BTS ผู้ฝ่าทะลุป้อมปราการ GRAMMY คุณค่าเหนือการเป็นศิลปิน K-Pop กลุ่มแรก

งาน GRAMMY ที่เป็นเสมือนป้อมปราการโดนบุกทะลวงแล้ว เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ศิลปินกลุ่ม BTS เดบิวต์มา 7 ปีที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงงานประกาศรางวัล GRAMMY จากซิงเกิ้ล Dynamite ที่เปิดตัวออกเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ในสาขา Best Pop Duo/Group Performance 

ผู้เข้าชิงในสาขาเดียวกันนอกจากซิงเกิ้ล Dynamite โดย BTS ได้แก่ ‘Un Dia (One Day)’ โดย J. Balvin, Dua Lipa, Bad Bunny, Tainy; ‘Intentions’ โดย Justin Bieber feat. Quavo; ‘Rain On Me’ โดย Lady Gaga with Ariana Grande และ ‘Exile’ โดย Taylor Swift feat. Bon Iver

งาน GRAMMY
ประกาศรายชื่อผู้เข้าชิงรางวัล GRAMMY ครั้งที่ 63 สาขา Best Pop Duo/Group Performance

ในช่วงเช้ามืดของวันนี้ (25 พฤศจิกายน) BTS เผยความรู้สึกผ่าน Twitter “ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ขอบคุณทุกๆ คนที่ดื่มด่ำและฟังเพลงของพวกเราครับ เหนือสิ่งอื่นใด อาร์มี่ทุกคนคือผู้ที่สร้างปาฏิหารย์ในการเป็นศิลปินผู้เข้าชิง งาน GRAMMY ครับ รักและขอบคุณเสมอเลยครับ ขอบคุณ Recording Academy สำหรับเกียรติยศครั้งยิ่งใหญ่นี้ครับ”

และผ่านทางต้นสังกัด Big Hit Entertainment “เรารู้สึกยินดีจนไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ เพราะผลของความพยายามมันงอกเงย เรารู้สึกทึ่ง, ซาบซึ้งใจ และขอบคุณอาร์มี่ทุกคนที่มอบโอกาสให้พวกเราได้เข้าชิงรางวัล พอรู้ว่าแฟนๆ ดีใจยิ่งรู้สึกยินดีครับ พอได้เข้าชิงรางวัลแล้วก็เกิดความต้องการอยากชนะรางวัล และตั้งตารอครับ”

BTS ผู้ทำฝันเป็นจริง, ผู้เข้าชิงสุดทรงพลังที่สื่อต่างชาติให้การยอมรับ

ด้วยผลงานเพลงและการแสดงระดับคุณภาพนับตั้งแต่เดบิวต์ในปี 2013 พวกเขา BTS ค่อยๆ ทำความฝันสำเร็จไปทีละก้าว ตั้งแต่คว้ารางวัลศิลปินหน้าใหม่, คว้าอันดับ 1 ในรายการเพลง, ขึ้นทัวร์คอนเสิร์ตที่  Olympic Gymnastics Arena, Gocheok Dome และ Olympic Stadium, ทัวร์คอนเสิร์ตระดับสเตเดียมในต่างประเทศ ตลอดจนคว้าอันดับ 1 บน 2 ชาร์ตหลักของ Billboard (Billboard 200 และ Hot 100) การเข้าชิงรางวัล GRAMMY นับเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายที่ BTS กล่าวถึงหลายครั้งในการปรากฏตัวต่อสาธารณะครั้งล่าสุด

ความฝันของ BTS ไม่ใช่ความฝันลมๆ แล้งๆ แต่อย่างใด พวกเขาทำสถิติสูงสุดครั้งประวัติศาสตร์จากทั้งยอดขายอัลบั้มและยอดขายดิจิตอล คำยกย่องที่พวกเขาได้รับไม่ได้จบลงแค่เพียงการเก็บเกี่ยวความสำเร็จมากมาย แต่ยังรวมถึงพัฒนาการที่ก้าวไปอีกขั้นในด้านงานเพลงและการแสดง สื่อผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นอย่าง Billboard, Variety และ AP ก็คาดการณ์ว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ BTS จะได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล GRAMMY 

