การพบกันครั้งพิเศษระหว่าง BTS และ UNICEF กับแคมเปญจ์ ‘LOVE MYSELF…ก้าวข้ามดนตรีสู่การลงมือทำจริง’ (รวมแถลงข่าวและบทสัมภาษณ์)

ศิลปินวง BTS ผู้ก้าวข้ามเกาหลีและกลายเป็นเทรนด์ระดับโลก ได้ทำให้คุณค่าของดนตรีที่พวกเขาเน้นย้ำความสำคัญมาตั้งแต่สมัยเดบิวต์เกิดขึ้นจริงแล้ว พวกเขาจัดตั้งแคมเปญจ์ในชื่อ ‘LOVE MYSELF’ ร่วมกับองค์การ UNICEF เผยความมุ่งมั่นในการให้ความช่วยเหลือเยาวชนที่ได้รับความทุกข์ทรมานทั่วโลก

เช้าวันที่ 1 พฤศจิกายน 9:00น. (เวลาไทย) คณะกรรมการองค์การ UNICEF ร่วมกับ BTS และบริษัทต้นสังกัด Big Hit Entertainment (หรือ Big Hit) เปิดตัวงานลงนามข้อตกลงแคมเปญจ์ขจัดความรุนแรงต่อเด็กและเยาวชนทั่วโลก ณ หอประชุม สำนักงานองค์การ UNICEF ประจำประเทศเกาหลี ย่านมาโพ ในกรุงโซล โดยมีนายบังชีฮยอก CEO จาก Big Hit, BTS, นายซอแดวอน เลขาธิการองค์การ UNICEF เข้าร่วมงานในวันนี้ เพื่อแถลงจุดประสงค์และกำหนดการณ์ของแคมเปญจ์ที่จะเกิดขึ้นนับจากนี้

นายซอแดวอน เลขาธิการองค์การ UNICEF กล่าวในวันนี้ “ผมรู้จักชื่อ BTS ว่ามีความหมายถึงการต่อต้านอคติและการกดขี่ข่มเหงในสังคม และการรักษาคุณค่าในเพลงของตัวเองไว้อย่างภาคภูมิ ซึ่งสิ่งนี้ถือเป็นคุณค่าที่สอดคล้องกับอนุสัญญาสิทธิเด็กขององค์การสหประชาชาติ (UN) ว่าด้วยเสรีภาพในการแสดงออกของเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี อันเป็นรากฐานการทำงานของขององค์การ UNICEF”

LOVE MYSELF

เขายังกล่าวต่ออีกว่า “แคมเปญจ์ ‘LOVE MYSELF’ มีความหมายสอดคล้องกับแคมเปญจ์รณรงค์การขจัดความรุนแรงต่อเด็กและเยาวชนอย่าง ‘END Violence’ ผมเชื่อว่าเมื่อเราเชื่อในตัวเองแล้ว เราก็จะรักคนรอบข้าง, สังคม และประเทศชาติได้ สิ่งนี้เป็นถ้อยความที่ BTS ต้องการจะสื่อผ่านแคมเปญจ์ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าถ้อยความของความรักและการเยียวยาที่ BTS สื่อสารจะปลอบประโลมเด็กๆ และเยาวชนทั่วโลกที่มีช่วงเวลาที่ยากลำบากจากความเจ็บปวดจากความรุนแรงได้ครับ”

BTS ผู้หลอมรวมคุณค่าการคำนึงถึงเยาวชนรุ่นใหม่ลงในเพลงอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่เดบิวต์เมื่อปี 2013 สื่อสารถ้อยความ “จุดเริ่มต้นความรักที่แท้จริงค้นพบได้จากตัวเอง” ผ่านอัลบั้ม ‘LOVE YOURSELF’ ที่ปล่อยออกมาเมื่อไม่นานมานี้ การร่วมงานในครั้งนี้จะได้เห็นถึงความต่อเนื่องของโลกที่ BTS สร้างสรรค์ขึ้น โดย CEO บังชีฮยอกยังได้เน้นย้ำถึงแก่นแท้ของแคมเปญจ์ด้วยการสื่อถึง ‘ความเป็นแฝดแท้ (Identical Twins)’ อีกด้วย

CEO บังชีฮยอกเผย “แคมเปญจ์ซึ่งเปิดตัวในวันนี้ Big Hit และ BTS มีเป้าหมายที่จะตอบแทนความรักที่ได้รับมาผ่านการแลกเปลี่ยนกับสังคมอย่างต่อเนื่อง Big Hit และ BTS ลงแรงสร้างสรรค์เพลงที่สามารถสร้างแรงผลักดันที่ดีให้กับสังคมแวดล้อมตลอดมา ซึ่งแคมเปญจ์ครั้งนี้จะได้เห็นถึงส่วนต่อเนื่องของแรงผลักดันของศิลปินที่ก้าวข้ามดนตรีสู่สังคม”

