TXT เผยแรงบันดาลใจที่ได้รับจากสิ่งเล็กๆ ในชีวิตประจำวัน, การรับมือต่อสถานการณ์โรคระบาด และปณิธานในปี 2021

แปลบทสัมภาษณ์จาก Pink Villa

พวกคุณผู้เป็นกระบอกเสียงของเยาวชน, ผู้นำแห่งไอดอล K-Pop เจเนอร์เรชั่นที่ 4 และแบบอย่างของผู้คนนับล้าน รู้สึกอย่างไรกับเส้นทางที่เดินมาจนถึงปัจจุบัน?

YEONJUN: ขอบคุณสำหรับคำชื่นชมครับ เมมเบอร์คนอื่นก็คงรู้สึกเช่นเดียวกันว่าทุกๆ ช่วงเวลาที่เราใช้ร่วมกันเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นและมีความหมายเสมอ เราก็เหมือนกับคนกลุ่มอื่นๆ ที่บางทีก็มีขัดแย้งหรือความเห็นไม่ลงรอยกันบ้าง แต่เราก้าวข้ามสิ่งเหล่านั้นได้ผ่านการพูดคุยที่เปิดอกและตรงไปตรงมา ความเป็นทีมเวิร์กของพวกเราเองก็แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นเพราะประสบการณ์เหล่านี้เช่นกันครับ

SOOBIN: พวกเรามุ่งมั่นที่จะทำเพลงที่สามารถถ่ายทอดถ้อยความแห่งความหวังและพลังบวกที่เป็นสากลอยู่อย่างสม่ำเสมอแก่ผู้คนมากมาย ไม่ว่าพวกเขาจะมีพื้นเพอย่างไรก็ตาม และพวกเราก็รู้สึกว่าพวกเรามีวุฒิภาวะมากขึ้นทั้งในฐานะศิลปินและฐานะวงผ่านกระบวนการทำอัลบั้ม พวกเราจะเดินหน้าทำงานให้หนักยิ่งขึ้นเพื่อที่จะได้แสดงให้เห็นถึงผลงานที่หลากหลายและมีพัฒนาการมากยิ่งขึ้น

บ่อยครั้งที่แฟนๆ รู้สึกผูกพันกับเพลงของพวกคุณที่โดนใจคนทุกวัย พวกคุณได้รับแรงบันดาลใจในการทำเพลงมาจากไหน?

YEONJUN: เพลงของ TOMORROW X TOGETHER ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่องราวและประสบการณ์ของพวกเราเองครับ พวกเรามีความหวังเสมอว่าใครก็ตามที่ฟังเพลงของพวกเราจะอินกับถ้อยความที่อยู่ในเพลงของพวกเราได้ นอกจากนั้นพวกเราก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากศิลปินที่น่าทึ่งท่านอื่นๆ และจากการดูหนังดูรายการทีวีนี่แหละครับ อัลบั้มล่าสุด ‘minisode1 : Blue Hour’ ของพวกเราบันทึกประสบการณ์ในชีวิตประจำวัน, การต่อสู้ดิ้นรน และคำถามสำคัญที่วัยรุ่นทุกๆ ที่กำลังเผชิญในยุคที่ทุกอย่างหยุดชะงักเพราะ COVID-19 ในแนวทางและสไตล์ที่มีเอกลักษณ์สำหรับพวกเรา

HUENING KAI: ผมไม่คิดว่าแรงบันดาลใจจำเป็นต้องมาจากอะไรที่อลังการหรือโดดเด่นเป็นพิเศษเลยครับ ปกติแล้วพวกเราก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากชีวิตประจำวันของพวกเรา เช่นการดูหนัง, เดินเล่น หรือดื่มด่ำกับสิ่งรอบตัว พวกเราคอยสังเกตุสิ่งรอบตัวและเปิดรับสิ่งใหม่ๆ เพื่อถ่ายทอดความรู้สึกและประสบการณ์เหล่านี้ผ่านเพลงของ TOMORROW X TOGETHER ผมหวังว่าเวลาคุณฟังเพลงและได้ยินเนื้อเพลงของพวกเรา จะสามารถเชื่อมโยงเพลงของเราเข้ากับประสบการณ์และเรื่องราวของทุกๆ คนได้ครับ

คุณคิดว่าคุณรับมือกับประสบการณ์ของตัวเองได้ดีกว่าผ่านการแปลงประสบการณ์ของคุณเป็นเพลงหรือเปล่า?

