RAP MONSTER

พูดคุยกับ BTS: สยบอเมริกาไม่เหมือน K-Pop วงไหนในประวัติศาสตร์อเมริกา (บทสัมภาษณ์ RAP MONSTER จาก Forbes)

หลังจากหลายปีที่ครองตำแหน่งหนึ่งในชื่อที่ทรงอิทธิพลที่สุดของวงการ K-Pop ในที่สุดวง BTS ก็ทะยานขึ้นสู่ 10 อันดับสูงสุดบนชาร์ตครอบจักรวาลอย่าง Billboard 200 ด้วยอัลบั้ม LOVE YOURSELF 承 ‘Her’ กลายเป็นศิลปินกลุ่มแรกจากสไตล์เพลงพวกเขาเองที่ทำได้ นอกจากจะเริ่มเปิดคอลเลคชั่นล่าสุดของพวกเขาที่อันดับ 7 แล้ว เพลง “DNA” เพลงไตเติ้ลของอัลบั้มดังกล่าวยังทำอันดับบน Billboard Hot 100 ได้สำเร็จอีกด้วย ทำให้พวกเขาเป็นหนึ่งในศิลปิน K-Pop ไม่กี่วงในประวัติศาสตร์ที่จับจองตำแหน่งบนการจัดอันดับสำคัญนี้ได้

BTS ทำผลงานสำเร็จเท่าที่พวกเขาทำได้ด้วยแรงซัพพอร์ตที่ทุ่มเทของฐานแฟนคลับขนาดยักษ์ผู้คอยปล่อยแคมเปญจ์โปรโมทบนโซเชียลมีเดียที่อัดแน่น และจัดการ พร้อมดำเนินงานอย่างดี และในตอนนี้เองที่เส้นทางการทำงานของพวกเขาขึ้นสู่ระดับใหม่ มันน่าสนใจทีเดียวที่จะจับตาดูว่าพวกเจาจะทำอะไรต่อไปเพื่อตักตวงจากชื่อเสียงที่เพิ่งก่อตัวในอเมริกา

ไม่นานหลังผลงานการติดชาร์ตของ BTS ผมได้พูดคุยกับ RAP MONSTER สมาชิกวง BTS ว่าการนำทัพแนวดนตรีที่ค่อยๆ เป็นที่นิยมในอเมริกามีความหมายอย่างไรทั้งๆ ที่มีอุปสรรคทางภาษาอยู่

Hugh McIntyre: รู้สึกยังไงกับการเป็นศิลปิน K-Pop กลุ่มแรกที่ติด 10 อันดับสูงสุดบนชาร์ต Billboard 200 ในอเมริกาได้ครับ?
RAP MONSTER: ยังรู้สึกเหมือนเรากำลังฝันไปอยู่เลยครับ 10 อันดับสูงสุดบนชาร์ต Billboard 200 ไม่ใช่อะไรที่ (ผมคาดคิดว่า) เราจะทำได้ เราคงเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ ผมรู้สึกว่าพวกเราโชคดีและรู้สึกขอบคุณต่อแฟนๆ มากๆ เลยครับ

McIntyre: ตลอดเส้นทางการทำงานของคุณ แต่ละอัลบั้มไปได้สวยกว่าเดิมทุกครั้งที่คุณปล่อยอัลบั้มใหม่เลย คุณมีแนวโน้มในใจบ้างมั้ยว่าคราวนี้จะเข้าใกล้ถึง 10 อันดับสูงสุด (บนชาร์ต Billboard 200) หรือคราวนี้มันเกินกว่าที่คาดฝันไว้เลย?
RAP MONSTER: ไม่คิดไม่ฝันสักนิดเลยล่ะครับ คือแบบ เราก็คาดหวังอะไรไว้แหละครับ… เราได้รับความสนใจระดับนึงในอเมริกา แต่เราก็แบบ “เราจะทำได้ถึง 10 อันดับสูงสุดหรอ?” บางทีเราก็ฝันเอาไว้แต่เราไม่เคยคาดคิดเลยว่าเราจะทำได้จริงๆ เราอยากจะทำให้ได้แต่ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ได้จริงๆ เราเลยยังรู้สึกโชคดีครับ