LOVE MYSELF

เขายังกล่าวต่ออีกว่า “ซีรี่ส์ ‘LOVE YOURSELF’ ของ BTS ซึ่งเริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา และจะต่อเนื่องไปเป็นระยะเวลา 2 ปีนั้น มีเป้าหมายที่จะสื่อสารถ้อยความการรักผู้อื่น โดยการให้ผู้คนรู้จักให้ความสนใจกับตัวตนภายในของตัวเอง เพื่อฟื้นฟูความมั่นใจกับความเชื่อมั่น พวกเราจะสนับสนุน UNICEF ผู้ทำหน้าที่ขจัดความรุนแรงต่อเด็กและเยาวชนเป็นระยะเวลา 2 ปี และจะสนับสนุนที่ๆ ต้องการความช่วยเหลืออย่างเป็นรูปธรรม”

RAP MONSTER เอ่ยถึงถ้อยความที่อยู่ในเพลงที่เคยปล่อย “เพลง No More Dream, Silver Spoon (뱁새), Dope (쩔어) ฯลฯ มีแนวทางเหมือนกับแคมเปญจ์ครับ พวกเราให้ความสำคัญกับเรื่องราวต่างๆ ในกระบวนการการรักตัวเองเช่นเดียวกับซีรี่ส์ ‘LOVE MYSELF’ เสมอมาตั้งแต่สมัยเดบิวต์” และกล่าวความรู้สึกว่า “พวกเราได้รับความรักมากมายจริงๆ ครับตั้งแต่เดบิวต์มา แค่พวกเราได้ตอบแทนสักนิดก็รู้สึกยินดีแล้วครับ”

LOVE MYSELF

RAP MONSTER ยังเผยความรู้สึกต่ออีกว่า “ผมไม่คิดว่าพวกเรา BTS ทั้ง 7 คนจะเปลี่ยนแปลงหรือผันแปรโลกได้ แต่ผมคิดว่าเมื่อเรายืนยันความเชื่อมั่นและคุณค่าของตัวเราแต่ละคนดังเช่นถ้อยความ ‘LOVE MYSELF’ และ ‘END Violence’ แล้ว เราจะก้าวไปสู่เส้นทางที่ดีขึ้นพร้อมกับผู้คนมากมายที่ให้ความรักแก่พวกเราได้ครับ”

JUNGKOOK ก็ร่วมแสดงความรู้สึกต่อบทบาทพิเศษกับ UNICEF เช่นเดียวกัน “ผมได้เห็นวิดีโอโปรโมตองค์การ UNICEF เป็นจำนวนมากระหว่างการทัวร์คอนเสิร์ตมากมายในต่างประเทศ ถ้าได้รับจดหมายจากสปอนเซอร์ก็จะได้เข้าร่วม ผมก็เลยรอรับจดหมาย แต่ผมไม่ได้รับ ณ ตอนนั้นก็เลยไม่ได้เข้าร่วม แต่ตอนนี้ได้เข้าร่วมแล้วก็รู้สึกเป็นเกียรติเลยล่ะครับ”

LOVE MYSELF

ส่วน SUGA “ผมคิดว่าแคมเปญจ์นี้เป็นกระบวนการที่ทำให้ถ้อยความที่ผมใส่ผ่านเพลงที่มีอยู่ได้เผยแพร่และเป็นจริงยิ่งขึ้น ตอนนี้เป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้นครับ ต่อไปก็ให้ความสนใจกับพวกเรามากยิ่งขึ้นด้วยนะครับ”

LOVE MYSELF

ในการทำข้อตกลงกับ UNICEF ในครั้งนี้ BTS และ Big Hit Entertainment จะจัดตั้งกองทุน ‘LOVE MYSELF’ และจะเริ่มบริจาคเงินจำนวน 5 ร้อยล้านวอนให้กับองค์การ UNICEF ในเดือนพฤศจิกายน หลังจากนั้นจะแบ่งสรรผลกำไรจากยอดขายซีรี่ส์อัลบั้ม ‘LOVE YOURSELF’ ที่จะดำเนินต่อเนื่องจากนี้เป็นระยะเวลา 2 ปีเป็นจำนวน 3%, รายได้ทั้งหมดจากการขายสินค้าออฟฟิเชียลของแคมเปญจ์ (จะเปิดช็อปสำหรับขายสินค้าออฟฟิเชียลอย่างเป็นทางการในเดือนธันวาคม) และเงินบริจาคจากคนทั่วไปเพื่อซัพพอร์ตแคมเปญจ์ ‘END Violence’ ขององค์การ UNICEF ต่อไป