SOOBIN: แน่นอนว่าการทำเพลงจากประสบการณ์ของตัวเองมันเป็นอะไรที่ง่ายกว่าครับ

YEONJUN: ครับผม ผมก็รู้สึกว่ากระบวนการถ่ายทอดประสบการณ์ของผมออกมาเป็นเพลงต้องอาศัยการใคร่ครวญความรู้สึกของตัวเองมากๆ และในกระบวนการไตร่ตรองกับแสดงความคิดของผมออกมาผ่านเพลงคือสิ่งที่เยียวจิตใจและทำให้ผมมีเรี่ยวแรงครับ

BEOMGYU: ผมคือคนที่สนุกกับการแบ่งปันประสบการณ์ของตัวเองผ่านเพลงมากๆ ครับ มันเป็นสิ่งที่ช่วยคลายความเครียดเวลามีเรื่องให้คิดมากมาย เพลง “Maze in the Mirror” จากอัลบั้ม ‘The Dream Chapter: ETERNITY’ ก็เป็นเพลงที่รำลึกถึงตอนที่พวกเราผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากสมัยยังเป็นเทรนนี่ครับ

TAEHYUN: แน่นอนครับว่าผมมองว่ากระบวนการแต่งเพลงมันไหลลื่นมากขึ้นเวลาที่แต่งเกี่ยวกับหัวข้อที่เรามีประสบการณ์ตรง เพราะเราจะนึกถ้อยคำและความรู้สึกในแง่มุมที่กว้างขึ้นออกทันที ซึ่งนำไปผูกโยงเข้ากับเพลงของพวกเราได้ครับ

HUENING KAI: การถ่ายทอดประสบการณ์ของพวกเราออกมาเป็นบทเพลงคือสิ่งที่ช่วยให้เราจัดการและแสดงความคิดของเราได้ดีขึ้น อย่างที่ BEOMGYU พูดไปว่าเพลง “Maze in the Mirror” คือเพลงที่เราพรั่งพรูความคิดที่ตรงไปตรงมาและความรู้สึกแท้ๆ ของพวกเราลงไปในเพลง ผมถึงรู้สึกขอบคุณที่โมอาชื่นชอบเพลงกัน ตอนผมทำเพลงนี้ ผมคิดว่าผมได้เติบโตมากขึ้นในฐานะนักแต่งเพลง ผมจึงถ่ายทอดถ้อยความที่ผมอยากสื่อสารออกมาได้ดียิ่งขึ้นผ่านเพลงครับ

MV ของพวกคุณมักมีกลิ่นอายที่ชวนฝันและมีความเป็นเทพนิยายแฟนตาซี คุณคิดคอนเซ็ปต์พวกนี้ขึ้นมาได้อย่างไร?

BEOMGYU: พวกเราได้รับแรงบันดาลใจจากชีวิตประจำวันของพวกเรา และพวกเราก็พยายามที่จะถ่ายทอดสิ่งเหล่านี้ผ่านทั้งงานเพลงและ MV อย่างในเพลง “We Lost the Summer” พวกเราคิดว่าตัว MV ได้บรรยายเส้นเรื่องที่ทุกคนที่กำลังใช้ชีวิตในยุค COVID-19 น่าจะเข้าใจได้อย่างถ่องแท้ มันเริ่มจากที่พวกเราทั้งห้าคนกำลังสนุกสนานและเฮฮาอยู่ด้วยกัน แต่แล้วจู่ๆ ก็ได้รับข้อความแจ้งเตือนสถานการณ์ฉุกเฉินที่ทำให้พวกเราต่างต้องแยกกันไปอยู่ที่บ้านของตัวเอง พวกเราทุกคนเรียนรู้ที่จะรับมือกับความเป็นจริงครั้งใหม่ในการมีปฏิสัมพันธ์ต่อกันได้แค่บนพื้นที่ออนไลน์ผ่านจอของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของพวกเรา เมมเบอร์ต่างภูมิใจกับผลลัพธ์ของตัว MV และรู้สึกขอบคุณผู้กำกับและทีมงานทุกคนที่ทำงานอย่างหนัก นอกจากนั้นพวกเรายังรู้สึกขอบคุณ MOA แฟนๆ ของพวกเราที่มอบความรักมากมายให้กับเพลงนี้ครับ

