คำแปลเพลงจากอัลบั้ม D-Day โดย Agust D (ครบทั้งอัลบั้ม)

01. D-Day

* วันข้างหน้าจะเป็นไปด้วยดี 
ภาพสะท้อนในกระจกไม่เค้าความบอบช้ำ
ฉันคงสะบักสะบอมจนกว่าจะถึงวันเริ่มการใหญ่ แต่เดี๋ยวก็จะเป็นไปด้วยดี
ถึงเวลาได้อะไรกลับมาบ้าง
สับเปลี่ยนกัน เวลาเดินหน้า และหมดลง
วันข้างหน้าจะเป็นไปด้วยดี 
ภาพสะท้อนในกระจกไม่เค้าความบอบช้ำ
ฉันคงสะบักสะบอม กรรมกำลังจะตามสนองฉัน
ถึงเวลาได้อะไรกลับมาบ้าง
สับเปลี่ยนกัน เวลาเดินหน้า และหมดลง

ถึงวันเริ่มการใหญ่ นี่ล่ะวันที่โคตรดี
เหมือนเลื่อนลอยมาจนป่านนี้ก็เพื่อวันนี้
วันวานที่เคยโง่เขลาคงจบลงสักที
ดื่มฉลองแด่เราผู้เกิดใหม่อีกครั้ง
ในโลกที่เปี่ยมด้วยความเดียดฉันท์ ความเกลียดชังยิ่งไม่จำเป็นอีกต่อไป
เพราะถึงแม้อยู่ในโคลนตม ดอกบัวก็ยังบานสะพรั่งได้
ดันทุรังเปรียบตัวเองกับใครอื่น 
ปมด้อย เกลียดชังตัวเอง
เล็งปากกระบอกปืนไปที่สิ่งเหล่านี้นับตั้งแต่วันนี้
อะไรของคุณนัก อย่างข้อจำกัดน่ะ ก็พังลงเสียสิวะไอ้นี่
อย่าเสียดายอดีต อย่ากลัวอนาคต
เผชิญหน้าถ้าเลี่ยงไม่ได้
และสุดท้าย ขอให้เจ็บแต่พอดี yeah
อย่าเลี้ยงรอยแผลเป็นเอาไว้
และหาเรื่องรื้อฟื้นรอยเจ็บช้ำขึ้นมาเลย yeah

** นึกไม่ออก (x3) ไม่ต้องพูดอะไรแล้วล่ะ
นึกไม่ออกแล้ว (x2)
สับเปลี่ยนกัน เวลาเดินหน้า และหมดลง

*

ถึงวันเริ่มการใหญ่ หน้าบทใหม่ของคุณเปิดออก
พร้อม ๆ กับสิ่งที่ถูกห้ามกลายเป็นอิสระ
เรามันยังมีไฟเกินกว่าจะย่ำอยู่กับที่
ออกแรงน้อยที่สุดเพื่อวันนี้ที่ดีกว่าวันวาน
อะไรของคุณนัก อย่างข้อจำกัดน่ะ ก็พังลงเสียสิวะ
อดีตมันผ่านไปแล้ว ส่วนอนาคตก็ไกลตัว
แกกลัวอะไรนักนะ
อดีตเป็นแค่อดีต 
ปัจจุบันเป็นแค่ปัจจุบัน
อนาคตเป็นแค่อนาคต
ส่วนใหญ่เติมความหมายมากเกินไปก็ลำบากเปล่า ๆ
นับตั้งแต่วันนี้ผ่านเขาวงกตและก้าวสู่การเริ่มต้นใหม่
ดอกบัวบานขึ้นอีกครั้งในโลกที่ถูกปกคลุมด้วยความเกลียดชัง 
เอาล่ะ ถึงวันเริ่มการใหญ่
ขอให้ยืดผายไหล่ผึ่ง
สิ่งที่คุณพึงทำคือการพิสูจน์ตัว yeah
ฉะนั้นขอให้คุณได้พิสูจน์ตัวเองตามที่ต้องการ yeah

