Big Hit ปิดยอดจองซื้อ IPO ที่ 58.4 ล้านล้านวอน พร้อมเข้าเทรด 15 ต.ค. นี้

Big Hit Entertainment สังกัดผู้อยู่เบื้องหลังศิลปิน K-Pop ซูเปอร์สตาร์หรือ BTS เปิดจองซื้อหุ้นที่เสนอขายต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ไปเมื่อวันที่ 5-6 ตุลาคมที่ผ่านมา กวาดเงินมูลค่ารวมกว่า 58.423 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 1.569 ล้านล้านบาท สูงกว่า SK Biopharm และใกล้เคียง Kakao Games ซึ่งเป็น 2 กิจการที่ IPO ครั้งใหญ่ในปีนี้

  1. Kakao Games (KOSDAQ)
    • ยอดจองซื้อสุทธิ 58.554 ล้านล้านวอน (1.578 ล้านล้านบาท)
    • อัตราแข่งขัน 1525:1 
  2. Big Hit Entertainment (KOSPI)
    • ยอดจองซื้อสุทธิ 58.423 ล้านล้านวอน (1.574 ล้านล้านบาท)
    • อัตราแข่งขัน 606.97:1
  3. SK Biopharm (KOSPI)
    • ยอดจองซื้อสุทธิ 30.989 ล้านล้านวอน (835,373 ล้านบาท)
    • อัตราแข่งขัน 323:1

สถาบันการเงินและการลงทุนวิเคราะห์ แม้ Big Hit จะไม่สามารถทำลายสถิติยอดจองซื้อหุ้นที่ Kakao Games ทำไว้ได้ แต่การเปรียบเทียบ Kakao Games กับ Big Hit กันง่ายๆ ก็ไม่สมเหตุสมผลเท่าไรนัก เพราะ Kakao Games จดทะเบียนบนตลาด KOSDAQ ในขณะที่ Big Hit จดทะเบียนบนกระดานหลักอย่าง KOSPI และยังทำยอดจองซื้อ IPO แซงหน้า SK Biopharm ที่ IPO ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์บนตลาด KOSPI ด้วยเหตุนี้นักวิเคราะห์จึงคาดการณ์ว่าราคา IPO ของ Big Hit จะพุ่งขึ้นเป็นสองเท่า (따상) เมื่อเข้าซื้อขายในตลาดวันแรก 15 ตุลาคมนี้

นักลงทุนจะทำกำไรได้เท่าไหร่หากราคา IPO ของ Big Hit เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า (따상)?

따상 (ตาซัง) หมายความว่า เมื่อราคาหุ้นที่เข้าตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าจากราคา IPO และเพิ่มขึ้นอีก 30% จนแตะเพดาน หากราคา IPO ของ Big Hit เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า (따상) ก็จะเริ่มต้นที่ 270,000 วอน (7,280 บาท) และขึ้นไปจนสุดที่ 351,000 วอน (9,470 บาท) ดังนั้น 1 หุ้น (ที่ราคา 135,000 วอน) ก็จะทำกำไรได้ถึง 160% หรือ 216,000 วอน

หนึ่งในสิ่งที่สื่อต่างให้ความสนใจไม่แพ้กันนั่นก็คือมูลค่าหุ้น Big Hit ที่ประธานบังชีฮยอกถืออยู่จำนวน 12,377,337 หุ้น (43%) โดยหากจากคิดที่ราคาหุ้นละ 135,000 วอน หุ้นทั้งหมดของประธานบังชีฮยอกจะมีมูลค่าอยู่ที่ 1.67 ล้านล้านวอน (45,012 ล้านบาท) และเมื่อราคาหุ้นเพื่มขึ้นเป็น 2 เท่าเมื่อเข้าสู่ตลาด ราคาประเมินของหุ้นทั้งหมดของประธานบังชีฮยอกจะพุ่งพรวดขึ้นถึง 4.34 ล้านล้านวอน (116,975 ล้านบาท) ซึ่งจะส่งผลให้ประธานบังชีฮยอกไต่อันดับผู้ถือหุ้นที่ร่ำรวยที่สุดจากอันดับ 14 สู่อันดับ 5 ในประเทศเกาหลีใต้ นำหน้าประธานชองมงกูจาก Hyundai Motors Group

