‘Proof’ against prejudice | บทพิสูจน์ต่ออคติที่ BTS และ ARMY ร่วมก้าวข้าม

‘บทพิสูจน์’บรรยาย BTS ARMY against prejudice —เมื่ออัลบั้ม ‘Proof’ โคจรพบ บรรจบปีที่ 9  ของผองเหล่าผู้ต่อต้านอคติ

ชื่อที่ทุกคนหัวเราะร่า ที่ขายขี้หน้าเมื่อพูดออกมา เครื่องพิสูจน์ที่กลายเป็นเหล็กกล้า ฆ่าไม่ตาย (Bullet-Proof)

– We are Bulletproof : The eternal, BTS
(KR/TH : candyclover)

‘Bullet-Proof’ against prejudice

คอนเซ็ปต์โฟโต้เวอร์ชั่นแรกของ ‘Proof’ ส่งรับกับ ความสรุปหลักช่วงวันแรกของ ‘BTS’ เสียหมดจด จากอัตลักษณ์ดั้งเดิมอย่าง Hip-Hop  เอกลักษณ์แบบ ‘BangTan Sonyeondan(방탄소년단)’  และอุปมานามนิยามอย่าง ‘Bulletproof Boy Scouts’  ก้าวสู่คำโปรยเยี่ยง “ผู้ต่อต้านอคติและการกดขี่ข่มเหง”  นั่นเองคือพวกเขา ที่ขับร้องปลอบประโลมจิตวิญญาณร่วมสมัย —ร่วมกับ ‘ARMY’(Adorable Representative M.C. for Youth) ที่สดับขานรับอย่างตั้งอกตั้งใจ  จวบจนปีที่ 9  ซึ่งบันทึกเรื่องราวได้ถูกทบทวนศึกษา ดั่งจารึกข้อพิสูจน์ที่น่าจดจำยิ่งขึ้นตามกาลเวลา  ตอกย้ำเนื้อความที่ว่า ถ้ามีเราอยู่ร่วมเคียงข้างกัน  ‘เกราะ’ ก็กัน ได้แม้แต่กระสุน—“We are together bulletproof”

บทพิสูจน์ 2019 | BTS and ARMY Grow together Fighting against prejudice by Prof. Lee

แปล Talk ฉบับเต็มจากอังกฤษเป็นไทย

“แต่อย่างที่ทราบกันดี ก่อนที่พวกคุณจะมาเจอ BTS ผ่านหน้าข่าวทุกวันนี้… 

คุณเคยรู้จักพวกเขาไหมคะ?”

— ศาสตราจารย์ Lee Jiyoung ผู้เขียนหนังสือ ‘BTS Art Revolution’ กล่าวบรรยายในงาน Time to change the world, Sebasi Talk ณ ปี 2019 ในหัวข้อ “BTS and ARMY Grow together Fighting against prejudice” (BTS และ ARMY เติบโตร่วมกันต่อต้านอคติ)

บอกเล่าเรื่องราวว่าแม้เราจะจริงจังตั้งใจ บรรจุกระสุนอคติก็ยังถูกลั่นไก ไม่จบสิ้นเช่นกัน  ศาสตราจารย์ Lee แบ่งปันกรณีศึกษา การเผชิญหน้าต่อต้าน “แรงกดทับ(oppression) และ อคติเชื้อชาติ(racism)” จากวงการเพลงเกาหลีใต้ ไปจนถึงสหรัฐอเมริกา —BTS คือผู้ไร้แต้มต่อ ที่มาจากบริษัทเล็กๆ และประเทศเล็กๆ  การแบ่งแยกและกดขี่ข่มเหงจึงเกิดขึ้นเสมอ ไม่ว่าพวกเขาจะเจอเข้ากับเกทคีปเปอร์ที่ไหน

“…แต่ ARMY ไม่ยอมแพ้
ไม่ว่าผลตอบรับแง่ลบใดที่พวกเขาเคยได้รับ
แฟนๆรู้ว่าเพลงของ BTS นั้นยอดเยี่ยมและมีพลังเปลี่ยนแปลงผู้คนได้
พวกเขามีภารกิจระดับประวัติศาสตร์
เพื่อจะเผยแพร่ดนตรีนี้ออกไปอย่างกว้างขวาง
พวกเขาหมั่นขอเพลงไปที่สถานีวิทยุและร้านค้าเครือ Billboard chart
พวกเขาแวะไปทุกๆวันหลังเลิกงานและพูดว่า
“ทำไมไม่มีอัลบั้มของ BTS เลย?
,ฉันอยากได้สักหน่อย”,
“ทำไมอัลบั้มของ BTS ยังไม่มาอีกนะ?”
ทำแบบนั้นเป็นประจำทุกวัน
ทั่วทั้งประเทศ
จนในที่สุด สหรัฐฯได้ติดต่อสมาคมดนตรีเกาหลีใต้เข้ามา—และขอส่งออกอัลบั้มของ BTS
อัลบั้มของ BTS จึงถูกส่งออกอย่างเป็นทางการได้เป็นครั้งแรก…”