**, *


02. 해금

* การเลิกห้ามเป็นเรื่องของเพลงนี้
ขึ้นมาดิวะ จังหวะที่คึกคัก
นี่อาจเป็นอีกหนึ่งการเลิกห้าม
การเลิกห้ามเป็นเรื่องของเพลงนี้
ขึ้นมาดิวะ จังหวะที่คึกคัก
บางทีนี่อาจเป็นอีกหนึ่งการเลิกห้าม

การเลิกห้ามเป็นเรื่องของเพลงนี้
ขึ้นมาเลยตอนนี้
จังหวะที่คึกคัก
นี่อาจเป็นอีกหนึ่งการเลิกห้าม
จะตีความยังไงนั้นเป็นเสรี
แต่ไอ้คำพูดพล่อย ๆ น่ะไปซะ
เสรีภาพของการแสดงออก
อาจเป็นมูลเหตุการตายของใครคนหนึ่ง
แล้วนั่นจะเป็นเสรีภาพหรอวะ
ศรัทธาในสิ่งที่ชี้ขาดและทึกทักเอาไหมล่ะ
เชื่อมั่นว่าเสรีภาพของคุณเท่าเทียมกับของคนอืนไหมล่ะ
ถ้าเชื่อก็ไม่ต้องรีรอ ก็ขึ้นมาดิวะ
การเป็นอิสระจากสิ่งที่ถูกห้าม
เพลงแด่ผู้คนยุคอาภัพที่ไม่เข้าใจกระทั่งรสนิยมของใครของมันเพลงนี้
เป็นเพียงการคลายสิ่งที่ถูกห้ามไว้ก็เท่านั้น
แต่ก็ขอให้แยกแยะระหว่างอิสระกับการปล่อยตัวด้วยแล้วกัน

** การเลิกห้ามเป็นเรื่องของเพลงนี้
ขึ้นมาดิวะ จังหวะที่คึกคัก
อีกหนึ่งการเลิกห้าม

*

ข้อมูลท่วมท้นปิดกั้นอิสระการคิดฝัน
อีกทั้งเรียกร้องให้คิดสอดคล้องกัน
สารพันเสียงรบกวนชวนปวดหัวที่ทำให้ตามืดบอด
เดี๋ยวนี้ กระทั่งอิสระยังเป็นเรื่องผิด
ข้อพิพาทสารพัดสิ่งเป็นชนวนสู่ความอลหม่านในการตัดสินไม่หยุดหย่อน
สุดท้ายแล้วสิ่งที่ห้ามเราไว้คืออะไรกัน
บางทีมันคือตัวตนเราไม่ใช่หรือไงกัน
ทาสทุนนิยม ทาสเงินตรา
ทาสความเกลียดชัง ทาสอคติ
ทาสยูทูป ทาสการอวดเบ่ง
ความเห็นแก่ตัวและความโลภเตลิดเปิดเปิง
หลับตาลงแล้วสบายใจ ก็ทุกอย่างมันทนโท่
ความเห็นเปลี่ยนตามผลประโยชน์
ใคร ๆ ล้วนมืดบอดจากความอิจฉาตาร้อน
คล้องสิ่งผูกมัดแก่กันทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ตัว
ในเมื่อเราแยกแยะได้ระหว่างอิสระกับการปล่อยตัว
ก็อย่าให้ตัวถูกฉุดกระชากลากถูจากข้อมูลท่วมหัวเลย

**, *, *


03. HUH?! (feat. j-hope)

[Explicit]

* รู้เรื่อง xxx ไรกูนัก (x3)
ช่างแม่งสิวะ คิดว่ารู้ทุกเรื่องของกูเลยสินะ
ชีวิตที่มึงอยากได้อยากมี มีแต่เรื่องของกูทั้งนั้น

