[บุคคลหาตัวจับยาก] RAPMONSTER กับ มิกซ์เทป RM (2015)

มิกซ์เทป RM – อัลบั้มมิกซ์เทปจาก RAPMONSTER แห่งวง BTS

มิกซ์เทปคืออะไร?

มิกซ์เทป (Mixtape) อาจเป็นหนึ่งผลิตผลทางดนตรีที่ให้ความจำกัดความค่อนข้างยาก เดิมทีมิกซ์เทปเป็นการแรพลงบนเพลงที่มีอยู่ ถึงหลังๆ จะค่อยๆ มีประเภทที่ทำมิกซ์เทปจาก เพลงต้นฉบับ (Original Track) มากขึ้น แต่ไม่ว่าแบบไหนก็ตาม จุดประสงค์หลักๆ คือการเผยแพร่ฟรีเพื่อดึงดูดความสนใจแก่ผู้ทำเพลง

พัฒนาการของอินเตอร์เน็ตกับมิกซ์เทปเติบโตมากขึ้นไปด้วยกันแบบก้าวกระโดด ในเกาหลีมีมิกซ์เทปถูกปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่อง ในสงครามของเพลงจำนวนมากที่ล้วนต่างเป็นที่น่าจับตามอง RAPMONSTER ก็ปล่อยมิกซ์เทป RM ออกมาเช่นกัน เปรียบเทียบกับแรพเปอร์หน้าใหม่อื่นๆ แล้วเขาเป็นที่จดจำได้มากกว่าก็จริง แต่ก็ปฏิเสธถึงความเป็นธรรมชาติที่มีมากพอๆ กับความสามารถของเขาไม่ได้เลย ระหว่างสัมภาษณ์กับเขา แม้เนื้อที่จะจำกัดจึงทำให้ไม่สามารถใส่เรื่องราวลงไปได้มากเท่าไหร่แต่มันก็มากพอกับความตั้งใจอันแน่วแน่ของเขาเลย

มิกซ์เทป RM

พักจุนอู: มีเหตุผลอะไรในการปล่อยงานเพลงออกมาไม่ใช่ในรูปแบบ ซิงเกิ้ล, อัลบั้ม (EP) แต่เป็น มิกซ์เทป?

▶ RAP MOSNTER: ในเกาหลีหลังจากคุณราม่า (RAMA, ปัจจุบันใช้ชื่อว่าฮวีแจ) ปล่อย Mixtape ออกมานั้นยังเป็นที่กล่าวถึงอยู่ค่อนข้างน้อยในช่วงแรกๆ การที่ผมทำกิจกรรมอยู่ในส่วนหลักของวงการเพลงแล้วได้ปล่อยงานเพลงออกมาเป็น Mixtape มันยิ่งมีตัวกรองหรือข้อจำกัดน้อยลงและสามารถแสดงออกตรงๆ ได้มากขึ้นครับ อย่างพวกแทรคเพลงก็ไม่มีเอี่ยวกับการตลาดทำให้ผมสามารถเลือกเพลงได้ตามใจ ลดภาระลงไปได้มากเลย

พักจุนอู: แล้วค่ายไม่มีข้อจำกัดอะไรหรอ?

▶ RM: Mixtape มันอยู่ในใจผมมาตลอด เพราะผมก็เป็นคนทำงานแรพ ผมก็คิดว่าต้องปล่อยมันออกมาสักวันให้ได้ มีกังวลเรื่องความเกี่ยวพันธ์กับค่ายเหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่ค่ายกลับช่วยให้งานเสร็จทั้งนั้น ไม่มีมาแตะต้องอะไรเลย ทำไปกว่า 20 เพลงได้ ระหว่างนั้นก็เลือกว่าจะหยิบเพลงไหนมาปล่อยดีใช่มั้ยล่ะฮะ เขาก็คอยช่วย บอก ‘อันนี้คราวหน้าถ้าคิดได้แล้วเขียนออกมาก็ดีนะ’ บ้างแล้วก็คอยออกความเห็นด้วยเช่นว่า ‘ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะ’ ส่วนที่เหลืออีก 95% ก็ลองทำไปตามใจดูได้เลย

