โชคชะตา

“เมื่อโชคชะตานำพาความเยียวยาให้มาพบกัน”

“ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอกนะ
เมื่อเราทั้งสองพบกันเราก็ได้พบโชคชะตานั้น”

 ทุกคนเชื่อในโชคชะตาหรือคำว่าช่วงเวลาที่เหมาะสมกันไหมคะ? ตัวผู้เขียนเองก็เคยตั้งคำถามนี้กับตัวเองค่ะ จนกระทั่งก้าวเข้าสู่คำว่า แฟนคลับวง BTS หรือชื่อบังทันที่พวกเราเหล่าอาร์มี่เรียกกันเป็นปกตินี่แหละค่ะ

 จากความบังเอิญ สู่ความเชื่อว่านี่คือ โชคชะตา

บนแพลตฟอร์มฟังเพลงเจ้าต่าง ๆ ที่มีศิลปินมากหน้าค่าตา และอีกหลากหลายบทเพลง คุณโชคชะตาของพวกเราเขาอยู่ที่นี่มาโดยตลอด และแล้วในตอนนั้นเอง ผู้เขียนก็พบเพลงที่มีชื่อว่า DNA (หากจำไม่ผิด ณ ตอนนั้นเพลงนี้น่าจะอยู่ในเพลย์ลิสต์ของเพลงยอดนิยมค่ะ) ผู้เขียนตัดสินใจกดฟังเพลงนี้ เพียงด้วยเหตุผลที่ว่า นี่คือเพลงอะไร?

เสียงอินโทรเป็นเสียงผิวปาก ตัว MV สีสันสดใส กับดนตรีสุดลงตัว ความรู้สึกภายในใจในตอนนั้นคือ “ใช้ได้อยู่นะเนี่ย” นี่คือความรู้สึกแรกหลังจากดู MV DNA จบค่ะ โดยปกติของผู้เขียนแล้วคือ ถ้าหากว่าเจอเพลงที่ถูกใจ จะไปตามไปฟังเพลงอื่น ๆ ของศิลปินท่านนั้น ๆ อีกค่ะ กับบังทันเองก็เป็นเช่นนั้น ผู้เขียนกดไล่ฟังเพลงต่าง ๆ เจอเพลงที่คุ้นหูอย่าง Blood Sweat & Tear หรือแม้แต่ Fire

จากวันนั้นที่เป็นแค่ความบังเอิญ ก้าวเข้าสู่ปีที่ 4 ของคำว่าโชคชะตา

จริง ๆ แล้วตัวผู้เขียนเองก็ไม่คาดคิดว่าจะติดตามบังทันมาจนถึงปัจจุบันนี้ ส่วนเหตุผลของการเดินทางร่วมกับบังทันมาจนเวลานี้คงไม่ต่างกับอาร์มี่ท่านอื่น ๆ นั่นคือ สารจากบทเพลง

จากห้วงความคิด ถึงปลายปากกา สู่หัวใจคนฟัง

อย่างที่ทราบกันดีว่าบทเพลงของบังทันนั้นค่อนข้างที่จะมีความหลากหลาย ทั้งความหลากหลายของแนวเพลงเอง ภาษา รวมไปถึงสารจากตัวเนื้อเพลง สิ่งเหล่านี้ทำให้ตัวผู้เขียนเองรู้สึกว่า เราสามารถเข้าใจกันและกันได้โดยไม่จำเป็นที่จะต้องพูด หรือใช้ภาษาเดียวกันเลยด้วยซ้ำ เพราะดนตรีได้ทำลายกำแพงพวกนั้นไปจนหมดสิ้น

ด้วยเหตุผลเหล่านี้ รวมกับเมื่อตอนที่ผู้เขียนทราบความหมายของเพลง DNA ที่ทำให้รู้จักกับบังทัน ผู้เขียนจึงให้ใจไปว่า สิ่งนี้มันคงจะเป็นโชคชะตาดั่งที่เพลง DNA ว่าไว้จริง ๆ

 “ช่วยทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นด้วยท่วงทำนองเหล่านั้น
ช่วยทำให้หัวใจดวงนี้ที่มันหยุดเต้นไปแล้ว ได้กลับมาเต้นอีกครั้ง”

ในสักช่วงเวลาหนึ่งของชีวิต เคยรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองกันไหมคะ? อาจจะมีทั้งคนที่เคยเป็น ไม่เคยเป็น คนที่เข้าใจ และไม่เข้าใจว่าเหตุการณ์แบบนี้มันคืออะไรกัน

รู้สึกว่านี่ไม่ใช่ฉันคนเดิม
แต่ก็รู้สึกว่าไม่อยากจะเป็นตัวเอง

ความรู้สึก และความคิดในช่วงนี้ยอมรับเลยว่าค่อนข้างที่จะแย่เลยค่ะ ทำให้เข้าใจคำว่าโลกสีเทา และความอ้างว้าง คิดว่าไม่มีใครเข้าใจความรู้สึกที่เรามีในตอนนี้ ทั้ง ๆ ที่เคยสนุกกับสิ่ง ๆ หนึ่งมาก ๆ กลับกลายเป็นว่าหมดความรู้สึกสนใจในสิ่ง ๆ นั้นไปในที่สุด ดวงอาทิตย์ขึ้นตอนเช้า ตกตอนเย็นเป็นปกติของทุกวัน ทุกอย่างล้วนปกติดี มีเพียงแค่ตัวเราที่รู้สึกว่ามีสิ่งไม่ปกติเกิดขึ้น