2020 เป็นปีที่น่าเหลือเชื่อของ TXT และพวกคุณก็ได้ฉลองการเดบิวต์ครบรอบ 1 ปีไปเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2020 ด้วยการครบรอบเดบิวต์ปีที่ 2 ที่กำลังจะมาถึงนี้ คุณมีปณิธานอะไรในปีนี้บ้าง?

SOOBIN: การแสดงในสถานที่จัดการแสดงที่ว่างเปล่าไร้ซึ่งแฟนๆ ของพวกเราไม่ได้เติมเต็มพวกเราเท่ากับเวลาทำการแสดงต่อหน้าแฟนๆ จริงๆ เลยครับ ผมรอแทบไม่ไหวที่จะได้ขึ้นเวทีต่อหน้า MOA และฟังเสียงเชียร์จากหูของตัวเอง ปณิธานส่วนตัวของผมสำหรับปีนี้คือการฝึกดีดเปียโนให้เป็นนิสัยจนกว่าจะดีดได้เก่งครับ

YEONJUN: ผมหวังให้สถานการณ์นี้ดีขึ้นโดยไวจริงๆ ครับ เมื่อมันดีขึ้นแล้ว ผมก็อยากจะมีคอนเสิร์ตแรกของ TOMORROW X TOGETHER ส่วนความหวังอีกหนึ่งอย่างคือการแต่งเพลงและปล่อยเพลงแรพครับ มันเป็นการท้าทายใหม่ๆ เลย แต่ผมก็พร้อมที่จะลองครับ

BEOMGYU: ปณิธานของผมในปี 2021 ในฐานะศิลปินคือการได้พบกับ MOA บ่อยยิ่งขึ้น และเหมือนกับทุกๆ คนครับว่าผมก็หวังว่าสถานการณ์โรคระบาดจะผ่านไปไวๆ เพื่อที่ว่าทุกอย่างจะได้กลับมาเป็นปกติ และพวกเราก็จะได้ใช้เวลาร่วมกับคนที่เรารักอีกครั้ง ส่วนตัวแล้วผมอยากไปเที่ยวกับเมมเบอร์ด้วยครับ

TAEHYUN: ผมอยากจะทำงานเพลงของผมอย่างเต็มที่ต่อไปเพื่อที่ผมจะได้ปล่อยมิกซ์เทปเร็วๆ นี้ตามที่คาดหวังเอาไว้ ส่วนปณิธานของผมเองคือการเรียนทำอาหารครับ

HUENING KAI: การมีสุขภาพที่แข็งแรงและปลอดภัยคือสิ่งที่มาเป็นอันดับหนึ่งสำหรับผมในปีนี้เลยครับ และผมก็อยากที่จะทำการแสดงแก่แฟนๆ ในคอนเสิร์ตออฟไลน์ของพวกเราทันทีที่สถานการณ์เอื้ออำนวยครับ!

เพลงของพวกคุณช่วยผู้คนนับล้านทั่วโลกให้รับมือกับความกดดันของตัวเองจากสถานการณ์โรคระบาด แล้วพวกคุณเองรับมืออย่างไรถึงก้าวผ่านปีที่ผ่านมาภายใต้สภาวะที่เลวร้ายเช่นเดียวกันนี้มาได้?