พักจุนอู: เคยอัพเพลงลง Jungle Radio (ชื่อคาเฟ่ของพวกหน้าใหม่เมื่อก่อน) และยังเคยปล่อยเพลงฟรีผ่านบล็อกและอื่นๆ มาแล้ว ความตั้งใจระหว่างตอนนั้นกับตอนนี้มันคงค่อนข้างต่างกันเลยสิเนอะ

▶ RM: ตอนนั้นก่อนเดบิวต์ก็แค่ปล่อยเล่นในบอร์ดของ Hiphopplaya พูดๆ ไปแล้วสมัยที่ทำเป็นงานอดิเรกนี่มันดูสายฟ้าแลบดีนะครับ ยิ่งกว่าการได้อุทิศตัวเองแล้วมีเรื่องงี่เง่าเกิดขึ้นมากมายเลยครับระหว่างที่สนุกไปกับมัน พอได้หยิบจับหลายอย่างลงไปในเพลงจนกลายเป็น เหมือนเมดเล่ย์แล้ว พอจะปล่อยเพลงลงบล็อกเลยต้องคิดเรื่องเดบิวต์ที่มีอยู่ในใจในฐานะวงซะหน่อย จากมุมมองในการสร้างประสบการณ์ทำงานในตอนนี้นั้นก็ได้คิดไปพลางๆ ระหว่างทำงานว่าจะได้โชว์อิมเมจแบบไหนให้เห็น ภาพลักษณ์ที่ตัวผมสร้างขึ้นมาจะเป็นอะไรกัน ค่อนข้างรอบคอบขึ้นมากเลยล่ะครับ

พักจุนอู: การเขียนเนื้อเพลงครั้งนี้มันดูมีมาตรฐานหรือทิศทางเหมือนกันนะครับ

▶ RM: ก็เป็น Mixtape ที่ทำขึ้นมาครั้งแรก ถึงจังหวะที่จะได้แรพอย่างใจแล้ว ผมก็ได้ทำสิ่งที่ตอนแรกคิดไว้ว่าผสมผสานอะไรลงไปดีออกมาครับ ตอนนั้นก็คิดควรต้องนำเสนอผลลัพธ์ในมิติที่ต่างกันให้ได้อย่างชัดเจนไม่ว่าจะเป็นเพลงระหว่างก่อนเดบิวต์ หรือเพลงของวง กังวลเรื่องนั้นก็จริงแต่จริงๆ แล้วก็แค่ว่า ‘มาเขียนเพลงเกี่ยวกับอารมณ์ที่รู้สึกได้ ณ ตอนนี้เดี๋ยวนี้ดีกว่า’ ไม่ว่าจะแง่ลบแง่บวก เพราะคนเรามันมีด้านเดียวที่ไหนล่ะฮะ สดใสและมองโลกในแง่บวกมาก แทรคแบบ ‘ไม่ว่ายังไงฉันก็จะเชื่อในตัวฉัน’ ก็มีนะฮะ แต่ในแทรคอื่นผมนี่ขยะเลยล่ะ เหมือนจะไม่มีอะไร ช่วงเวลาที่ผ่านมาผมก็ได้ใส่ด้านที่บริสุทธ์ของตัวผมที่ผมรู้สึกลงไปด้วย ไตเติ้ลของ Mixtape ก็เลยเป็น [RM] ผมคิดว่าได้ใส่ความรู้สึกของผมลงไปในทุกแชปเตอร์เลย

พักจุนอู: สไตล์ของแทรคที่ใช้ทำงานนี่ค่อนข้างหลากหลายเลย ช่วยบอกหน่อยสิครับว่าได้ทำงานกับใครบ้าง?

