
BTS สะท้อนมุมมองการแต่งเพลง, แรงบันดาลใจ, งานศิลป์ และการแสดงออกต่อความอคติและความรุนแรง
ศิลปินกลุ่ม BTS เอาชนะใจแฟนๆ ทั่วโลกในฐานะเพอร์ฟอร์เมอร์ผู้เพรียบพร้อมด้วยความสามารถ พวกเขามีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์ผลงานของตัวเองขึ้นหลายครั้งหลายครา บางเมมเบอร์เองก็เป็นผู้แต่งผลงานโซโล่ของตัวเอง ในขณะที่ใช้แอคเคาต์โซเชียลมีเดียร่วมกันที่มีผู้ติดตามมากมาย อัลบั้มต่อไปของพวกเขาอย่าง “BE” จุดประกายความสนใจที่แฟนๆ มีอย่างร้อนแรงก่อนที่อัลบั้มจะเปิดตัวในวันที่ 20 พฤศจิกายนนี้แล้ว
ต่อไปเป็นบทสัมภาษณ์ BTS จากนิตยสาร Variety
ในฐานะศิลปิน คุณคิดว่าคุณอุทิศสิ่งใดให้กับวงการเพลงมากที่สุด คุณผลักดันแนวเพลง K-Pop ไปข้างหน้าอย่างไร?
SUGA: เมื่อพูดถึงอิทธิพลของพวกเราต่อวงการ K-Pop มันอาจฟังดูยิ่งใหญ่ มันเป็นเรื่องโชคดีที่สิ่งที่เราทำมันไปถูกทางและมีคุณค่า สิ่งเหล่านี้มันถึงได้เกิดขึ้นครับ
เราได้ใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มออนไลน์หลากหลายรูปแบบ สิ่งที่เราอยากทำคือแสดงออกมาให้เห็นมากที่สุดเท่าที่พวกเราจะทำได้ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์หลายรูปแบบเหล่านี้ และทำให้มันเกิดประโยชน์มากที่สุด
ไม่ใช่ว่าเป้าหมายของเราคือการไปอเมริกาเลยครับ สิ่งที่เราอยากทำคือการทำการแสดงของเราแก่ผู้คนที่รักในผลงานเพลงของเรา เป้าหมายของเราในตอนแรกไม่เคยเป็นการคว้ารางวัล Grammy เราคือชาวเกาหลีทั่วๆ ไปเจ็ดคนที่เริ่มทำในสิ่งที่เราอยากทำ, สิ่งที่เรารู้สึกสนุก ซึ่งก็คือการทำเพลง สิ่งเหล่านี้มันนำพาให้เรามาถึงจุดที่เราอยู่และสิ่งที่เราเป็นในปัจจุบัน
ในฐานะศิลปิน สิ่งที่คุณภาคภูมิใจมากที่สุดที่ทำได้สำเร็จคือสิ่งใด โดยเฉพาะในแง่มุมด้านการทำเพลง?
RM: เราเป็นคนเกาหลี การที่เราร้องเพลงของพวกเราเป็นภาษาเกาหลีที่ทำให้พวกเรามีโอกาสได้เผยแพร่ให้ผู้คนจากทั่วโลกเข้าถึงภาษาเกาหลีมากขึ้น แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่เราภูมิใจมากๆ ครับ แล้วก็หากอย่างน้อยๆ มันเป็นเพราะพวกเรา คนหนุ่มสาวทั่วโลกก็ได้มีโอกาสทำในสิ่งดีๆ ที่พวกเขาอยากทำ มันจะเป็นสิ่งที่เรารู้สึกภาคภูมิใจอยู่เสมอเช่นกันครับ
ทุกวันนี้ อุตสาหกรรมเพลงประกอบด้วยแพลตฟอร์มหลากหลายรูปแบบ ไม่ได้เกี่ยวกับตัวเพลงและการฟังเพลงเพียงอย่างเดียว ยกตัวอย่างเช่นในกรณีของ BTS การแสดงคือมิติที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของผลงานเพลงของเรา, ของความเป็นตัวเรามากๆ ครับ ตัวย่อชื่อวงของเราคือ BTS ผู้คนมักสงสัยใคร่รู้เกี่ยวกับ BTS หรือภาพลักษณ์เบื้องหลัง ‘Behind the Scenes’ ของเรามากๆ พวกเขาอยากเห็นว่าพวกเราเป็นอย่างไรทั้งบนสเตจและนอกสเตจ นี่แหละครับคือสิ่งที่ทำให้ BTS เป็น BTS