SOOBIN: พวกเราทราบดีครับว่านี่คือช่วงเวลาที่ลำบากและมืดหม่นสำหรับผู้คนมากมายทั่วโลก พวกเราเองก็ยินดีที่เพลงของ TOMORROW X TOGETHER เป็นแหล่งที่มอบการเยียวยาจิตใจท่ามกลางช่วงเวลาแบบนี้ได้ ซึ่งพอรู้แบบนี้แล้วมันก็เยียวยาจิตใจของพวกเรามากๆ เช่นกันครับ พวกเรานึกถึง MOA อยู่เสมอและพยายามทำงานและฝึกฝนอย่างหนักในช่วงเวลานี้ เพื่อที่ว่าเมื่อถึงเวลาที่เราสามารถพบหน้ากันได้ พวกเราจะนำเสนอการแสดงที่ดียิ่งขึ้นไปอีกให้แฟนๆ ของพวกเราได้รับชม

BEOMGYU: เพียงเพราะกายอยู่ห่างกันไม่ได้หมายความว่าเราห่างไกลกันนะครับ พวกเราอยากที่จะเชื่อมโยงถึง MOA แฟนๆ ของพวกเรา ซึ่งพวกเราก็ได้ทำแล้วและกำลังทำอยู่ด้วยการพูดคุยกันทาง Weverse และ Twitter พวกเราเอาชนะสภาวะที่เลวร้ายเหล่านี้ได้ด้วยวิธีนี้นั่นเองครับ

พวกคุณมีงานอดิเรกใหม่ๆ อะไรบ้างไหมระหว่างที่อยู่บ้านในปีที่ผ่านมา?

SOOBIN: ช่วงนี้ผมเล่นเกมคอมพิวเตอร์ที่บ้านครับ มันช่วยให้ผมคลายความเครียดและสัมผัสถึงช่วงเวลาแห่งความปกติท่ามกลางช่วงเวลาที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน งานอดิเรกใหม่ๆ ของผมคือการดีดเปียโนครับ! มันคือสิ่งที่ผมสนใจมากๆ ช่วงนี้ ผมก็เลยฝึกอยู่บ่อยๆ เลยล่ะครับ

YEONJUN: มันก็ไม่ใช่งานอดิเรกหรอกครับ แต่ผมน่ะชอบดูหนังกับรายการทีวีอยู่แล้ว ผมก็เลยใช้เวลาอยู่บ้านตามดูรายการใหม่ๆ และดูรายการโปรดตลอดกาลของผมย้อนหลัง

BEOMGYU: การออกไปข้างนอกและเจอเพื่อนๆ ช่วงนี้มันไม่ค่อยปลอดภัยใช่ไหมครับ? ผมก็เลยคอยติดต่อหาเพื่อนๆ ที่สนิททางมือถือ มันเป็นวิธีที่ผ่อนคลายและทำให้ใจฟูในการสิ้นสุดวันของผมในแต่ละวันครับ!

TAEHYUN: มันเป็นอีกครั้งที่ผมได้ตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ผมก็เลยใช้เวลาส่วนใหญ่ของผมในการออกกำลังกายที่บ้านเพื่อดูแลสุขภาพของผมเอง และเพื่อโชว์การแสดงบนเวทีที่ดียิ่งขึ้นด้วยครับ

HUENING KAI: ผมสนุกกับการใช้เวลาอยู่บ้านพูดคุยกับเมมเบอร์มากๆ ครับ เพราะพวกเราใช้เวลาร่วมกันมาเยอะมากตลอดไม่กี่ปีที่ผ่านมา พวกเราก็เลยเข้าใจกันมากกว่าใครๆ ผมว่าเพราะแบบนี้ผมถึงได้รู้สึกสบายใจเวลาอยู่กับพวกเขา พวกเราซัพพอร์ตกันและให้คำแนะนำกันและกันเวลาที่พวกเราคนใดคนหนึ่งรู้สึกดาวน์หรืออยู่ในจุดที่ลำบาก