BTS ครองอันดับ 1 บนชาร์ต Billboard 200 จากอัลบั้มเต็มชุดที่ 4 ‘MAP OF THE SOUL : 7’ ที่เปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เป็นการขึ้นสู่อันดับสูงสุดครั้งที่ 4 นับตั้งแต่เดบิวต์ ในก่อนหน้านั้น พวกเขาเป็นศิลปินเกาหลีรายแรกที่ขึ้นสู่อันดับสูงสุดบนชาร์ตดังกล่าวจากอัลบั้มเต็มชุดที่ 3 อย่าง LOVE YOURSELF 轉 ‘Tear’ และคว้าอันดับ 1 ในครั้งต่อมาในปีเดียวกันจากอัลบั้ม LOVE YOURSELF 結 ‘Answer’ และจากอัลบั้ม ‘MAP OF THE SOUL : PERSONA’ เมื่อปีที่ผ่านมา

ที่พิเศษไปกว่านั้นคือการที่พวกเขา BTS ได้บันทึกสถิติที่ทรงคุณค่าจากการคว้าอันดับ 1 บนชาร์ต Billboard 200 อย่างต่อเนื่อง 4 อัลบั้มภายในระยะเวลาเพียง 1 ปี 9 เดือน ซึ่งเป็นระยะเวลาที่สั้นที่สุดของศิลปินกลุ่ม นับตั้งแต่สถิติที่ศิลปินชื่อดังระดับโลกอย่าง The Beatles ที่บันทึกไว้ที่ 1 ปี 5 เดือน (กรกฎาคม 1966 – มกราคม 1968) ทั้ง 4 อัลบั้มดังกล่าวของ BTS ยังเป็น 4 ใน 10 อัลบั้มที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษที่ครองอันดับสูงสุดบนชาร์ต Billboard 200 อีกด้วย

สถิติที่ทำได้จากซิงเกิ้ล Dynamite ที่เปิดตัวเมื่อเดือนสิงหาคมก็เป็นที่น่าจดจำเช่นกัน พวกเขา BTS กลายเป็นศิลปินเกาหลีรายแรกที่ครองอันดับสูงสุดบนชาร์ต Billboard Hot 100 ได้ถึง 3 ครั้ง, อันดับ 2 ถึง 4 ครั้ง และครองอันดับ 14 ในสัปดาห์ที่ 13 หลังเปิดตัว 

ร่วมงานประกาศรางวัล → ขึ้นแสดงบนสเตจคอลแล็บ → เข้าชิงรางวัล พัฒนาการอีกขั้นจากงานประกาศรางวัล GRAMMY

งานประกาศรางวัล GRAMMY Awards, งานประกาศรางวัล Billboard Music Awards และงานประกาศรางวัล American Music Awards เป็น 3 งานประกาศรางวัลใหญ่ด้านดนตรีในอเมริกา สำหรับงาน GRAMMY นั้นเรียกได้ว่าเป็นงานประกาศรางวัลที่ทรงเกียรติและมีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนาน ในหมู่คนดนตรี งานประกาศรางวัลนี้ถือเป็นงานที่แค่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงก็มีความหมายอย่างใหญ่หลวงแล้ว 

ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจที่งานประกาศรางวัล GRAMMY จัดขึ้นโดยสถาบันการบันทึกเสียง หรือ Recording Academy มาตั้งแต่ปี 1959 สมาชิกของสถาบันการบันทึกเสียง ซึ่งประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญในวงการเพลง ได้แก่ ศิลปินระดับโลก, นักแต่งเพลง, โปรดิวเซอร์, วิศวกรดนตรี ฯลฯ เป็นผู้คัดเลือกผู้เข้าชิงรอบแรกผ่านการโหวต จากนั้นคณะกรรมการของรางวัล GRAMMY จะเป็นผู้ทำการประเมินและตัดสินผู้ชนะรางวัล ในขณะที่งานประกาศรางวัล American Music Awards ตัดสินรางวัลจากคะแนนโหวตของแฟนๆ และ Billboard Music Awards ตัดสินรางวัลจากผลงานที่ทำได้บนชาร์ต Billboard


