็ดคนกลับถูกขยายหลายเท่าผ่านงานเพลง และกว้างไกลไปมากพอที่จะเป็นตัวแทนความทรงจำส่วนบุคคลของผู้ฟังได้เช่นเดียวกัน และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมในตอนนี้ปี 2022 “Born Singer”จึงยิ่งใหญ่เยี่ยงเพลงสดุดี เยี่ยง ARMY ที่เป็นกลุ่มแฟนคลับระดับโลก
.