Big Hit
ประธานบังชีฮยอก ที่การบรรยายสาธารณะเพื่อสังคม โดย Big Hit Entertainment สำหรับครึ่งปีหลังของปี 2020

สำหรับจำนวนหุ้นที่ IPO ของ Big Hit อยู่ที่ 7,130,000 หุ้น ซึ่งคิดเป็นเพียง 25% ของหุ้นทั้งหมดที่จำนวน 28,493,760 หุ้น อย่างไรก็ดีกลับมีนักลงทุนให้ความสนใจอย่างล้นหลาม โดยมีอัตราแข่งขันสุทธิอยู่ที่ 607:1 ซึ่งหมายความว่าต้องใช้เงินลงทุนราว 100 ล้านวอน หรือประมาณ 27 ล้านบาท จึงจะได้มาหุ้นมาราว 2-3 หุ้น

คุณยายคังวัย 72 ปีให้สัมภาษณ์ต่อการลงทุนจองซื้อ IPO ของสังกัด Big Hit กล่าวว่าตนมีความสนใจในการลงทุนซื้อหุ้นเพราะสมัยนี้เป็นการดีกว่าที่จะนำเงินไปลงกับหุ้นใหม่มากกว่าเก็บไว้ในบัญชี และ Big Hit ก็เป็นที่เลื่องลือจาก BTS จึงไม่เป็นการยากที่จะตัดสินใจลงทุน 

คุณอีวัย 66 ปีเผย “การลงทุนหุ้น IPO เป็นสิ่งที่ใครๆ ก็ทำได้หากมีเงินสำรอง ซึ่งมองว่าเป็นโอกาสจึงลงทุนไปตั้งแต่ SK Biopharm และ Kakao Games แล้ว”

สังกัด Big Hit Entertainment ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2005 เป็นสังกัดที่เกิดขึ้นภายหลังเมื่อเทียบกับมหาอำนาจในวงการ K-Pop อย่าง JYP Entertainment, YG Entertainment และ SM Entertainment ที่ก่อตั้งขึ้นในยุค 1990 แต่ Big Hit กลับกลายเป็นหนึ่งในชื่อที่เลื่องลือที่สุดชื่อหนึ่งในอุตสาหกรรมดนตรี ผู้ครอบครองศิลปินกลุ่มชายอย่าง BTS, TOMORROW X TOGETHER, SEVENTEEN และศิลปินกลุ่มหญิงอย่าง GFRIEND

Big Hit ได้ผู้ก่อตั้งและโปรดิวเซอร์อย่างนายบังชีฮยอกเป็นประธานกรรมการบริษัท นำทีมบริหารร่วมโดยนาย Lenzo Yoon และนายพัคจีวอน ผู้บริหารจัดการวง BTS, TOMORROW X TOGETHER และ Lee Hyun (อีฮยอน) ภายใต้สังกัดในชื่อเดียวกัน โดยในขณะเดียวกันก็บริหารสังกัดย่อยร่วมด้วย ได้แก่ Source Music และ Pledis Entertainment

Big Hit ขยายฐานผลงานควบคู่ไปกับการเติบโตของ BTS ด้วยการเข้าซื้อกิจการ Source Music และ Pledis Entertainment อีกทั้งยังจับมือเปิดสังกัดใหม่ ได้แก่ BELIFT LAB ร่วมกับยักษ์ใหญ่แห่งวงการบันเทิงอย่าง CJ ENM นอกจากนั้นยังเจาะตลาดสู่แขนงธุรกิจใหม่ๆ เช่น เกมและการศึกษา พร้อมกับสร้างคอมมูนิตี้สำหรับแฟนคลับทั่วโลกบนแพลตฟอร์ม Weverse ที่ๆ แฟนๆ ของศิลปินแต่ละวงเชื่อมต่อและซื้อสินค้ากับบัตรคอนเสิร์ตได้