การที่ BTS ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล GRAMMY ถือเป็นความสำเร็จอันยอดเยี่ยมที่ไม่สามารถตีกรอบไว้แค่เพียง ‘สถิติครั้งแรกของศิลปิน K-Pop’

และยังเป็นสถิติครั้งประวัติศาสตร์ของงานประกาศรางวัล GRAMMY ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา การคัดเลือกผู้เข้าชิงและคัดเลือกผู้ชนะรางวัลของงาน GRAMMY ถูกปกคลุมไปด้วยข้อพิพาทจากการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมต่อศิลปินและงานเพลงที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ และข้อพิพาทจากการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติ (ให้ความสำคัญกับคนขาวเป็นหลัก) งานประกาศรางวัลนี้ถูกตีตราว่าเป็นการแข่งขันของพวกตัวเอง, เป็นงานประกาศรางวัลของคนขาว อีกทั้งยังมีทัศนคติที่แคบและอนุรักษ์นิยม การที่ศิลปินที่มี ‘ถิ่นกำเนิดจากเกาหลี’ และ ‘บอยแบนด์’ ที่ไม่ค่อยถูกกล่าวถึงได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล จึงเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงตัวตนของ BTS ที่ก้าวข้ามในเรื่องของภาษาและเชื้อชาติ

แม้จะได้รับคำยกย่องด้านดนตรีอย่างมากมาย และบันทึกสถิติระดับโลก BTS กลับเป็นเพียงศิลปินเพียงกลุ่มเดียวที่ไม่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงสาขาดนตรี งาน GRAMMY แต่พวกเขาก็ยังคงอุทิศตนให้กับงานที่ตัวเองทำอย่างไม่ย่อท้อ, ค่อยๆ เคาะประตูสู่งาน GRAMMY และได้รับการยอมรับจากสมาชิกของสถาบันการบันทึกเสียงในที่สุด

งานประกาศรางวัล GRAMMY เริ่มให้ความสนใจต่อ BTS อย่างเป็นทางการในปี 2018 ผู้กำกับศิลป์จาก HuskyFox ผู้ออกแบบแพคเกจจิ้งอัลบั้มเต็มชุดที่ 3 ของ BTS อย่าง LOVE YOURSELF 轉 ‘Tear’ ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงสาขา Best Recording Package จากงานประกาศรางวัล GRAMMY ครั้งที่ 61 (ปี 2019) ในครั้งนั้น BTS ได้รับเชิญเข้าร่วมงานในฐานะผู้เชิญรางวัล

ต่อมา BTS ก็กลายเป็นศิลปินเกาหลีรายแรกที่ทำการแสดงในงานประกาศรางวัล GRAMMY ครั้งที่ 62 (ปี 2020) BTS ได้รับโอกาสในการขึ้นสเตจคอลแล็บของ Lil Nas X จากการที่ลีดเดอร์ RM ร่วมฟีทเจอร์ริ่งในผลงาน ‘Old Town Road (Seoul Town Road Remix) feat. RM of BTS’ ซึ่งเป็นภาคต่อจากเพลง ‘Old Town Road All-Stars’

ได้รับการยอมรับจากทั้ง 3 งานประกาศรางวัลใหญ่ในอเมริกา หลังเดบิวต์เพียง 7 ปี

ด้วยเหตุนี้ BTS จึงกลายเป็นศิลปิน K-Pop กลุ่มแรกที่ได้รับเกียรติจากการเข้าชิงงานประกาศรางวัลใหญ่ด้านดนตรีในอเมริกาทั้ง 3 งาน

ความสัมพันธ์ระหว่าง BTS กับงานประกาศรางวัล Billboard Music Awards เริ่มต้นขึ้นในปี 2017 ซึ่งนับตั้งแต่ปี 2017 เป็นต้นมาเป็นระยะเวลา 4 ปี พวกเขาเข้าร่วมงานและคว้ารางวัล Top Social Artist อย่างต่อเนื่อง ในระหว่างนั้นก็ได้โชว์การแสดงเพลง Fake Love ในงาน Billboard Music Awards ประจำปี 2018, แสดงเพลง Boy With Luv ร่วมกับ Halsey ในงาน Billboard Music Awards ประจำปี 2019 และได้รับรางวัลหลักจากงาน ได้แก่ รางวัล Top Duo/Group กลับไปครองเป็นครั้งแรก ต่อมาเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา พวกเขาก็ได้ทำการแสดงเพลง Dynamite ไปในงาน Billboard Music Awards ประจำปี 2020