เมื่อถึงจุดนั้น… ห้องประชุมต่างพร้อมกันปรบมือให้ ARMY เพราะนี่คือการขับเคลื่อนทางวัฒนธรรมของคนธรรมดา  ซึ่ง ณ เวลานั้น หากให้พูดถึงเกาหลีใต้ คงมีได้แค่คำถาม ’ซัมซุงหรือเปล่า?’ ไม่เกินนี้

ย้อนกลับมาที่เอเชีย  ประเทศญี่ปุ่นอันเปี่ยมชาตินิยม เหตุการณ์ถอด BTS ออกจากรายการโทรทัศน์  เพราะเหตุโต้แย้งรุนแรงถึงเสื้อยืดตัวหนึ่ง ซึ่งถูกเชื่อมโยงกับประเด็นเปราะบางทางประวัติศาสตร์ (แม้ถูกสวมใส่ในอีเวนท์ที่ไม่เป็นสาธารณะ)—ศาสตราจารย์ Lee เล่าว่า การกระพือขายข่าวของสื่อทั้งในและต่างประเทศ ท่วมทวีรุนแรงข้ามทวีป  การไม่อาจเท่าทันสื่อ ส่งผลเจ็บปวดมากมายหลายฝ่าย  ฉะนั้นแล้ว ARMY จึงตัดสินใจได้;  พวกเขาเพียรพยายามร่วมกัน ทบทวนเอกสารและตรวจสอบรายงานเท็จทางประวัติศาสตร์ จนกำเนิดเกิดเป็นหนังสือบทความ ‘white paper’  เผยแพร่ออนไลน์ฟรีไปทั่วโลก ทั้งเวอร์ชั่นอังกฤษ ญี่ปุ่น และเกาหลี  ไม่มีค่าใช้จ่าย  เป็นข้อมูลเพื่อมอบให้ผู้คนทั่วไปด้วยหวังใจอันเที่ยงธรรม นอกจากนี้ พวกเขายังเดินหน้า บริจาคสบทบทุนอดีตเหยื่อแรงงานบังคับ และผู้สูญเสียจากปรมาณูนิวเคลียร์ บาดแผลทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ที่สงครามโลกจากอดีตต่างทิ้งไว้ ให้กับเหล่าลูกหลาน

อคติมากมายยังอยู่ตรงนี้ แม้อาจไม่มีใครมองเห็น  นอกจากการ เกลียดกลัวชาวต่างชาติ(xenophobia) ซึ่ง BTS มักประสบพบเจอเสมอมา —อคติอย่างการ เหยียดเพศ(sexism) หรือการ เหยียดอายุ(ageism) ก็เป็นสิ่งที่ ARMY ต้องเผชิญแทบจะตลอดไป  ดังคำที่สะท้อนในบทบรรยายช่วงท้าย…

“ฉันเดาเลยว่าพวกคุณส่วนใหญ่ต้องเคยคิดว่าเราทั้งหมดเป็นพวกคลั่งไคล้ดารา

ฉันเคยคิดแบบนั้นเหมือนกัน

แต่ฉันได้เรียนรู้จากพวกเขาค่ะ

—‘สิ่งหนึ่งที่เราควรละทิ้งไปบนโลกใบนี้คืออะไร?’

…อาจจะเป็น อคติ ก็ได้ค่ะ

—อคติมาจากไหน?

…ความไม่รู้นั่นเองค่ะ(ignorance)

ถ้าคุณฟังดนตรีของพวกเขา

ดูคอนเทนท์ของพวกเขา

และรับรู้ในสิ่งที่ ARMY ทำ

คุณอาจจะไม่ได้มีอคตินี้ก็ได้…”

—ศาสตราจารย์ Lee ส่งผู้ฟังสู่บทสรุป

ด้วยหวังตั้งใจให้ทุกคนได้ทบทวนสาร และก้าวผ่านอคติส่วนตนภายใน …แตกต่างจากอดีตต่อไป ไม่มากก็น้อย