McIntyre: การพิชิตชาร์ตอเมริกาเป็นเป้าหมายของพวกคุณเลยหรือเป็นแค่เรื่องบังเอิญดีๆ ที่ดันเกิดขึ้นที่ส่งผลมาจากอัลบั้มใหม่กันครับ?
RAP MONSTER: ผมคิดว่าเราได้รับความสนใจระดับนึงและมีฐานแฟนคลับมากขึ้นในอเมริกา มันค่อยๆ เกิดขึ้น ค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นช้าๆ ผมเลยคิดว่าเราอาจจะคาดหวังอะไรได้มากขึ้นในอนาคตครับ (หลายสิ่งหลายอย่าง) มันกำลังเกิดขึ้น และผมหวังว่ามันจะไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญดีๆ ครับ เราต้องคอยรักษาระดับกับสิ่งที่เราทำเอาไว้ครับ

McIntyre: คุณคิดว่าอะไรทำให้อัลบั้มนี้ทำผลงานได้ดีกว่าอัลบั้มก่อนๆ ครับ?
RAP MONSTER: ผมคิดว่าเพราะเราคอยทำอะไรเพื่อเหล่าคนรุ่นใหม่วัยรุ่นอยู่เสมอ ซึ่งเป็นเพราะตัวเราเดิมมีจุดยืนเป็นวงที่ตระหนักถึงสังคม เราอยากที่จะขายการแสดงของพวกเราอย่างที่พวกเราเดบิวต์มาตลอด ผมคิดว่าสิ่งที่ทำให้อัลบั้มนี้พิเศษจริงๆ ก็คือการที่มันเป็นจุดเปลี่ยนของพวกเราจริงๆ การที่มันมีคอนเซ็ปต์ใหม่คือการรักตัวเอง ซึ่งผมว่าแฟนๆ ก็ตอบรับในเรื่องนี้จริงๆ พวกเขาคิดจริงๆ ว่าจะรักตัวพวกเขาเองยังไง ผมเองก็ได้คิดว่าผมจะรักตัวเองมากขึ้นยังไงผ่านอัลบั้มนี้ มันกำลังเกิดขึ้นจริงๆ ครับ ตัวเพลงเองก็ทันสมัยมากขึ้น ก็เลยทำให้ความเป็นมาของพวกเรา, ตัวเพลง และคอนเซ็ปต์ใหม่ไปได้สุดในครั้งนี้ครับ ทุกอย่างเพอร์เฟ็คมาก การติดชาร์ต Billboard ก็เลยเกิดขึ้นได้นี่ล่ะครับ

McIntyre: ในตอนนี้ที่มันเกิดขึ้นแล้ว พวกคุณมีแพลนที่จะฉวยโอกาสนี้กลับมาอเมริกาอีกครั้งหรือปล่อยเพลงภาษาอังกฤษบ้างมั้ย? แพลนจะทำอะไรเพื่อตักตวงสิ่งที่เกิดขึ้น ณ ตอนนี้ครับ?
RAP MONSTER: เพื่อที่จะตักตวงสิ่งเหล่านี้เอาไว้ได้ พวกเราต้องมีสติครับ นี่และคือวิธีที่เรากำลังตักตวงกันอยู่ เพราะเราไม่ได้อยากจะมีความสุขกับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้มากจนกระทั่งตัดสินใจปล่อยเพลงภาษาอังกฤษ มันก็เป็นอะไรที่ดีแต่เราอยากจะรักษาในสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ คือเตรียมพร้อมกับอัลบั้มใหม่ และแน่นอนว่าเราจะกลับมาอเมริกาครับ คงบ่อยกว่าเก่าเลย เพราะเราได้รับความสนใจในด้านดีนี่แหละครับ

McIntyre: พวกคุณอัดเพลงกันหลายภาษา และผลงานก็ออกมาน่าตื่นตาทีเดียว คุณออกเพลงกันอย่างเยอะเลย! รับมือกับตารางงานกันยังไงครับเนี่ย?
RAP MONSTER: ครับ มันก็ยากที่จะรับมือกับตารางงานพวกนั้น ก็อย่างที่คุณพูดว่าเราไปไวมาก ผมคิดว่านี่แหละคือสิ่งที่เราต้องทำ แฟนๆ อยากได้อะไรใหม่ๆ ตลอด และเราเองก็มีการแสดงมากมายที่อยากจะโชว์ออกมาให้เห็น แต่ผมคิดว่าหลักเบสิกซึ่งก็คือการนอนหลับให้เพียงพอ, ฝึกซ้อมให้มากๆ คือสิ่งที่สำคัญที่สุด  เป็นอะไรที่สำคัญกับเราในตอนนี้มากๆ เลยล่ะครับ