เกิดมามือเปล่า ตายไปมือเปล่า
คำพูดนี้เปล่าประโยชน์กับกูว่ะ
เสร่อดี พวกห่าที่ว่าทำเพลง วัน ๆ แม่งเล่นแต่ยา
แนวคิดของเพลงกู มาจากกรรมของความสำเร็จที่กูก่อมาตั้งแต่ที่แทกู
(มาบอกกู)ประสบความเร็จ ‘เพราะบังเอิญ เพราะโชคช่วย’
ไป xx xxx เถอะไอ้ xxx
บินไปทำเนียบขาวดูสิ ไอ้หน้า xx
ไม่รู้หรอกอะไรมีค่า ความต้อยต่ำมึงระเบิดพล่าน
ใส่ใจกูตลอดเวลาว่าชีวิตกูพัง
งงใจนะที่มึงไม่รู้ว่าชีวิตมึงนั่นแหละพัง
เออสิวะ โลกในเน็ตกับชีวิตจริงแม่งต่างกัน
อยู่กับความเป็นจริง ใช้ชีวิตมึงมั่งนะ
ใคร ๆ ก็ฟาดใส่ว่าให้กูตั้งสติ
หวดบ้องหูกูอีกเป็นร้อย ๆ ครั้ง
ทำเป็นไม่รู้อีโหน่อีเหน่ กูล่ะสะอิดสะเอียดจัง
เริ่มจากแหกตาดูเรื่อง xxx ๆ ของมึงก่อนเลย
ข่าวสารมากมายกับวายร้ายในยุคข้อมูลซุบซิบลับหลัง
ถ้าชีวิตจริงมึงจมปลัก ก็ออกมาก่อนไหมล่ะ
กูล่ะภาวนาจากใจให้มึงได้ดีนะ

*

มึงจะคิดยังไง กูก็ huh
จะทำ จะพูดอะไร กูก็ huh
มึงจะมีอะไร กูก็ huh
จะรู้ จะเป็นอะไร กูก็ huh
เพราะกูไม่มีค่าอะไรทั้งนั้น huh
ในทุก ๆ ส่วนเกี่ยวกับมึงน่ะ huh
ยังต้องพูดอะไรอีกด้วยหรอวะ huh huh
ถึงกูทำสิ่งที่กูต้องทำ ไปทางที่กูต้องไป
ก็จุดไฟขึ้นใหม่ กลายเป็นประเด็นร้อน
แพลนกูคือการไม่วอกแวก (ลุกไหม้)
บนหนทาง รักษาเอาไว้ (ลุกไหม้)
กูก้าวให้ลุ่มลึก (ลุกไหม้)
เพื่อให้การหวนกลับมาง่ายดาย (ลุกไหม้)
ระบบที่กลายเป็นการโขกสับ huh
เครื่องมือต่าง ๆ ลุกเป็นไฟ huh
กูอดทนกับความลำบาก แต่กับการเหยียดหยามกูทนไม่ได้
นี่ล่ะผลตอบรับที่กูมีให้

*


04. AMYGDALA

นี่มันใคร นี่ใครอีก นี่ใครกัน
รู้สึกยังไงช่วงนี้ นี่ใครกัน 
ท่องสู่ความทรงจำ
สิ่งต่าง ๆ ที่อยากจะลบเลือนไป
ใจคอเป็นยังไงบ้าง

1993
ในเดือนที่ฉันเกิดมา
การผ่าตัดหัวใจของแม่1
สารพัดเรื่องราวน่ะสินะ
มีเรื่องราวมากมายอะไรปานนี้
เอาออกมาให้หมดเลย ทีละอย่าง 
กระทั่งความทรงจำที่จำไม่ได้ก็ตาม