สำหรับงานประกาศรางวัล American Music Awards พวกเขาเดบิวต์ทางสถานีโทรทัศน์อเมริกาเป็นครั้งแรกจากการแสดงเพลง DNA ในงาน American Music Awards ประจำปี 2017 แม้พวกเขาไม่ได้เข้าร่วมงานในปี 2018 แต่ก็ได้รับรางวัล Favourite Social Artist พวกเขาไม่สามารถเข้าร่วมงานได้อีกครั้งในปี 2019 แต่ก็ได้รับรางวัล Favourite Social Artist, รางวัล Tour of the Year และรางวัล Favorite Duo or Group ในสาขา Pop/Rock กลับไปครองรวมแล้วถึง 3 รางวัล

งาน American Music Awards ประจำปี 2020 เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมานั้น พวกเขาเผยการแสดงของผลงานเพลงใหม่อย่าง ‘Life Goes On’ เป็นครั้งแรก และคว้ารางวัล Favourite Social Artist และรางวัล Favorite Duo or Group ในสาขา Pop/Rock กลับไปครองอีกครั้ง

อนึ่ง งานประกาศรางวัล GRAMMY ครั้งที่ 63 จะจัดขึ้นในวันที่ 31 มกราคม 2021

ที่มา | Newsen สกู๊ป Music Watch
แปลจากเกาหลีเป็นไทยโดย CANDYCLOVER

DMCA.com Protection Status

ทาง CANDYCLOVER มีความยินดีหากผู้อ่านเล็งเห็นประโยชน์ของคอนเทนต์นี้ และต้องการนำไปประกอบเอกสารหรือสื่อทางการศึกษา เผยแพร่ต่อบนโซเชียลมีเดีย รวมถึงนำไปผลิตของที่ระลึก เช่น Giveaway สำหรับแจกฟรี มิใช่การจัดจำหน่าย

หากต้องการนำข้อมูลไปใช้อ้างอิง กรุณาติดต่อทางอีเมลล์ bts.candyclover@gmail.com และรอการตอบกลับที่ระบุว่าอนุญาตแล้วเท่านั้น ยกเว้นกรณีการนำข้อมูลที่ “แปล เรียบเรียง หรือจัดทำโดย CANDYCLOVER” ไปรีโพสต์ ทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไข นำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ รีโพสต์บนแฟนเพจ เว็บไซต์ หรือเว็บบอร์ด ที่มิใช่แพลตฟอร์มของ CANDYCLOVER พร้อมใส่เครดิตเองโดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงนำไปเป็นคอนเทนต์ทางสื่อโทรทัศน์ หรือกระทำการใด ๆ ก็ตามที่เข้าข่ายแอบอ้างผลงาน หากพบเห็นจะดำเนินคดีทางกฎหมายให้ถึงที่สุด

หากท่านชื่นชอบคอนเทนต์ที่ CANDYCLOVER นำเสนอ สามารถให้การสนับสนุนพวกเราได้ง่าย ๆ เพียง 1.) ไม่สนับสนุนแอคเคาต์ที่แอบอ้างข้อมูลที่แปลโดย CANDYCLOVER 2.) รีพอร์ตแอคเคาต์ดังกล่าวผ่านระบบของแพลตฟอร์มที่ท่านพบเห็นโพสต์ที่เข้าข่าย โดยเลือกหัวข้อ “ละเมิดลิขสิทธิ์” 3.) สนับสนุนค่ากาแฟทาง Ko-fi หรือ Patreon

About the Author /

bts.candyclover@gmail.com

I go by the name Candy, a co-founder, admin, designer, translator, writer of and for CANDYCLOVER. I'm a graphic/UI designer and a self-taught Korean translator who's passionate about telling success stories of BTS in the form of mixed media from graphic to web-based experiences. Now, I'm also pursuing my career as a professional Korean translator. My recent book-length translation projects are: I AM BTS (TH Edition), BTS The Review (TH Edition) and more to come!

Post a Comment