ผู้คนในวงการเพลงที่คอยเฝ้าติดตามอาจประทับใจที่เพลงเกาหลีเหล่านี้ได้รับการเผยแพร่ให้ได้ยินนอกประเทศเกาหลี แต่ผมว่าสิ่งที่เป็นที่น่าจดจำอีกอย่างสำหรับพวกเขาคือการที่มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับการฟังเพลงเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป
สำหรับพวกเราแล้ว มิวสิควิดีโอคือส่วนที่สำคัญของเพลงและกระบวนการด้านครีเอทีฟของเรา บางส่วนของเบื้องหลังที่เราเผยให้เห็นผ่าน YouTube หรือบนโซเชียลมีเดีย ที่พวกเราเป็นตัวเองและทำอะไรน่ารักๆ เวลาอยู่นอกเวที นี่แหละครับคือสิ่งที่ผู้คนอยากเห็น และยังเป็นส่วนสำคัญของตัวเราและเพลงของเราด้วยครับ
Q: พวกคุณทุบสถิติยอดเข้าชมบน YouTube มากมายจากเพียงตัวอย่างการทำสถิติผลงานครั้งล่าสุดผ่านเพลง Dynamite คุณพอใจไหมที่ได้ให้คำจำกัดความการที่ศิลปินเข้าถึงแฟนๆ ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง YouTube และ Weverse ขึ้นใหม่ หรือยังรู้สึกกดดันต่อการบุกแพลตฟอร์มที่มีมาแต่เดิมอย่างสถานีวิทยุ? และสาเหตุคืออะไร?
Jin: เป้าหมายของเราคือการพยายามที่จะแสดงให้อาร์มี่เห็นถึงความเป็นตัวเรามากที่สุดเท่าที่พวกเราจะทำได้ เดี๋ยวนี้มีแพลตฟอร์มมากมายจึงมีหลายสิ่งหลายอย่างที่พวกเราแสดงให้เห็นผ่านหลายแพลตฟอร์ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนนี้ที่พวกเราไม่สามารถพบกับแฟนๆ ตัวเป็นๆ ได้ ซึ่งบางอย่างก็เหมาะกับอีกแพลตฟอร์มหนึ่งมากกว่าอีกแพลตฟอร์มครับ
Jung Kook: สิ่งสำคัญที่สุดคือการให้อาร์มี่ได้ฟังเพลงของพวกเรา, เพื่อให้ได้ชื่นชม, เข้าใจ และสัมผัสถึงดนตรีของพวกเรา มันคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับพวกเราครับ
Q: งานอดิเรกและความพยายามด้านครีเอทีฟประเภทไหนที่ช่วยให้คุณผ่านช่วงเวลาที่หนักหน่วงจากโรคระบาด?
Jung Kook: เราจำเป็นต้องยกเลิก, เลื่อนและจัดแผนงานต่างๆ ของพวกเราใหม่เพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ก่อนหน้านี้สิ่งต่างๆ ดูไร้จุดหมาย ผมไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าเราควรทำอะไร
ช่วง FESTA ในเดือนมิถุนายน พวกเราแต่งเพลงชื่อ “I’m Still With You” ที่ค่อนข้างใส่ความรู้สึกที่ผมมีในตอนนั้นว่าผมคิดถึงแฟนๆ ของเรามากๆ ช่วงนั้นเรายังได้เริ่มนั่งคิดว่าจะใช้เวลาในตอนนั้นเพื่อเตรียมตัวเราให้พร้อมสำหรับวันที่จะได้เจอแฟนๆ อีกครั้ง พวกเราทุกคนทำงานหนักกันมากๆ เราปรับตัวต่อสถานการณ์ใหม่นี้อย่างมากเลยครับ
Q: เล่าให้ฟังได้ไหมว่าเพลงที่คุณชื่นชอบมากๆ และหวังว่าตัวเองเป็นคนแต่งคือเพลงอะไร?