▶ RM: แทรคส่วนใหญ่เป็นเพลงที่มีอยู่แล้วซึ่งมีเขียนทำนองไว้อยู่แล้ว ของ J.Cole, Drake, Big K.R.I.T และคนที่เป็นกระแสช่วงนี้ก็มีเขียนไว้ ของ Major Lazer ก็มี เพลงนั้นก็มี แล้วก็มีสองเพลงที่… คือผมยังไม่ได้รุ่งเรืองในการทำงานเท่าไหร่ก็เลยไม่ได้มีโปรดิวเซอร์ที่รู้จักเยอะครับ ที่ค่ายมีพี่ Pdogg กับพี่ Slow Rabbit อยู่เลยมี 2 เพลงที่เพลงนึกได้มาจากพี่ Slow Rabbit กับอีกเพลงได้มาจากพี่ Pdogg เพลงที่ได้จากพี่ Pdogg เพลงนึงได้ทำกับ Krizz Kaliko จากค่าย Strange Music ของ Tach N9ne. เลยได้ Krizz มาเขียนท่อนฮุคให้ และได้แลกเปลี่ยนไอเดียมาทำงานในส่วนที่เป็นภาษาเกาหลีด้วย คนที่รู้จักก็จะรู้ คนที่ไม่รู้จักก็คงไม่รู้หรอกครับ ได้มาทำงานด้วยกันแบบนี้ จริงๆ แล้วคิดว่าจะลองทำงานคนเดียวเลยดูแต่นี่มันก็เป็นโอกาสที่ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ เลยได้มาร่วม Featuring กันครับ

พักจุนอู: ติดต่อไปยังไงครับ?

▶ RM: ตอน MBC Gayo Daejejun พวกผมบังทันได้เอาเพลง Spaz ของ Krizz Kaliko มาแต่งแล้วใช้ตอนทำการแสดง แล้วตัว Krizz Kaliko ก็ได้ดู จริงๆ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขามีโอกาสได้ดูได้ยังไง (หัวเราะ) ได้รู้เพราะเขาอัพลง SNS ว่า ‘ดูพวกนายแล้ว เต้นในเพลงของฉันแบบนี้เจ๋งดีนะ’ ผมก็เลยติดต่อไปเลยว่า ‘ผมแรพอยู่ในวง BTS และกำลังเตรียมตัวทำ Mixtape เรามาลองทำงานด้วยกันดูดีมั้ย?’ ก็เป็นมาแบบนี้ครับ เดิมทีที่จะทำงานกับ Krizz Kaliko ยังไม่มีเพลงที่ได้ทำทำนองเอาไว้ (หัวเราะ) แต่ก็ได้รับมาจากพี่ Pdogg นี่แหละครับ ลองขอให้เขาเขียนท่อนฮุคให้ได้มั้ยเขาก็บอกว่าดีเลยครับ เลยทำออกมาให้เป็นสไตล์ผมสุดๆ เลย ถึงครั้งจะทำได้แค่ทำ Mixtape ด้วยกันแต่คราวหน้าตั้งใจจะปล่อยเป็นแทรค Digital Single ที่สามารถเต้นได้ด้วยเลยครับ

พักจุนอู: นอกจาก Hip Hop แล้วดูค่อนข้างจะสนใจอย่างอื่นเยอะเหมือนกันนะครับ

▶ RM: ถึงที่สุดแล้วจะชอบฟัง Hip Hop มากที่สุด แต่แรกเริ่มเนี่ยสนใจ R&B มากครับ เพลงอินดี้เกาหลีก็ฟังเยอะเหมือนกัน ผมชอบ D’Angelo กับ Raphael Saadiq ฮะ James Blake ก็ชอบ เลือกไม่ได้เลยครับชอบหมดเลย ชอบ Hip Hop ญี่ปุ่นด้วย KOHH หรือ Zebra, AK-69 ที่ช่วงนี้มาแรงก็ชอบหมดเลย ผมไม่ได้แบ่งไปทางไหนเป็นพิเศษครับ ผมว่าเพลงแนวอื่นก็มีของดีอยู่เหมือนกัน ผมเลยคิดว่าควรจะใส่สีสันในการแรพให้มันหลากหลายขึ้น เพลงของ Drake, PBR&B ผมก็ชอบมากเหมือนกัน The Weeknd ก็ชอบ พวก OVO Sounds ก็ฟังครับ

พักจุนอู: อยากจะพูดถึงเรื่องที่คุณได้มาทำงานกับ Warren G สักหน่อย ส่วนตัวรู้สึกว่าเขาเป็นคนยังไง?

