ฮีโร่ที่อิงไหล่พักพิงได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องพูดอะไร

บุคคลทรงคุณค่าอันดับหนึ่งที่สร้าง BTS ในทุกวันนี้ขึ้นมาก็คือผู้นำ Big Hit Entertainment หรือประธาน บังชีฮยอก (วัย 46 ปี) นั่นเอง ในฐานะนักแต่งเพลง เขาคือนักสร้างเพลงฮิตติดปาก แต่ในฐานะประธานจากสังกัดขนาดเล็ก เขาคือมือใหม่ในวงการผู้เดบิวต์ BTS ขึ้นมาในปี 2013 แต่ถึงอย่างนั้นคอนเซ็ปต์ของเขาชัดเจน ‘มาสร้างฮีโร่ที่อิงไหล่พักพิงได้กัน’ ตอนที่พวกเราพบประธานบังชีฮยอกที่ห้องซ้อมของ BTS ในย่านนนฮยอนดง ในโซล เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2016 หลังจากที่ BTS ปล่อย ‘WINGS’ อัลบั้มเต็มชุดที่ 2 เขาพูดไปมากกว่า 12,000 คำในเวลา 2 ชั่วโมงกว่าๆ (ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ Joong-Ang Ilbo ฉบับวันที่ 7 พฤศจิกายนปี 2016 หน้า 24) เวลา 1 ปีกว่าๆ ผ่านไป คำพูดของเขาก็ยังคงเป็นเหตุเป็นผล เราจึงนำเสียงของเขาที่ไม่ได้ลงในข่าว ณ ตอนนั้นมาเปิดเผยให้ได้รับชม

Q : สาเหตุที่คว้าคอนเซ็ปต์โอปป้าข้างบ้านที่คุ้นเคยมาใช้

A : “ผมเพิ่งดูเอกสารของเมื่อ 1 ปีก่อนที่ BTS จะเดบิวต์ (ปี 2012) ที่นั่งพิจารณากันว่าจะทำวงไอดอลแบบไหนดี บนเอกสารนั้นมีข้อความเขียนอยู่ว่า ‘ฮีโร่ที่วัยรุ่นสมัยนี้ต้องการคืออะไรกัน พวกเขาไม่ได้ต้องการคนที่พร่ำสอนตามหลักการ เขาแค่ต้องการฮีโร่ที่อิงไหล่พักพิงได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรสักคำ’ ผมว่าตราบใดที่ไม่ใช่ไอดอลของปลอมก็โอเคแล้วครับ ผมไม่ได้สร้างสิ่งที่ใกล้เพียงเอื้อมมือ แต่สร้าง BTS ที่จะกลายมาเป็นเพื่อนที่คอยอยู่เคียงข้างครับ”

Q : กระแสตอบรับของแฟนๆ ต่างประเทศร้อนแรงกว่าในเกาหลี

A : “หัวข้อที่ BTS จับต้องค่อนข้างมีคุณสมบัติร่วมสมัยที่มีความเป็นสากล สิ่งที่วัยรุ่นในยุคนี้รู้สึกมากกว่าเรื่องราวความรักและการจากลา ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านเรื่องราวของ BTS อิทธิพลของมีเดียก็เองก็มีมากเช่นกัน เราตระหนักได้เลยถึงจำนวนของแฟนๆ ที่เพิ่มมากขึ้นจากการที่คลิปวิดีโอเกี่ยวกับ BTS ถูกแปลเรียลไทม์เป็นภาษาของแต่ละประเทศบน YouTube, Twitter และช่องทางอื่นๆ เมมเบอร์ของ BTS เองก็ไม่ได้เป็นคนลึกลับซ่อนเร้นอะไร ปฏิสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นมาจากการที่พวกเขาชอบการสื่อสารผ่านโซเชียลนั่นเอง ในช่วงสถานการณ์ที่สิ้นหวังหลังจากเดบิวต์ ผมผลักดันความคิดที่วาดไว้มาตั้งแต่แรกตลอดมา เราโชคดีในเรื่องของจังหวะเวลา และได้พบเจอแฟนคลับที่ดี”

Read More : บทสัมภาษณ์ Eshy Gazit โปรโมเตอร์ BTS จากอเมริกา “ต้องมี ARMY อยู่ด้วย BTS ถึงจะสมบูรณ์”

Q : ที่พิเศษไปกว่านั้นคือด้วยอิมเมจที่ปูเอาไว้ก็น่าดึงดูด

A : “พวกเราตั้งปณิธานตอนฟอร์ม BTS ขึ้นมาว่าจะต้องมอบแรงผลักดันที่ดี ไอดอลคือสัญลักษณ์โดยพื้นฐานอยู่แล้ว ถ้าเกิดเป็นสัญลักษณ์ที่ให้แรงผลักดันในด้านที่ไม่ดีก็จะกลายเป็นไอดอลของปลอม ผมคิดว่าการใส่เรื่องราวที่ไม่สมเหตุสมผลทางสังคมหรือการยกย่องการข่มเหงรังแก แม้จะแค่บ่งบอกเป็นนัยก็เป็นเรื่องที่ทำไม่ได้เด็ดขาด ต่อให้ชั่ววูบหนึ่งมันดูเท่ห์ผมก็ตั้งใจว่าจะไม่ทำครับ แฟนคลับคือคนที่มีความสำคัญ ผมทราบว่าพวกเขาพยายามอย่างไรบ้างเพื่อ BTS เพราะฉะนั้นไม่ตอบแทนพวกเขาไม่ได้เลยครับ ผมแชร์ความตั้งใจกับเมมเบอร์ว่าจะไม่ทำให้หัวใจของแฟนๆ ต้องเจ็บปวดครับ”

