Happiest BTS’ 10th Anniversary — สุขสันต์วันครบรอบ 10 ปีนะ บังทัน

Happy birthday to you นะบังทันฯ         ออกเดินทางพร้อมฝันเริ่มจากศูนย์

ช่วงทุกข์ทนฝ่าฟันจนผ่านพ้น                    ช่วงรุ่งโรจน์แบ่งปันช่วยเยียวยา

ขับบทเพลงปัดเป่าความสิ้นหวัง                 ร้านเวทมนต์ปัดเป่าความอ่อนล้า                

เป็นพื้นที่อบอุ่นใจและปลอดภัย                 สร้างกำลังให้ฉันรักตัวเอง

อย่าได้กลัววันข้างหน้าต่อจากนี้                 อาร์มี่ยังอยู่ตรงนี้เคียงข้างเธอ

ไปด้วยกันบทถัดไปรอเราอยู่                     เรามาแก่ไปด้วยกันนะคนดี

-I AM LUCKY 23-

หนึ่งทศวรรษที่ผ่านมากับเรื่องราวของเด็กหนุ่มทั้ง 7 ที่ออกเดินทางตามหาความฝัน ผ่านช่วงเวลาทุกข์ทน ได้รับบาดแผล เปราะหักในระหว่างทาง มีคนรัก มีคนเกลียดชัง ด้วยความพยายามอย่างไม่ย่อท้อ ในที่สุดพวกเขาทั้ง 7 ก็คว้าฝันมาได้สำเร็จ ได้สัมผัสกับช่วงเวลารุ่งโรจน์ เมื่อมีกำลังเพียงพอจึงเปล่งประกายพลังงานแห่งการเยียวยา โดยผ่านทางเสียงเพลงของพวกเขา ช่วยเยียวยาผู้คนที่กำลังสิ้นหวัง ให้กลับมารักตัวเอง ท่ามกลางสังคมโลกแห่งการตัดสินใบนี้

อ่า ฟังดูแล้วเหมือนว่ากำลังอ่านบทสรุปของนิยายฮีโร่ที่ถูกแต่งขึ้นมาเลยเนอะ แต่นี่คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาของ บังทันฯ เลยละ

ในโอกาสครบรอบ 10 ปี BTS ได้ปล่อย เพลง TAKE TWO ออกมาเพื่อขอบคุณ บรรดา ARMY ที่คอยให้ความรัก และเป็นแหล่งพลังงานให้กับบังทันฯ และเป็นของขวัญให้กับบรรดา ARMY ถ้าเป็นนิยาย คงเป็นบทสรุปของภาคแรก นั่นคือการเริ่มต้นความฝันในวัยเยาว์มาด้วยกัน ร่วมกันฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกัน และเติบโตไปพร้อม ๆ กัน จนกระทั่ง ได้ร่วมสร้างสังคมแห่งการปลอบประโลมขึ้นมาได้สำเร็จ โดยผ่านทางเสียงเพลงของตัวศิลปิน และแรงสนับสนุนจากแฟนคลับ TAKE TWO ยังมีความหมายอีกอย่างหนึ่ง นั่นคือ จุดเริ่มต้นของบทถัดไปในรูปแบบที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม

10 ปีที่ผ่านมา บังทันฯ เปรียบเสมือนร้านเวทมนต์ เป็นที่พื้นที่พักใจ เป็นพื้นที่ปลอดภัย เป็นแหล่งพลังงาน เป็นเชื้อเพลิงที่จุดประกายให้ใครหลาย ๆ คน กลับมามีความหวัง และให้ความตระหนักถึงคุณค่าที่แท้จริงของตัวเอง

ผู้เขียนเองเป็นคนหนึ่ง ที่ได้รับพื้นที่ปลอดภัย ได้รับพลังงาน จากหลุมสังคมที่บังทันฯ และบรรดาเหล่า ARMY ได้ร่วมกันสร้างขึ้น หลุมแห่งการเยียวยา หลุมแห่งการปลอบประโลม หลุมแห่งการรักตังเอง