▶ RM: ที่คิดภาพไว้ในหัวก่อนจะได้เจอกันจริงๆ ก็เหมือนพวกตำนาน Hip Hop เก่าๆ คนอื่นๆ ที่เห็นใน Youtube นั่นแหละครับ แบบที่เคยได้ดูในเพลง “Regulate”, “This DJ”, “I Want It All” ในมิวสิกวิดีโอดูดีมากๆ เลย ดูดีสุดๆ เลยอ่ะครับ หนึ่งในล้านจริงๆ มีเป็นคนที่มีพวกความ Swag และก็เหมือนพวกคนเท่ห์ๆ นั่นแหละครับ จริงๆ ก็ดูเป็นคนที่ไม่แยแสใครเหมือนกันแต่เป็นเพราะเขาอายุมากขึ้นด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้เพราะเขาดูเป็นคนรักครอบครัวมาก คอยพูดเรื่องครอบครัวให้ผมฟังตลอดว่า ‘ทำตัวดีๆ กับพ่อแม่ด้วยเพราะครอบครัวเป็นทุกอย่าง’ อะไรประมาณนี้ จริงๆ ข้างในลึกๆ จะเป็นอย่างนั้นจริงๆ หรือเปล่าผมก็ไม่รู้ แต่เขาก็เป็นคนที่เปิดเผยมากจริงๆ ได้ถามเกี่ยวกับ G-Funk เดี๋ยวนี้เขาก็เล่าเรื่องให้ฟังเยอะเลย เรื่องเกี่ยวกับ Hip Hop ก็เหมือนกัน เขาบอกด้วยว่า ‘ไม่ว่าใครที่รัก Hip Hop และเป็นคนที่เปิดใจแล้วละก็ จะสามารถแบ่งที่ในมุมนึงของหัวใจไว้ได้เลย (=ใจเปิดกว้าง รับได้กับทุกสิ่ง ทุกรูปแบบ) เพราะฉะนั้นไม่ว่าใครจะว่ายังไง นายก็เป็นอย่างที่ตัวเองเป็นนี่แหละ เพราะมันเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว’ ผมควรจะลงลึกเรื่องเพื่อนมนุษย์ไปด้วยดีมั้ยนะ (หัวเราะ)

พักจุนอู: สิ่งรอบตัวหรือสภาพอะไรอย่างอื่นที่ผ่านเข้ามามากมาย การที่เก่งภาษาอังกฤษคงจะค่อนข้างช่วยได้มากสินะครับ

▶ RM: การที่เก่งภาษาอังกฤษเป็นโอกาสที่ทำให้ผมได้ฟังเพลง Hip Hop มากเลยครับ ผมอยากพูดได้เหมือนคนพวกนั้นและเข้าใจเรื่องที่พวกเขาพูดกัน ผมมีความสนใจอยากจะเก่งภาษาอังกฤษมากๆ การตีความหมายมันมีข้อจำกัดอยู่ผมจึงมีความคิดที่อยากจะทำความเข้าใจด้วยตัวเองให้ได้ การทำความเข้าใจบทสัมภาษณ์และเนื้อเพลงของพวกเขาจึงเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญในการที่จะทำให้ผมเก่งภาษาอังกฤษครับ

พักจุนอู: เริ่มแรพตั้งแต่เมื่อไหร่และได้รับการฝึกฝนในด้านไหนจากทางค่ายครับ

▶ RM: ผมเริ่มเขียนเนื้อเพลงตั้งแต่ปี 2006 และก็เป็นตอนที่เริ่มฟังและเขียนเนื้อเพลง Hip Hop ด้วย ผมเริ่มแรพหลังจากที่ได้ฟังเพลงของ Epik High และ Eminem ผมได้อัพเพลงอย่างจริงจังเมื่อปี 2007 ที่ค่ายจริงๆ แล้วการแรพไม่ใช่คอนเซ็ปต์สำหรับการฝึกหัด ผมเรียนรู้เรื่องการเขียนเนื้อเพลง คอร์ดเพลง ทิศทางของเพลงซะส่วนใหญ่มากกว่าการฝึกแรพครับ ทางค่ายจะค่อนข้างพยายามให้ทันกระแสมากกว่าครับ ได้เรียนรู้ว่าตามความชอบของคนส่วนใหญ่แล้วถ้าทำแบบนี้จะออกมาดี