ตัวผู้เขียนเองก็จำไม่ได้เหมือนกันว่าคุณโชคชะตาของพวกเรานั้นปรากฏตัวขึ้นมาตอนไหน รู้ตัวอีกทีก็ไปฟัง ไปอ่านความหมายของหลาย ๆ เพลงของบังทันแล้ว เราอาจจะไม่ได้เข้าใจในทันทีว่าเพลงนั้น ๆ เข้าใจตัวเรามากน้อยแค่ไหน แต่ก็ทำให้รู้ว่า แม้แต่ตัวพวกเขาเองก็พบผ่านอะไรแบบนี้มากันแล้วทั้งนั้น

Jamais Vu คือเพลงที่ผู้เขียนเลือกที่จะมาเป็น 1 ในความรู้สึกของผู้เขียน เพราะเป็นเพลงที่อยู่ในเส้นทางอาร์มี่ของผู้เขียนด้วยค่ะ

Remedy Melody เป็น2คำในเพลงที่ผู้เขียนชอบที่สุดเลยค่ะ เพราะผู้เขียนจะใช้เสียงเพลงเป็นเพื่อน และฮีลลิ่งความรู้สึก อาจจะไม่ได้ช่วยได้ทุกเรื่อง หรือตลอดไป แต่เพียงแค่ช่วยให้ได้สบายใจในสักช่วงเวลาสั้น ๆ นั่นก็คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดแล้วค่ะ

“เมื่อลมหนาวผ่านไป
ส่งมือมาหาฉัน และรับรู้ถึงลมหายใจนั้น
เมื่อหลับตาลง เมื่อนั้นเองเราจะอยู่ข้างกัน”

เราไม่ได้อยู่เพียงคนเดียวจริงหรือ? ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ มันจริงหรือไม่? คำตอบที่ไม่แน่นอนของคำถามที่กล่าวมา ทำให้บางครั้งบางคราวพวกเราต่างก็ติดอยู่ตรงทางเลือกของความคิด

แค่เพลง แค่ศิลปินที่เรารัก จะทำให้ชีวิตเราไปต่อได้จริงหรอ? คำตอบของคำถามนี้ผู้เขียนคงไม่มีคำตอบให้คนอื่นค่ะ แต่สำหรับผู้เขียนนั้นได้คำตอบให้กับตัวเองแล้วค่ะ อาจจะไม่ได้มาไกลจากเดิมมากนัก แต่ถือว่าเป็นการเริ่มต้นเล็ก ๆ ก็ได้ค่ะ

จากก่อนหน้านี้ที่ผู้เขียนเจอเรื่องที่ส่งผลเสียกับความคิด ความรู้สึก ทำให้มุมมองบางอย่างพลิกกลับไปโดยปริยาย และในวันนี้เองตัวผู้เขียนเหมือนจะเริ่มยอมรับ และเริ่มต้นบางอย่างได้บ้างแล้ว รวมถึงบทความนี้ที่ทุกคนอ่านมาถึงตรงนี้ด้วยค่ะ

Wherever you are
I know you always stay

เนื้อเพลงจากเพลง Stay ที่แสดงถึงอาร์มี่ และบังทันต่างก็อยู่เคียงข้างกันเสมอ แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ข้างเคียงกัน แต่เป็นความรู้สึกที่อบอุ่นใจทุกครั้งเมื่อนึกถึง หรือเมื่อตอนที่เปิดเพลงของบังทันฟัง และบังทันเองก็คงรู้สึกว่าอาร์มี่ของพวกเขาจะอยู่ตรงนี้

Stay เป็นบทเพลงที่เข้าใจมุมมองของกันและกัน ทำให้ยิ่งมั่นใจว่ากำแพงของภาษา หรือใด ๆ ก็ตาม ไม่สามารถมาขวางกั้นพวกเราและพวกเขาเลย

จากทั้งหมดที่กล่าวมา จึงเป็นที่มาของชื่อบทความนี้ค่ะ

“เมื่อโชคชะตานำพาความเยียวยาให้มาพบกัน”

อาร์มี่และบังทันก็ต่างเป็น โชคชะตา ของกันและกัน ได้รัก ได้สุข ได้ผ่านอะไรต่าง ๆ ผ่านแต่ละเส้นทางของวัน เวลา กลายเป็นถนนแห่งความทรงจำร่วมกัน การเยียวยาหัวใจไม่ได้มีเพียงแต่อาร์มี่ที่เป็นฝ่ายได้รับการเยียวยาหัวใจ ตัวบังทันเองก็คงรู้สึกถึงความรักที่อาร์มี่ต่างก็ส่งไปเช่นกันค่ะ

Purple is just like people because people are everywhere. But when I have you in my life, purple turns into special purple.

About the Author /

prang.957@gmail.com

Post a Comment