Jimin: ผมรักในผลงานเพลงของเรา และสไตล์เพลงของ BTS มากๆ ครับ ผมเองก็พยายามทำเพลงของผมอยู่ แต่ยังไม่ได้ปล่อยอะไรออกมา สิ่งที่ผมกำลังทำอยู่คือการเรียนรู้จากเมมเบอร์คนอื่นและลิ้มลองในสิ่งใหม่ๆ ที่เป็นสไตล์ BTS ที่ผมชื่นชอบ ผมอยากปล่อยเพลงและทำเพลงของผมเองมากๆ เลยครับ
V: สมัยที่ผมยังเด็กกว่าตอนนี้มากๆ ผมฟังเพลงท็อปฮิตส์และเพลงที่เมมเบอร์แนะนำให้ผมเยอะมากๆ ผมรู้สึกอยู่บ่อยครั้งเลยว่าถ้าผมได้แต่งเพลงพวกนั้นเองคงจะเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมากๆ ผมพยายามอย่างหนักเพื่อที่ว่าวันหนึ่งผมจะเป็นคนแต่งหนึ่งในเพลงที่ยอดเยี่ยมพวกนั้นได้และสัมผัสได้ถึงความภาคภูมิใจนั้นครับ
Q: การบริจาคของพวกคุณเพื่อสนับสนุนความเคลื่อนไหว ‘Black Lives Matter’ มีความหมายต่อแฟนๆ โดยเฉพาะในอเมริกามาก ๆ การตัดสินใจที่จะแสดงออกต่อความเคลื่อนไหวนี้เป็นมายังไง?
Jin: ตอนเราไปต่างประเทศ เราเองก็เผชิญกับอคติเช่นเดียวกัน ซึ่งอคติไม่ใช่สิ่งที่เราควรจะต้องทน มันไม่ควรมีอยู่เลยด้วยซ้ำ เราเริ่มพูดคุยกันว่าเราทำอะไรเพื่อช่วยเหลือได้บ้าง ไม่ว่าจะด้วยการบริจาคหรือวิธีอื่นๆ การพูดคุยถึงเรื่องนี้เริ่มมาจากจุดนั้นนั่นเองครับ เราเพียงพยายามดูว่าเราทำอะไรได้บ้างเพื่อบรรเทาอคติเหล่านี้ให้ลดน้อยลง
RM: เรารับรู้ในสิ่งที่แฟนๆ ร่วมกันทำ และแฮชแท็กต่างๆ เราตตัดสินใจโดยคำนึงถึงอย่างรอบคอบ เราจะทำอะไรได้บ้างที่เป็นส่วนหนึ่งของการออกมาแสดงจุดยืนต่อต้านอคติและความรุนแรงซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเราพยายามถ่ายทอด เราพูดคุยกับบริษัทอย่างรอบคอบ มันเลยออกมาเป็นอย่างที่เห็นนี่แหละครับ
พวกคุณมองตัวเองในเชิงการเมืองไหม? มีอุดมการณ์อื่นใดที่ต้องการสนับสนุนเป็นพิเศษไหม? พอจะบอกเล่าประเด็นปัญหาสากลที่มีความสำคัญต่อพวกคุณ และอีกหนึ่งประเด็นในเกาหลีได้หรือไม่?