“BTS and ARMY Grow together Fighting against prejudice” by Prof. Lee Jiyoung

บทพิสูจน์ 2020 | #MatchAMillion

สู่ปี 2020 —ภายหลังความสำเร็จของ BTS ในประเทศสหรัฐฯ  ผู้คนหลากเชื้อชาติช่วงวัย เริ่มแสดงออกถึงความสนใจในศิลปินและแฟนคลับกลุ่มนี้ ชัดเจนยิ่งขึ้น  เช่นที่มีการเปิดเผยทัศนะกลางรายการ The Tonight Show ของ John Cena  นักมวยปล้ำแชมป์โลก 16 สมัย  ชายผิวขาวผู้อยู่จุดสูงสุด บนลำดับขั้นของอคติทั้งหลาย

“อันดับแรกเลย  พวกเขาเป็นศิลปินที่ยิ่งใหญ่ แต่ถ้อยความที่ส่งไปก็สั่นพ้องก้องได้กับผู้คนทั้งหลาย นอกจากนั้นพวกเขายังทำให้เหล่า ARMY ทั่วโลก ค่อยปรากฎเติบโตขึ้นมา BTS ARMY ที่ไม่ใช่แค่ geek เท่านั้นนะครับ  อย่างตอน BTS บริจาค 1 ล้านดอลลาร์ให้กับ Black Lives Matter(BLM)—ARMY ก็เลย  ‘โย่ว ถ้าพวกเขาทำได้ เราก็ทำได้’—ซึ่งมันได้ผลนะพวก มันได้ผลและตรงเป้าเลย  และมันก็แ-่งกำลังเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้!”

—John Cena
John Cena talked about BTS and ARMY at The Tonight Show

สื่อหลักมากมายเริ่มพาดหัวข่าว ถึงย่างก้าวแห่งมนุษยธรรมที่ทั้งคู่ร่วมกันผ่าน—บนเส้นทางอคติและการแบ่งแยก แน่นอนว่ามันยังเป็นเส้นทางที่ยากลำบาก  คล้ายว่าโรยด้วยปลอกกระสุนมากกว่ากลีบกุหลาบ แต่ทั้งคู่ก็เลือกเดินหน้าต่อ

Forbes

BTS’s Achievements And Massive Global Fan Base Speak Much Louder Than Their Racist Critics

“BTS ยังคงเผชิญกับคอมเมนท์เหยียด และเดียดฉันท์ชาวต่างชาติ จากเหล่านักวิจารณ์วิสัยสั้น เช่นที่เราได้เห็นกันในสัปดาห์นี้—แต่แม้ในอนาคต วง BTS ก็คงจะยังเป็นคำติดปากพวกเขาไปซะเอง”

Forbes

BTS ARMY Matched The Group’s $1 Million Black Lives Matter Donation, Proving The Positive Power Of Fandoms

“อย่างแย่ ก็คือพวกกีดกันทางเพศและเชื้อชาติ แต่การบริจาคที่น่างงงวยของ BTS ARMY ให้ BLM พิสูจน์ถึงพลังของเหล่าแฟนเพลง ที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกระดับโลก —BTS ขับร้องถึงความเท่าเทียม, สุขภาพใจ และการตระหนักรักตัวเอง มาเป็นเวลานาน —และแฟนๆของพวกเขา ได้นำคุณความดีเหล่านี้ มาที่หัวใจอย่างเที่ยงแท้”

weverse magazine

BTS & ARMY, We Walk Together

“ในโลกใบนี้ที่เราอยู่อาศัย ซึ่งแม้แต่วง BTS ก็ยังตกเป็นเหยื่อการเหยียดเชื้อชาติ กลับยังคงมีผู้คนข้างนอกนั่น กำลังเพียรพยายามสร้างผลกระทบทางบวก …การบริจาคต่างๆ เพื่อช่วยเหลืองานต้าน COVID-19 เช่นเดียวกับ ภัยธรรมชาติ, โรคภัย, การศึกษา, การเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ, สิทธิมนุษยชน, การสงเคราะห์สัตว์ และโครงสร้างพื้นฐานทางสังคม นี่คือรายชื่อพื้นที่ต่างๆซึ่ง ARMY ได้ร่วมบริจาค หลังการกวาดต้อน ของไวรัสทั่วมุมโลก…”

แผนที่การกุศลของเหล่า ARMY แผ่ขยายใหญ่ขึ้นทุกปี  ทั่วทั้งโลก

แม้นับเฉพาะ @.OneInAnARMY—ช่องระดมทุนหลักโดย ARMY; ซึ่งรวมถึง #MatchAMillion อันโด่งดัง (สนับสนุน #BlackLivesMatter; ARMYXBLM)