* Oh oh
ตัวเลือกที่ดีที่สุด
ตัวเลือกที่รองลงมา
ตัวเลือกที่รอง ๆ ลงมา
สิ่งต่าง ๆ ที่เคยไม่ต้องการ
สิ่งต่าง ๆ ต่างเหนือการควบคุมของฉัน
ทิ้งลงไปทีละอย่างสองอย่าง
นั่นล่ะ ทีละอย่างสองอย่าง นั่นล่ะ ทีละอย่างสองอย่าง

** นี่ใครกัน ท่องสู่ความทรงจำ
นี่ใครอีก เอาล่ะ ลบมันไปทีละอย่าง นั่นละ ทีละอย่าง

*** My amygdala2 (my amygdala)
รีบช่วยฉันไว้ที รีบช่วยฉันไว้ที
My amygdala (my amygdala)
รีบช่วยฉันไว้ที รีบช่วยฉันไว้ที
My amygdala (my amygdala)
My amygdala (my amygdala)
ช่วยฉันจากที่แห่งนี้ที รีบเอาฉันออกไปที
Uh uh เออสิ มีสารพัดเรื่องราว
Uh uh เสียงนาฬิกาในหัวใจของแม่ที่ฉันได้ยินอยู่ในหู
Uh uh เรื่องอุบัติเหตุของฉันที่เล่าไม่ได้
สายที่โทรเข้ามาระหว่างทำงาน
ส่งข่าวเรื่องพ่อเป็นมะเร็งตับ
ก็หวังให้ตัวเลือกที่ดีที่สุดเป็นทางที่ใช่
เพราะทุกอย่างก็ผ่านไปหมดแล้ว
หรือสารพัดความปวดร้าวเหล่านี้ก็เพื่อตัวฉัน
ความทุกข์ทรมานไม่หยุดหย่อนไม่ทำให้ตัวฉันตายไป
และฉันก็ผลิบานเป็นดอกบัวอีกครั้ง

*, **, ***

1 เรื่องการผ่าตัดของคุณแม่ของ SUGA เล่าในคลิป รีวิวอัลบั้ม 화양연화 Pt.1 และในเนื้อเพลง 이사 (Moving On)
“ครั้งแรกในครรภ์แม่ ฉันนับวันรอโยกย้ายครั้งแรกซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ราคาของการโยกย้ายในความทรงจำสีจาง ๆ ของฉัน
คือเครื่องมือสำหรับหัวใจและแผลเป็นรอยใหญ่ของแม่”

2 ส่วนเล็ก ๆ ในสมองส่วนกลางทำหน้าที่ควบคุมอารมณ์แง่ลบ


05. SDL

* ใครคนหนึ่งมีรัก แต่ผมนึกถึงคุณ
ใครคนหนึ่งมีรัก
ใครคนหนึ่งมีรัก แต่ผมนึกถึงคุณ
แต่ผมนึกถึงคุณ

คุณรักใคร นึกถึงใครไหม
จดจำใคร เกลียดใครไหม
อยู่เพื่อใคร หรือยิ้มเพื่อใครหรือเปล่า
ความรู้สึกเหล่านี้คือรักไม่ใช่หรือ
เพราะคำว่ารักมันใหญ่โต
สิ่งที่หลงลืมในชีวิตไปง่าย ๆ ก็คือรักนี่ล่ะ
สิ่งที่คุณอาลัยน่ะคือคนคนนั้น
หรือเป็นความทรงจำที่ถูกเสริมเติมแต่ง ณ ตอนนั้นกัน

ให้ตายเถอะ ไม่มีหรอกสิ่งที่เป็นอย่างหวัง
เพราะมนุษยสัมพันธ์ก็เป็นเรื่องยากเหมือนกัน
แต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่ได้สอดคล้องต้องกัน
ลำพังทำให้ช่องว่างระหว่างเราสองแคบลงยังต้องฝืนใจ
ในเมื่อความทรงจำมันเลือนรางอยู่แล้ว
ย่อมถูกเสริมเติมแต่งเป็นธรรมดา
ไม่มีสองเราที่ขับร้องคำว่านิรันดร์เหมือนดังฝัน
สิ่งที่คุณอาลัยน่ะคือคนคนนั้น
หรือเป็นความเสียดายและเยื่อใย ณ ตอนนั้นกัน