SUGA: เราไม่ได้มองตัวเองในเชิงการเมือง ผมไม่ได้อยากพูดในแง่ของการเมือง สิ่งที่เราทำคือการริเริ่มในสิ่งที่ใครก็ตามที่หวังจะได้อยู่ในโลกที่เที่ยงธรรมก็ต้องการที่จะทำให้มันเกิดขึ้นให้จงได้ เราไม่ได้พยายามที่จะสื่อสารถ้อยความที่ใหญ่โตอะไรเลยครับ
ในเรื่องของการสนับสนุนความเคลื่อนไหว ‘Black Lives Matter’ ผมมองว่ามันไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลยครับ มันคือการที่เราต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติและความรุนแรง คนส่วนใหญ่เองก็ต่อต้านสิ่งเหล่านี้ เราเองเผชิญความมีอคติมากับตัวเหมือนกัน เราเพียงต้องการแสดงให้เห็นว่ามันเป็นสิทธิ์ของทุกคนที่ไม่ควรต้องมาเผชิญการเหยียดเชื้อชาติและความรุนแรงครับ
เราซาบซึ้งและรู้สึกขอบคุณต่อความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของแฟนๆ ของพวกเราจริงๆ ทุกๆ คนล้วนอยากที่จะอยู่ในโลกที่ดีกว่าและพยายามทำให้โลกที่เราอยู่เป็นโลกที่ดีกว่า
j-hope: เราอยากทำในสิ่งที่เราทำได้เพื่อสร้างโลกที่ดีกว่าตลอดมา ไม่ว่าจะที่เกาหลีหรือที่ไหนก็ตาม และมุ่งหน้าไปในทิศทางที่ดีเท่าที่เราทำได้ ไม่ว่าจะผ่านผลงานเพลงหรืองานการกุศลก็ตาม
RM: พวกเราไม่ใช่นักการเมือง แต่อย่างที่เขาว่าว่าทุกอย่างเป็นเรื่องของการเมือง แม้แต่ก้อนกรวดก็เป็นเรื่องของการเมืองได้
เป้าหมายของเราและสิ่งที่เราอยากเห็นจริงๆ คือการที่ทุกคนมีชีวิตที่ปลอดภัย นี่แหละครับคือแรงผลักดันต่อการบริจาคแก่ ‘Black Lives Matter’, แก่แคมเปญ UNICEF และการริเริ่มลงมือทำในด้านอื่นๆ สิ่งที่เราอยากที่จะให้ความสำคัญในตอนนี้คือการที่คนหนุ่มสาวทั่วโลกกำลังทุกข์ทรมานจากโรคระบาด เราเชื่อว่าสิ่งที่เราทำได้และควรทำคือการพยายามมอบความหวังและพลังใจให้แก่ผู้คน, แก่ทุกๆ คน โดยเฉพาะคนหนุ่มสาวที่ทุกข์ทรมานจากสถานการณ์โรคระบาดครับ
ที่มา | Variety (1), Variety (2)
แปลจากอังกฤษเป็นไทยโดย CANDYCLOVER

ทาง CANDYCLOVER มีความยินดีหากผู้อ่านเล็งเห็นประโยชน์ของคอนเทนต์นี้ และต้องการนำไปประกอบเอกสารหรือสื่อทางการศึกษา เผยแพร่ต่อบนโซเชียลมีเดีย รวมถึงนำไปผลิตของที่ระลึก เช่น Giveaway สำหรับแจกฟรี มิใช่การจัดจำหน่าย
หากต้องการนำข้อมูลไปใช้อ้างอิง กรุณาติดต่อทางอีเมลล์ bts.candyclover@gmail.com และรอการตอบกลับที่ระบุว่าอนุญาตแล้วเท่านั้น ยกเว้นกรณีการนำข้อมูลที่ “แปล เรียบเรียง หรือจัดทำโดย CANDYCLOVER” ไปรีโพสต์ ทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไข นำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ รีโพสต์บนแฟนเพจ เว็บไซต์ หรือเว็บบอร์ด ที่มิใช่แพลตฟอร์มของ CANDYCLOVER พร้อมใส่เครดิตเองโดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงนำไปเป็นคอนเทนต์ทางสื่อโทรทัศน์ หรือกระทำการใด ๆ ก็ตามที่เข้าข่ายแอบอ้างผลงาน หากพบเห็นจะดำเนินคดีทางกฎหมายให้ถึงที่สุด
หากท่านชื่นชอบคอนเทนต์ที่ CANDYCLOVER นำเสนอ สามารถให้การสนับสนุนพวกเราได้ง่าย ๆ เพียง 1.) ไม่สนับสนุนแอคเคาต์ที่แอบอ้างข้อมูลที่แปลโดย CANDYCLOVER 2.) รีพอร์ตแอคเคาต์ดังกล่าวผ่านระบบของแพลตฟอร์มที่ท่านพบเห็นโพสต์ที่เข้าข่าย โดยเลือกหัวข้อ “ละเมิดลิขสิทธิ์” 3.) สนับสนุนค่ากาแฟทาง Ko-fi หรือ Patreon