ยังไม่กล่าวถึง LOVE MYSELF  โครงการต่อเนื่องจากปี 2017 อันยกกระดับความตระหนักรักในตนเอง ไปจนถึงร่วมยุติความรุนแรงในเด็กและเยาวชนทั่วโลก —พันธมิตร UNICEF สมทบทุน #ENDviolence; ทุนตั้งต้นจาก BTS และ BIGHIT รวมกับ ARMY—ผ่านรายรับในทุกๆอัลบั้ม Love Yourself และ 100% ในสินค้าแคมเปญทุกๆชิ้น  ซึ่งล้วนได้รับแรงขับสนับสนุนอย่างล้นหลาม ตามที่เราได้เห็นไปทั่วโลก

“เรายืนหยัดต่อต้านการแบ่งแยกทางเชื้อชาติ
เราประณามการใช้ความรุนแรง
คุณ, ผม และพวกเราทั้งหมดมีสิทธิ์ที่จะได้รับความเคารพ เราจะยืนหยัดไปด้วยกัน

#BlackLivesMatter”

—BTS via @.BTS_twt

บทพิสูจน์ 2021-2022 | #StopAsianHate

BTS และ ARMY ที่เลือกยืนหยัด ส่งแรงเสริมกันและกัน ไปยังการเคลื่อนไหวแห่งยุคสมัย ทั่วโลก  จากเกาหลีใต้สู่อเมริกา จาก #BlackLivesMatter สู่ #StopAsianHate  และเรื่องราวตามบทวิเคราะห์ของแรนดี้ ซอ ต่อจากนั้น (KR/TH: candyclover)  อคติไม่มีทีท่าว่าจะจางหายไปแม้ในปี 2021  แต่ก้าวย่างเล็กๆที่พวกเขามีร่วมกัน เริ่มนำทางสู่ทิวทัศน์ที่แตกต่าง; บทความสังเกตว่า จากเดิมเริ่มต้น เมื่อเกิดแรงแห่งอคติขึ้นกับ BTS  มักมีเพียงเหล่า ARMY เท่านั้น ที่ลุกขึ้นมาเรียกร้อง ต่อต้านการเกลียดชังอันไม่อาจยอมรับได้ แตกต่างจากตอนนี้ ที่กัลยาณมิตรศิลปินในสหรัฐฯ สื่อหลักกระแสรวม องค์กร หน่วยงานต่างๆ เริ่มตบเท้าเข้าร่วมจุดที่ ARMY เคยหยัดยืนอยู่ลำพัง —ชัดเจนมากขึ้น รวดเร็วมากขึ้น

halsey posted against Racism and Xenophobia defending BTS
The White House invited BTS to discuss anti-Asian hate crimes

จวบจนปีปัจจุบัน วันสุดท้ายปลายเดือนพฤษภาคม ท่ามกลางรอยแยกที่ยังคงแตกออกไป  วง BTS ในฐานะฑูตพิเศษฯ ได้เดินทางไกลตามเทียบเชิญ White House  มุ่งหน้าหารือร่วมประธานาธิบดี Biden แห่งสหรัฐอเมริกา ในวาระต่อต้านอาชญากรรมจากการเกลียดชังชาวเอเชีย —พร้อมกับ ARMY ที่ติดตามความคืบหน้าเพื่อแสวงหาความเท่าเทียมอย่างใกล้ชิด—คงด้วยหวังตั้งใจดั่งที่ศาสตร์จารย์ Lee ได้ฝากไว้ในบทพิสูจน์(Proof)ตอนต้น ว่าคงมีสักครั้งหนึ่ง ซึ่งชิ้นส่วนเล็กๆของเรา จะมีโอกาสทำให้คุณได้ตั้งคำถาม ถึงความไม่รู้ภายในตัวตน อันเป็นต้นตอของอคติ และการแบ่งแยก —กระทั่งบานปลาย กลายเป็นความรุนแรงได้ในท้ายที่สุด

เพราะห้วงคิดเหล่านั้น อาจเป็นก้าวแรกที่สำคัญ เพื่อผลักดันโลกใบเดียวของเรานี้ ให้เติบโตเป็นอย่างดีขึ้นมาได้
Door, Proof © 2021 BIG HIT MUSIC / HYBE

“โลกที่ยั่งยืนใบนี้ จะสำเร็จเสร็จได้ ก็เฉพาะต่อเมื่อเราร่วมใจสร้าง นั่นคือหมุดหมายปลายทางแห่งศตวรรษ”

—Jin of BTS #GoalofCentuary

.

แปล EN/TH, เขียนและเรียบเรียงโดย @toei

ที่มา | Prof.Lee’s Talk, The Tonight Show, Forbes(1), Forbes(2), weverse magazine, candyclover

About the Author /

acupofbts.toei@gmail.com

drinking a cup of hot tea, looking up to the galaxy, you’ll be alright.

Post a Comment