รักเหมือนแสงแดดที่พรั่งพรูในฤดูใบไม้ผลิบาน
แต่จู่ ๆ ก็ถูกซัดโถมด้วยคลื่นลมแรงในทะเลฤดูหนาวโดยไม่รู้ตัว
สิ่งที่คุณอาลัยคือ ณ ตอนนั้น
หรือเป็นคนคนนั้นที่ถูกฝังอยู่ในความทรงจำ
ฉันถึงได้พยายามยิ้มโดยไม่พูดอะไรสักคำ
เพราะการหวนระลึกถึงตอนนั้นที่เสริมเติมแต่งไว้มันยากไง
สิ่งที่เราระลึกถึงคือ ณ ตอนนั้น
หรือเป็นคนที่มีรอยยิ้มคนนั้นในความทรงจำนั้นกัน

*


06. People Pt.2 (사람 Pt.2) (feat. IU)

* เวลาที่ยังมาไม่ถึง
อยู่ ณ ตอนนี้ที่กำลังผ่านพ้นไป
ฉัน คุณ หรือสิ่งใดก็รับรู้กันทั้งนั้น
เวลาที่ยังมาไม่ถึง
อยู่ ณ ตอนนี้ที่กำลังผ่านพ้นไป
ไม่มีใครที่ไม่รู้อีกต่อไป

บางทีคำว่ารัก
อาจเป็นการเรียบเรียงความรู้สึก ณ ช่วงเวลาหนึ่ง
ติดที่เงื่อนไขนี่ละ แล้วฉันล่ะรักในสิ่งไหน
เด็กคนหนึ่งที่ไม่ได้รับความรักเพียงพอ
ถึงได้เป็นคนระแวดระวัง
ฉันน่ะต้องการความสัมพันธ์ที่จริงจัง
ก็รู้นี่ว่า คำว่าจีรังไม่ต่างอะไรกับประสาททราย
โดนคลื่นที่แผ่วเบาก็ยังพังทลายลงง่ายดาย
อะไรกันทำให้การสูญเสียเป็นเรื่องเศร้า
ความจริงคือ สิ่งที่น่าเศร้าคือความหวาดกลัวนี่เอง

** ฉันรู้ว่าต้องรับรู้ ว่าเธอจากไปแสนไกล
ไกลออกไปทุกที เธอจากไปไกลเกินไป

*

อะไรกันที่ทำให้คุณเศร้า
ความจริงคือ เพราะคุณน่ะหวาดกลัวไง
ไม่มีเราที่เคยวาดฝันถึงอนาคตร่วมกันอีกต่อไป
คนที่ทุบทำลายประสาททรายที่ก่อไว้คือเราเองทั้งนั้น
ถึงจะบอกว่าเป็นเกมที่ไม่มีแพ้ชนะ
แต่ฉันกลับเป็นผู้แพ้ในเกมนี้ประจำ
ไหนบอกจะทุ่มเทให้ทุกอย่าง
แต่เรากลับทำทุกอย่างพังทลาย แล้วก็จากกันไป
เพราะไม่ว่าจะความรัก หรือคนเรา
ล้วนเห็นแก่ตัวกันทั้งนั้น