McIntyre: แนว K-pop เป็นที่นิยมในอเมริกามาเป็นปีๆ แล้วแต่เห็นได้ชัดเลยว่าไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาสำคัญของแนวเพลงนี้เลย คุณรู้สึกว่ามันทรงพลังหรือรู้สึกว่ามันออกจะน่ากลัวบ้างมั้ยกับการเป็นวงที่เป็นตัวนำครั้งยิ่งใหญ่ในตอนนี้?
RAP MONSTER: รู้มั้ยครับว่าบางทีเราก็หนักใจกับการแบกรับน้ำหนักและกับการเป็นลีดเดอร์ในชีวิตผมเองนี้ แต่การเป็นคนแรกๆ ก็เป็นโอกาสดีที่ทำให้เรารู้สึกถึงการเป็นศิลปิน เราพยายามที่เพลิดเพลินไปกับกระแสและน้ำหนักของมันเท่าที่เราจะทำได้ นี่คือสิ่งที่พวกเราทำได้ครับ

McIntyre: คนให้เครดิตแฟนๆ ของพวกคุณกันมากๆ ที่ผลักดันให้อัลบั้มใหม่คราวนี้ติดชาร์ตต่างๆ พวกเขาโปรโมทกันชนิดที่พวกเราในอเมริกาไม่ค่อยพบค่อยเจอกันเท่าไหร่ คุณคิดว่าอะไรที่ทำให้พวกเขาทุ่มเททำงานหนักเพื่อผลักดันเพลงของพวกคุณ?
RAP MONSTER: ผมว่ามันพูดออกมาเป็นคำพูดยากครับ ผมว่าพวกเขากำลังตอบรับกับสิ่งที่เราพูดมาตลอดสี่ปี พวกเราคอยตอบแทนกลับไปตลอด คอยพยายามบอกอะไรพวกเขาตลอด อย่างการใช้ชีวิต, การมีชีวิตในโลกที่โหดร้ายนี้ในฐานะวัยรุ่น เราอัพรูปพวกเรา, สิ่งที่พวกเราคิด, สิ่งที่พวกเราทำใน Twitter และ YouTube กันตลอด ผมว่ามันมีส่วนช่วยมากเหมือนกัน มันเป็นอะไรที่พิเศษต่อคนทั่วไปแล้วก็สำคัญกับพวกเรา บางทีผมเองก็สับสนเหมือนกัน พวกเขาทำอะไรในอเมริกาให้พวกเรามาก และเราเองก็พยายามที่จะขอบคุณพวกเขา ให้อะไรพวกเราตอบแทน อย่างเพลงหรือการแสดงในรูปแบบคอนเสิร์ตในอเมริกา ผมว่าเรากำลังชาร์ตแบตกันอย่างต่อเนื่อง นี่แหละคือสิ่งที่ทำให้ BTS พิเศษครับ

McIntyre: พวกคุณเพิ่งจะสร้างประวัติศาสตร์กันไป แล้วพวกคุณยังพูดถึงเพลงใหม่ที่กำลังจะตามมาอีกด้วย ปี 2017 ที่เหลือกับปี 2018 จะมีอะไรครับ?
RAP MONSTER: ปี 2018 จะเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนของพวกเราเลยล่ะครับ เพราะพวกเรากำลังแพลนสิ่งที่ยิ่งใหญ่จริงๆ ยิ่งใหญ่ยิ่งกว่าปีนี้ด้วยซ้ำครับ! แต่สิ่งที่สำคัญคือการทำในสิ่งที่พวกเรากำลังทำต่อไป คือการเตรียมพร้อมกับอัลบั้มใหม่, ไปทัวร์คอนเสิร์ต, ไปเยือนอเมริกาและแสดงคอนเสิร์ตสำหรับแฟนๆ ของพวกเราในอเมริกา ผมคิดว่าการรักษาสิ่งที่พวกเราทำไว้และทำให้มันไปได้ไกลขึ้นคือเป้าหมายของพวกเราในปีนี้และปีหน้าครับ