สิ่งที่เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความเติบโตอย่างรุนแรงนั่นคือการที่สังกัด Big Hit ประกาศย้ายสำนักงานใหญ่สู่อาคาร 19 ชั้นในย่านยงซาน โดยเป้าหมายจากการระดมทุนผ่านการเสนอขายหุ้นต่อประชาชน (IPO) ในครั้งนี้ประกอบด้วย 4 แนวทางหลักๆ ได้แก่

  1. ชำระสินเชื่อจากการเข้าซื้อกิจการ Pledis Entertainment
  2. ลงทุนเสาะหาตัวขับเคลื่อนธุรกิจในอนาคตทั้งใน/ต่างประเทศ 
  3. ลงทุนสิ่งอำนวยความสะดวกสำนักงานใหม่
  4. พัฒนาศักยภาพด้านธุรกิจ IP

ที่มา | 1, 2, 3, 4, 5
แปลจากเกาหลีและอังกฤษเป็นไทยโดย CANDYCLOVER

DMCA.com Protection Status

ทาง CANDYCLOVER มีความยินดีหากผู้อ่านเล็งเห็นประโยชน์ของคอนเทนต์นี้ และต้องการนำไปประกอบเอกสารหรือสื่อทางการศึกษา เผยแพร่ต่อบนโซเชียลมีเดีย รวมถึงนำไปผลิตของที่ระลึก เช่น Giveaway สำหรับแจกฟรี มิใช่การจัดจำหน่าย

หากต้องการนำข้อมูลไปใช้อ้างอิง กรุณาติดต่อทางอีเมลล์ bts.candyclover@gmail.com และรอการตอบกลับที่ระบุว่าอนุญาตแล้วเท่านั้น ยกเว้นกรณีการนำข้อมูลที่ “แปล เรียบเรียง หรือจัดทำโดย CANDYCLOVER” ไปรีโพสต์ ทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไข นำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ รีโพสต์บนแฟนเพจ เว็บไซต์ หรือเว็บบอร์ด ที่มิใช่แพลตฟอร์มของ CANDYCLOVER พร้อมใส่เครดิตเองโดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงนำไปเป็นคอนเทนต์ทางสื่อโทรทัศน์ หรือกระทำการใด ๆ ก็ตามที่เข้าข่ายแอบอ้างผลงาน หากพบเห็นจะดำเนินคดีทางกฎหมายให้ถึงที่สุด

หากท่านชื่นชอบคอนเทนต์ที่ CANDYCLOVER นำเสนอ สามารถให้การสนับสนุนพวกเราได้ง่าย ๆ เพียง 1.) ไม่สนับสนุนแอคเคาต์ที่แอบอ้างข้อมูลที่แปลโดย CANDYCLOVER 2.) รีพอร์ตแอคเคาต์ดังกล่าวผ่านระบบของแพลตฟอร์มที่ท่านพบเห็นโพสต์ที่เข้าข่าย โดยเลือกหัวข้อ “ละเมิดลิขสิทธิ์” 3.) สนับสนุนค่ากาแฟทาง Ko-fi หรือ Patreon

About the Author /

bts.candyclover@gmail.com

I go by the name Candy, a co-founder, admin, designer, translator, writer of and for CANDYCLOVER. I'm a graphic/UI designer and a self-taught Korean translator who's passionate about telling success stories of BTS in the form of mixed media from graphic to web-based experiences. Now, I'm also pursuing my career as a professional Korean translator. My recent book-length translation projects are: I AM BTS (TH Edition), BTS The Review (TH Edition) and more to come!

Post a Comment