เพราะเมื่อผู้เขียนต้องพบเจอกับความกดดันจากการทำงาน เมื่อหัวใจอ่อนล้า เมื่อต้องการใครสักคนคอยรับฟัง เมื่ออยากเล่าความฝันให้กับใครสักคนฟัง และเมื่อยามที่ต้องการใครสักคนคอยอยู่ข้าง ๆ ใครสักคนที่ไม่ตัดสิน ฯลฯ เมื่อไม่สามารถหาสิ่งเหล่านี้ได้จากคนใกล้ตัว ผู้เขียนมักจะพาตัวเองมาหลบในหลุมสังคมของบังทันฯ และ ARMY เสมอ

การที่ผู้เขียนได้เห็นบทสนทนาระหว่างบังทันฯ กับ อาร์มี่ หรือไม่ว่าจะเป็นบทสนทนาระหว่าง อาร์มี่ด้วยกันเอง การแบ่งปันเรื่องราวต่าง ๆ เมื่อใครคนหนึ่งแบ่งปันความทุกข์ใจ ก็จะมีใครอีกคนเข้ามาปลอบประโลม ให้ความช่วยเหลือในทันที รับฟังกันและกันโดยไม่มีใครตัดสินใคร พวกเขาให้ถ้อยคำแห่งความรักให้แก่กันโดยที่ยังไม่รู้จักกันด้วยซ้ำเลย

ความสวยงามนี้แหละที่ผู้เขียนได้รับการปลอบประโลมใจ เป็นแหล่งชาร์ตพลังงานให้แก่ผู้เขียน และเพราะด้วยเหตุนี้ ผู้เขียนจึงสัญญากับตัวเองไว้ว่า “ฉันจะเปิดใจให้กว้างขึ้น และเมื่อฉันมีกำลังเพียงพอ ฉันจะคอยรับฟังโดยไม่ด่วนตัดสิน เป็นที่ปลอดภัยให้ใครสักคนในยามที่เขาต้องการ” เช่นกัน

ท้ายที่สุดแล้ว ถึงแม้ว่าจะมีคนเห็นต่าง เห็นว่าสิ่งที่เรากำลังทำกันอยู่ตอนนี้เป็นเรื่องเพ้อฝัน ผู้เขียนก็ยังยืนยันคำเดิมว่า “หากการคลั่งไคล้ศิลปิน แล้วสามารถเยียวยาจิตใจได้ สามารถคลายปมบางอย่างที่มีอยู่ในใจออกไปได้บ้าง หากสิ่งนี้เป็นพื้นที่ปลอดภัย และสามารถหาใครสักคนคอยรับฟังได้ การทำความเข้าใจและยอมรับความแตกต่าง ควรจะเป็นที่มนุษย์เราควรตระหนักให้ความสำคัญไม่ใช่หรือ ถ้าอย่างนั้นการคลังไคล้ศิลปินก็ไม่ใช่สิ่งที่ไร้แก่นสาร แต่หากมีคุณค่าในตัวเองด้วยเช่นกัน ไม่เคยมีอะไรไร้สาระหรอก ถ้าเราลองเปิดใจ”

ขอบคุณ บังทันฯ ที่โอบกอดความฝันไว้ ไม่ปล่อยมือในเวลาที่เจอพายุแห่งการตัดสินของสังคม ซัดกระหน่ำเข้ามา

ขอบคุณครอบครัว ของบังทันฯ ที่ เป็นพื้นที่ปลอดภัย และเป็นแหล่งพลังงานแห่งความรัก คอยโอบอุ้มเด็ก ๆ ไว้ในวันที่อ่อนล้า

ขอบคุณทีมงานผู้อยู่เบื้องหลังที่คอยขัดเกลา บังทันฯ ให้เติบโตมาอย่างมีคุณภาพ

และขอบคุณบรรดา อาร์มี่ที่คอยอยู่เคียงบ่า เคียงไหล คอยสนับสนุนบังทันฯ และยังไม่จากไปไหน

TAKE TWO เรายังมีบทถัดไปรอเราอยู่ บทบาทใหม่ต่อจากนี้ที่ทั้งบังทันฯ และ อาร์มี่ ต่างคนต่างเติบโตขึ้นในเส้นทางของตัวเอง บทถัดไปที่ยังไม่รู้ว่าจะออกมาในรูปแบบใด แต่สิ่งที่ผู้เขียนมั่นใจคือ เราจะร่วมมือกันรักษาสังคมแห่งการเยียวยานี้ไว้ และจะขยายมันออกไปให้กว้างที่สุด เท่าที่จะทำได้

เขียนโดย: I AM LUCKY 23

About the Author /

sugadalek07@gmail.com

Post a Comment