McIntyre: คุณเคยมาแย้มๆ ทำงานกับศิลปินฮิปฮอปอเมริกันเองด้วย เป็นอะไรที่คุณสนใจอยากจะทำต่อไปด้วยมั้ย?
RAP MONSTER: แน่ล่ะครับ ผมเองก็ทำผลงานเดี่ยวด้วย ผมอยากทำมาตลอดครับ และตอนนี้ก็ทำอยู่ บอกไม่ได้หรอกครับว่าใคร แต่ก็ใช่แล้วครับ ผมทำงานเดี่ยวด้วย ผมคอยทำงานนั้นอยู่เหมือนกันครับ

McIntyre: มีแรพเปอร์ในอเมริกาที่คุณอยากจะทำงานด้วยมั้ย?
RAP MONSTER: เยอะเลยครับ ทั้ง Dre, J Cole. วงแรพเยอะแยะ ผมไล่ได้เป็น 20 วงเลย

McIntyre: ผมพนันเลยว่าถ้าเป็นผลงานคอลแล็บกับ J. Cole จะต้องออกมาเลิศแน่
RAP MONSTER: ใช่แล้วครับ เขาเป็นหนึ่งในคนที่สุดยอดที่สุด เขาอย่างคูลเลยครับ

ที่มา | Forbes
แปลจากอังกฤษเป็นไทยโดย CANYDCLOVER

DMCA.com Protection Status

ทาง CANDYCLOVER มีความยินดีหากผู้อ่านเล็งเห็นประโยชน์ของคอนเทนต์นี้ และต้องการนำไปประกอบเอกสารหรือสื่อทางการศึกษา เผยแพร่ต่อบนโซเชียลมีเดีย รวมถึงนำไปผลิตของที่ระลึก เช่น Giveaway สำหรับแจกฟรี มิใช่การจัดจำหน่าย

หากต้องการนำข้อมูลไปใช้อ้างอิง กรุณาติดต่อทางอีเมลล์ bts.candyclover@gmail.com และรอการตอบกลับที่ระบุว่าอนุญาตแล้วเท่านั้น ยกเว้นกรณีการนำข้อมูลที่ “แปล เรียบเรียง หรือจัดทำโดย CANDYCLOVER” ไปรีโพสต์ ทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไข นำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ รีโพสต์บนแฟนเพจ เว็บไซต์ หรือเว็บบอร์ด ที่มิใช่แพลตฟอร์มของ CANDYCLOVER พร้อมใส่เครดิตเองโดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงนำไปเป็นคอนเทนต์ทางสื่อโทรทัศน์ หรือกระทำการใด ๆ ก็ตามที่เข้าข่ายแอบอ้างผลงาน หากพบเห็นจะดำเนินคดีทางกฎหมายให้ถึงที่สุด

หากท่านชื่นชอบคอนเทนต์ที่ CANDYCLOVER นำเสนอ สามารถให้การสนับสนุนพวกเราได้ง่าย ๆ เพียง 1.) ไม่สนับสนุนแอคเคาต์ที่แอบอ้างข้อมูลที่แปลโดย CANDYCLOVER 2.) รีพอร์ตแอคเคาต์ดังกล่าวผ่านระบบของแพลตฟอร์มที่ท่านพบเห็นโพสต์ที่เข้าข่าย โดยเลือกหัวข้อ “ละเมิดลิขสิทธิ์” 3.) สนับสนุนค่ากาแฟทาง Ko-fi หรือ Patreon

About the Author /

bts.candyclover@gmail.com

I go by the name Candy, a co-founder, admin, designer, translator, writer of and for CANDYCLOVER. I'm a graphic/UI designer and a self-taught Korean translator who's passionate about telling success stories of BTS in the form of mixed media from graphic to web-based experiences. Now, I'm also pursuing my career as a professional Korean translator. My recent book-length translation projects are: I AM BTS (TH Edition), BTS The Review (TH Edition) and more to come!

Post a Comment