Q : คอนเทนท์ของ BTS มีการเล่าเรื่อง

A : “สิ่งที่ BTS ทำได้ดีคือการเล่าเรื่องราวของตัวเอง ผมมองว่าสิ่งที่เราให้ความสนใจสมัยที่เป็นนักเรียนก็คือ เพื่อน, ความฝัน, ความสุข ส่วนในกรณีของอัลบั้ม ‘ฮวายังยอนฮวา (화양연화)’ เราไม่อยากจะเชยชมวัยรุ่น ผมว่าความจริงแล้ววัยรุ่นสมัยนี้ทั้งทุกข์ทนและโศกเศร้า พวกเขาคือกลุ่มคนที่น่าเห็นใจที่ต้องมาเผชิญกับโลกที่เป็นแบบนี้ เราเลยตั้งเป้าหมายที่จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความทุกข์ทรมานเพราะเราตั้งใจที่จะเป็นศิลปินที่บอกเล่าความเป็นจริง, ไม่ใช่แค่ใช้ชีวิตไปเฉยๆ แต่ต้องมุ่งไปข้างหน้าเพื่อตั้งใจที่จะก้าวผ่านอุปสรรคไปให้ได้, และไม่ว่าจะเอาชนะสิ่งเหล่านั้นได้หรือไม่ได้ ตราบใดที่ยังมีฝัน เราก็ยังเป็นวัยรุ่นครับ”

Q : เห็นคุณว่าเฝ้าติดตามกระแสบนอินเตอร์เน็ตอย่างเป็นจริงเป็นจัง

A : “ผมนี่ล่ะครับนักท่องอินเตอร์เน็ตตัวยง คนที่เกลียด BTS พูดอะไร, ต้องการอะไร, อะไรที่เราควรทำ, จะรับมือกับคนที่จงเกลียดจงชังอย่างไร นี่ล่ะครับคืองานของผม เวลาทำคอนเทนท์ BTS เราต้องทำในสิ่งที่แฟนๆ ต้องการให้ดีครับ”

Q : ได้ยินว่าถกเถียงเรื่องเป้าหมายของ BTS มามากตั้งแต่ตอนตอนฟอร์มวงเลย

A : “ตั้งแต่ออกตัวมาผมคิดว่า BTS ต้องเป็นศิลปินที่สุดยอดมากกว่าแค่โชว์ในสิ่งที่มี ความจริงแล้วผมมาเปิดอกคุยเรื่องเป้าหมายนี้กับเมมเบอร์หลังจากเดบิวต์ ขนาดในช่วงแรกๆ เวลาเราพูดถึงเรื่องพวกนี้ คนในวงการก็จะมองด้วยสายตาดูแคลนและพูดว่า ‘ก็แหงล่ะ การวาดฝันไว้ยิ่งใหญ่ก็ดีแล้วนี่’ ผมมีเป้าหมายให้พวกเขาเป็น BTS ที่มีคุณค่าในตลาดเพลงทั่วโลก พวกเขาออกตัวมาได้ดีครับ ผมอยากจะรักษาสิ่งเหล่านี้ไว้และก้าวไปให้ไกลยิ่งขึ้นครับ”

ที่มา | Joong-Ang Ilbo
แปลจากเกาหลีเป็นไทยโดย CANDYCLOVER

DMCA.com Protection Status

ทาง CANDYCLOVER มีความยินดีหากผู้อ่านเล็งเห็นประโยชน์ของคอนเทนต์นี้ และต้องการนำไปประกอบเอกสารหรือสื่อทางการศึกษา เผยแพร่ต่อบนโซเชียลมีเดีย รวมถึงนำไปผลิตของที่ระลึก เช่น Giveaway สำหรับแจกฟรี มิใช่การจัดจำหน่าย

หากต้องการนำข้อมูลไปใช้อ้างอิง กรุณาติดต่อทางอีเมลล์ bts.candyclover@gmail.com และรอการตอบกลับที่ระบุว่าอนุญาตแล้วเท่านั้น ยกเว้นกรณีการนำข้อมูลที่ “แปล เรียบเรียง หรือจัดทำโดย CANDYCLOVER” ไปรีโพสต์ ทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไข นำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ รีโพสต์บนแฟนเพจ เว็บไซต์ หรือเว็บบอร์ด ที่มิใช่แพลตฟอร์มของ CANDYCLOVER พร้อมใส่เครดิตเองโดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงนำไปเป็นคอนเทนต์ทางสื่อโทรทัศน์ หรือกระทำการใด ๆ ก็ตามที่เข้าข่ายแอบอ้างผลงาน หากพบเห็นจะดำเนินคดีทางกฎหมายให้ถึงที่สุด

หากท่านชื่นชอบคอนเทนต์ที่ CANDYCLOVER นำเสนอ สามารถให้การสนับสนุนพวกเราได้ง่าย ๆ เพียง 1.) ไม่สนับสนุนแอคเคาต์ที่แอบอ้างข้อมูลที่แปลโดย CANDYCLOVER 2.) รีพอร์ตแอคเคาต์ดังกล่าวผ่านระบบของแพลตฟอร์มที่ท่านพบเห็นโพสต์ที่เข้าข่าย โดยเลือกหัวข้อ “ละเมิดลิขสิทธิ์” 3.) สนับสนุนค่ากาแฟทาง Ko-fi หรือ Patreon

About the Author /

bts.candyclover@gmail.com

I go by the name Candy, a co-founder, admin, designer, translator, writer of and for CANDYCLOVER. I'm a graphic/UI designer and a self-taught Korean translator who's passionate about telling success stories of BTS in the form of mixed media from graphic to web-based experiences. Now, I'm also pursuing my career as a professional Korean translator. My recent book-length translation projects are: I AM BTS (TH Edition), BTS The Review (TH Edition) and more to come!

Post a Comment