พักจุนอู: โดยส่วนตัวเวลาผมฟังเพลงแรพ ผมค่อนข้างรู้สึกว่ามันจะต้องมีส่วนของความมัวหมองหน่อยๆ ถึงฟังแล้วจะรู้สึกได้ถึงพลัง แต่ก็ผมกลับได้รับความรู้สึกแบบโดนข่มขี่มาด้วยเหมือนกัน

▶ RM: ธรรมชาติเรามันก็หม่นหมองนี่ครับ มันบิดเบี้ยวอยู่แล้ว ผมไม่ใช่คนที่ถ้าเกิดข้อโต้แย้งในใจขึ้นมาว่า ‘ทำไมไอ้นั่นต้องเป็นแบบนั้น’ แล้วแค่ยอมรับมันไป ‘ทำไมคนนั้นถึงคิดถึงเรื่องนั้นแบบนั้น?’, ‘ทำไมคนชอบไอ้นี่กันทั้งนั้นเลย?’, ‘ทำไมแบบนี้ถึงถูก?’ ที่ผมคิดแบบนี้มันดูมองโลกในแง่ร้ายสินะ แต่มันมีมุมมองด้านนั้นอยู่นะ ผมคิดว่าอยากจะให้สิ่งเหล่านี้ซึมซับได้จากในเพลงของผม ก็เลยใส่ความคิดพวกนี้ลงไปด้วยครับ ความจริงการเป็นคนที่เขียนเพลงแรพมันก็รู้สึกได้ถึงการกดขี่อยู่แล้ว แต่การใช้ชีวิตจริงๆ ต่างหากที่เราจะรู้สึกถึงการกดขี่ข่มเหงอยู่เสมอ (หัวเราะ) ผมอยากให้คนฟังได้รู้สึกถึงสิ่งเหล่านี้นี่แหละครับ

พักจุนอู: เราเห็นด้านที่สดใสของแรพมอนสเตอร์ในรายการเรียลลิตี้หรือตอนอื่นๆ อยู่เหมือนกันแต่พอได้ฟังเวลาแรพแล้วความจริงจังกับความหนักหน่วงนี่สัมผัสได้อย่างหนักแน่นเลย

▶ RM: ได้เดบิวต์ออกมาเป็นวงที่ชื่อบังทันโซนยอนดันแล้ว สำหรับผมเองยังเหมือนเป็นคนที่มีสองตัวตนเลย ผมได้ก้าวผ่านกับสิ่งที่เป็นเหมือนตัวตนที่ทำให้ผมต้องหัวปั่น มันคือ Alter-Ego (ตัวตนที่สองของตัวเอง) ครับ มันเกิดขึ้นถูกจังหวะจริงๆ ผมในด้านที่กำลังทำเพลงนี่คงให้เห็นในรายการเรียลลิตี้ไม่ได้หรอก เพราะจะพูดอะไรก็พูด ถามนู่นนี่แบบโผงผางมาก แต่ก่อนผมก็เกลียดเพราะมันเป็นเหมือนการพูดโกหกสำหรับผม แต่ตอนนี้ผมยอมรับกับมันได้และคิดว่าทั้งสองด้านของผมนี้มันก็คือตัวผมเองนี่แหละครับ

พักจุนอู: แต่ละเพลงใน Mixtape แสดงให้เห็นถึงความสามารถที่ถูกดึงออกมาสุดๆ เลยแล้วตอนทำกิจกรรมของวงส่วนตัวได้คิดภาพว่าจะดึงความสามารถนั้นออกมาบ้างมั้ย

▶ RM: ผมคิดว่าต้องทำอย่างนั้นอยู่ตลอดอยู่แล้วครับ เพราะมันเป็นความรับผิดชอบของผมที่ต้องรับหน้าที่เป็นแกนนำทางดนตรี ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าวงหรือจะหยุดการเป็นหัวหน้าวงอย่างเป็นทางการก็ตาม ผมคนนำเสนออยู่ก่อนตลอด ไม่ว่าจะเป็นคีย์เวิร์ดหรือทิศทางของเพลง ผมเป็นพวกที่คอยคิดออกมาก่อนตลอดครับ ในส่วนนั้นก็ได้รับคำพูดที่ความกดดันมาเหมือนกัน