TXT คือหนึ่งในศิลปินกลุ่ม K-Pop เจเนอร์เรชั่น 4 ที่โด่งดังและประสบความสำเร็จมากที่สุดวงหนึ่งในญี่ปุ่น ด้วยการครองอันดับสูงสุดบนชาร์ต และทำลายสถิติอยู่อย่างสม่ำเสมอทุกๆ ครั้งที่ออกผลงานภาษาญี่ปุ่น ในที่สุดอัลบั้ม ‘STILL DREAMING’ ของพวกคุณที่เป็นที่คาดหวังอย่างมากก็จะปล่อยออกมาในวันที่ 19 มกราคม (ตามเวลาไทย) แล้ว พวกคุณตั้งความหวังและคาดหวังอะไรจากอัลบั้มนี้?

TAEHYUN: ‘STILL DREAMING’ อัลบั้มภาษาญี่ปุ่นชุดแรกของพวกเราถ่ายทอดถ้อยความที่ว่าพวกเรามารวมตัวกันภายใต้ความฝันเดียวเพื่อสร้างวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า ซึ่งเหมือนกับชื่อวงของพวกเรา ผมหวังครับว่าหลายๆ คนจะฟังอัลบั้มนี้แล้วอินกับถ้อยความของเพลง และเจอกับสิ่งที่เยียวยาจิตใจครับ

ที่มา | PinkVilla
แปลจากอังกฤษเป็นไทยโดย CANDYCLOVER

DMCA.com Protection Status

ทาง CANDYCLOVER มีความยินดีหากผู้อ่านเล็งเห็นประโยชน์ของคอนเทนต์นี้ และต้องการนำไปประกอบเอกสารหรือสื่อทางการศึกษา เผยแพร่ต่อบนโซเชียลมีเดีย รวมถึงนำไปผลิตของที่ระลึก เช่น Giveaway สำหรับแจกฟรี มิใช่การจัดจำหน่าย

หากต้องการนำข้อมูลไปใช้อ้างอิง กรุณาติดต่อทางอีเมลล์ bts.candyclover@gmail.com และรอการตอบกลับที่ระบุว่าอนุญาตแล้วเท่านั้น ยกเว้นกรณีการนำข้อมูลที่ “แปล เรียบเรียง หรือจัดทำโดย CANDYCLOVER” ไปรีโพสต์ ทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไข นำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ รีโพสต์บนแฟนเพจ เว็บไซต์ หรือเว็บบอร์ด ที่มิใช่แพลตฟอร์มของ CANDYCLOVER พร้อมใส่เครดิตเองโดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงนำไปเป็นคอนเทนต์ทางสื่อโทรทัศน์ หรือกระทำการใด ๆ ก็ตามที่เข้าข่ายแอบอ้างผลงาน หากพบเห็นจะดำเนินคดีทางกฎหมายให้ถึงที่สุด

หากท่านชื่นชอบคอนเทนต์ที่ CANDYCLOVER นำเสนอ สามารถให้การสนับสนุนพวกเราได้ง่าย ๆ เพียง 1.) ไม่สนับสนุนแอคเคาต์ที่แอบอ้างข้อมูลที่แปลโดย CANDYCLOVER 2.) รีพอร์ตแอคเคาต์ดังกล่าวผ่านระบบของแพลตฟอร์มที่ท่านพบเห็นโพสต์ที่เข้าข่าย โดยเลือกหัวข้อ “ละเมิดลิขสิทธิ์” 3.) สนับสนุนค่ากาแฟทาง Ko-fi หรือ Patreon

About the Author /

bts.candyclover@gmail.com

I go by the name Candy, a co-founder, admin, designer, translator, writer of and for CANDYCLOVER. I'm a graphic/UI designer and a self-taught Korean translator who's passionate about telling success stories of BTS in the form of mixed media from graphic to web-based experiences. Now, I'm also pursuing my career as a professional Korean translator. My recent book-length translation projects are: I AM BTS (TH Edition), BTS The Review (TH Edition) and more to come!

Post a Comment