CEO บังบีฮยอกกล่าวอธิบาย “พวกเราพิจารณาถึงการเข้าร่วมการแลกเปลี่ยนกับสังคมในฐานะศิลปินกันอย่างมาก ผมได้พูดคุยถึงการคำนึงถึงหลายสิ่งหลายอย่างกับเมมเบอร์ระหว่างการทัวร์คอนเสิร์ต ‘WINGS TOUR’ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา สิ่งหนึ่งระหว่างการพูดคุยกันคือการคำนึงคนรุ่นใหม่ และเรื่องราวของเมมเบอร์ที่อยากจะสร้างสังคมที่อบอุ่นและสวยงามขึ้น ซึ่งแคมเปญจ์นี้เองเป็นเสมือนแฝดแท้กับกิจกรรมทางดนตรีของ BTS เลยล่ะครับ”

และ CEO บังยังย้ำอีกครั้งว่าแคมเปญจ์นี้ไม่ใช่แค่สิ่งที่จะเกิดขึ้นและจบลงในครั้งเดียว “พวกเราคิดถึงแคมเปญจ์เพื่อสร้างสังคมที่อบอุ่นในระยะยาว ไม่ใช่แค่งานการกุศลหรือแค่ในฐานะพรีเซนเตอร์เพียงครั้งเดียว แคมเปญจ์ด้านสังคมที่ถูกจัดขึ้นตลอด 70 ปีที่ผ่านมา ไม่มีพาร์ทเนอร์ที่ไหนที่จะเข้าใจถึงประสบการณ์, ปรัชญาและแนวคิดของพวกเราได้เหมือน UNICEF แล้วครับ”

อนึ่ง สามารถเช็ครายละเอียดของแคมเปญจ์ทางเว็บไซต์ UNICEF และเว็บไซต์ออฟฟิเชียล love-myself.org และร่วมแชร์ผ่านแฮชแท็ค #BTSLoveMyself กับ #ENDviolence ทางโซเชียลมีเดีย และสินค้าออฟฟิเชียลของแคมเปญจ์มีกำหนดจำหน่ายในเดือนธันวาคมเป็นต้นไป

ที่มา | Seoul Economic Daily
แปลจากเกาหลีเป็นไทยโดย CANDYCLOVER

DMCA.com Protection Status

ทาง CANDYCLOVER มีความยินดีหากผู้อ่านเล็งเห็นประโยชน์ของคอนเทนต์นี้ และต้องการนำไปประกอบเอกสารหรือสื่อทางการศึกษา เผยแพร่ต่อบนโซเชียลมีเดีย รวมถึงนำไปผลิตของที่ระลึก เช่น Giveaway สำหรับแจกฟรี มิใช่การจัดจำหน่าย

หากต้องการนำข้อมูลไปใช้อ้างอิง กรุณาติดต่อทางอีเมลล์ bts.candyclover@gmail.com และรอการตอบกลับที่ระบุว่าอนุญาตแล้วเท่านั้น ยกเว้นกรณีการนำข้อมูลที่ “แปล เรียบเรียง หรือจัดทำโดย CANDYCLOVER” ไปรีโพสต์ ทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไข นำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ รีโพสต์บนแฟนเพจ เว็บไซต์ หรือเว็บบอร์ด ที่มิใช่แพลตฟอร์มของ CANDYCLOVER พร้อมใส่เครดิตเองโดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงนำไปเป็นคอนเทนต์ทางสื่อโทรทัศน์ หรือกระทำการใด ๆ ก็ตามที่เข้าข่ายแอบอ้างผลงาน หากพบเห็นจะดำเนินคดีทางกฎหมายให้ถึงที่สุด

หากท่านชื่นชอบคอนเทนต์ที่ CANDYCLOVER นำเสนอ สามารถให้การสนับสนุนพวกเราได้ง่าย ๆ เพียง 1.) ไม่สนับสนุนแอคเคาต์ที่แอบอ้างข้อมูลที่แปลโดย CANDYCLOVER 2.) รีพอร์ตแอคเคาต์ดังกล่าวผ่านระบบของแพลตฟอร์มที่ท่านพบเห็นโพสต์ที่เข้าข่าย โดยเลือกหัวข้อ “ละเมิดลิขสิทธิ์” 3.) สนับสนุนค่ากาแฟทาง Ko-fi หรือ Patreon

About the Author /

bts.candyclover@gmail.com

I go by the name Candy, a co-founder, admin, designer, translator, writer of and for CANDYCLOVER. I'm a graphic/UI designer and a self-taught Korean translator who's passionate about telling success stories of BTS in the form of mixed media from graphic to web-based experiences. Now, I'm also pursuing my career as a professional Korean translator. My recent book-length translation projects are: I AM BTS (TH Edition), BTS The Review (TH Edition) and more to come!

Post a Comment