มิกซ์เทป RM

พักจุนอู: เป็นหัวหน้าวงอย่างเป็นทางการแล้วทางความรู้สึกได้รับบทบาทนั้นอยู่ด้วยมั้ย

▶ RM: การเป็นหัวหน้านั้นไม่เหมือนกับตำแหน่งในบริษัทที่ได้รับเงินเดือนเพิ่มขึ้นแล้วคอยชี้นิ้วสั่งคนอื่น (หัวเราะ) แต่หัวหน้ามันก็เหมือนการตั้งชื่อในเกมล่ะมั้งครับ ผมว่าเป็นอะไรประมาณนั้นแหละ จริงๆ ผมมีรู้สึกเสียใจกับเมมเบอร์เหมือนกัน ผมเป็นสไตล์ที่ตัวเองถูกผูกมัดอยู่กับดนตรี และจะต้องแล่นไปให้ได้จนสุดทาง แต่ผมกลับงุ่มง่ามมากในการใช้ชีวิต ช่องว่างมีมากทีเดียว ส่วนที่ขาดหายไปก็เยอะซึ่งส่วนนั้นเมมเบอร์ในวงก็คอยคว้าและเติมเต็มไว้ ทั้งคอยให้กำลังใจกันด้วย ผมได้รับอิทธิพลจากหลากหลายอารมณ์นั้นเลย ถึงจะเสียใจในส่วนนั้นแต่ผมยืนยันว่าจะพยายามดึงภาพลักษณ์ที่ดีออกมาให้ได้เห็นนะครับ

ที่มา | WEIV
แปลจากเกาหลีเป็นไทยโดย CANDYCLOVER

DMCA.com Protection Status

ทาง CANDYCLOVER มีความยินดีหากผู้อ่านเล็งเห็นประโยชน์ของคอนเทนต์นี้ และต้องการนำไปประกอบเอกสารหรือสื่อทางการศึกษา เผยแพร่ต่อบนโซเชียลมีเดีย รวมถึงนำไปผลิตของที่ระลึก เช่น Giveaway สำหรับแจกฟรี มิใช่การจัดจำหน่าย

หากต้องการนำข้อมูลไปใช้อ้างอิง กรุณาติดต่อทางอีเมลล์ bts.candyclover@gmail.com และรอการตอบกลับที่ระบุว่าอนุญาตแล้วเท่านั้น ยกเว้นกรณีการนำข้อมูลที่ “แปล เรียบเรียง หรือจัดทำโดย CANDYCLOVER” ไปรีโพสต์ ทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไข นำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ รีโพสต์บนแฟนเพจ เว็บไซต์ หรือเว็บบอร์ด ที่มิใช่แพลตฟอร์มของ CANDYCLOVER พร้อมใส่เครดิตเองโดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงนำไปเป็นคอนเทนต์ทางสื่อโทรทัศน์ หรือกระทำการใด ๆ ก็ตามที่เข้าข่ายแอบอ้างผลงาน หากพบเห็นจะดำเนินคดีทางกฎหมายให้ถึงที่สุด

หากท่านชื่นชอบคอนเทนต์ที่ CANDYCLOVER นำเสนอ สามารถให้การสนับสนุนพวกเราได้ง่าย ๆ เพียง 1.) ไม่สนับสนุนแอคเคาต์ที่แอบอ้างข้อมูลที่แปลโดย CANDYCLOVER 2.) รีพอร์ตแอคเคาต์ดังกล่าวผ่านระบบของแพลตฟอร์มที่ท่านพบเห็นโพสต์ที่เข้าข่าย โดยเลือกหัวข้อ “ละเมิดลิขสิทธิ์” 3.) สนับสนุนค่ากาแฟทาง Ko-fi หรือ Patreon

About the Author /

bts.candyclover@gmail.com

I go by the name Candy, a co-founder, admin, designer, translator, writer of and for CANDYCLOVER. I'm a graphic/UI designer and a self-taught Korean translator who's passionate about telling success stories of BTS in the form of mixed media from graphic to web-based experiences. Now, I'm also pursuing my career as a professional Korean translator. My recent book-length translation projects are: I AM BTS (TH Edition), BTS The Review (TH Edition) and more to come!

Post a Comment