**, *

คนที่จากไป รักที่จากไป
สุดท้ายแล้วที่ปลายทางความรักคืออะไรกันแน่
ผู้คนมากมาย รักที่ผ่านไป
รักจะสมบูรณ์แบบด้วยรักไหม
เอาเถอะ บางทีการเห็นแก่คนอื่น
ก็อาจกลับกลายเป็นความเห็นแก่ตัวได้
ที่บอกว่าทำเพื่อเธอ ก็เป็นเพราะความมักมากที่ฉันมี
หากละทิ้งความมักมากนี้ไป แล้วฉันจะมีความสุขไหม
ภาพลวงตาครึ่งหนึ่งที่ไม่อาจเติมให้เต็มได้
เขาว่า ชีวิตคือการฟาดฟันระหว่างการแข็งข้อและเชื่อฟัง
แต่ฉันว่า คือการฟาดฟันกับความว้าเหว่นี่ล่ะนะ
เมื่อน้ำตามันพรั่งพรู แค่ร้องไห้ออกมาก็พอ
(ร้องไห้ออกมาก็พอ)
ก็ตัวคุณน่ะเพียงพอที่จะได้รับความรักอยู่แล้วนี่นา

*


07. Polar Night (극야)

ท่ามกลางเรื่องจริงกับเรื่องลวงโลกสารพัน
เรามองโลกอย่างเป็นธรรมแล้วหรือ

ความต่างระหว่างเรื่องจริงและเรื่องลวงหลอก
ท่ามกลางการยุยงและแก่นสาร
เราได้ประโยชน์อะไรกัน
มองความเป็นจริงทั้งที่ลืมตาอยู่เสียบ้าง
เพราะเราอยู่อย่างตำบอนในโลกที่ตำบอนไม่ได้
สิ่งที่ตรงข้ามกับความเป็นธรรม คือความเป็นธรรมอีกด้านหนึ่ง
ก็รู้นี่ว่า ในโลกนี้ไม่มีเจตนาที่ดี
ความเป็นธรรมในปัจจุบันคือ ถ้าคนละพวกกันก็จะฆ่าแกงกันให้ตาย
ไม่สนข้อเท็จจริงอะไรทั้งนั้น
เมื่อละครที่ร้อยเรียงด้วยขั้วซ้ายขวาและขาวดำอวสาน
ผู้ชมต่างประทุษร้ายกันให้ฉิบหาย
ศึกสงครามที่ไร้ลูกกระสุน
ความเสียหายจากวัตถุนิยม
การเลือกแบบสุดขั้ว ที่ทำให้กลายตัวเป็นศัตรูกันไปหมด หากอยู่คนละพวกกัน

ความถูกต้องทางการเมืองก็เอาตามรสนิยมของใครของมัน
ทั้งที่ยังปิดปากกับปัญหาที่น่าเบื่อ
ความเสแสร้งตามใจเลือกกับทัศนคติอีหลักอีเหลื่อ
ตีความตามใจคอของใครของมัน
เรื่องจริงกับเรื่องลวงโลกก็เอาตามรสนิยมของใครของมัน
ทั้งที่ความสนใจถูกจำกัดไว้ที่ขั้วใดขั้วหนึ่ง
ความเสแสร้งตามใจเลือกกับทัศนคติอีหลักอีเหลื่อ
ตีความตามใจคอของใครของมัน

* ท่ามกลางเรื่องจริงกับเรื่องลวงโลกสารพัน
เรามองโลกอย่างเป็นธรรมแล้วหรือ
สกปรกกันหมดทั้งนั้น (แล้วฉันบริสุทธิ์งั้นหรือ)
สกปรกกันหมดทั้งนั้น (แล้วคุณบริสุทธิ์งั้นหรือ)
ท่ามกลางคำถามที่ชั่วช้ากับการด่ากราด
เราฟาดฟันกันไปเพื่ออะไร
สกปรกกันหมดทั้งนั้น (แล้วฉันบริสุทธิ์งั้นหรือ)
สกปรกกันหมดทั้งนั้น (แล้วคุณบริสุทธิ์งั้นหรือ)

ท่ามกลางการเรียกร้องความเป็นธรรมด้วยลิ้นที่เปื้อนเลือด
พวกที่ไม่ปริปากยิ้มเยาะ
หากปิดปากในยุคที่แย่งกันพร่ำพรรณนา
กลับโดนชี้นิ้วด่าทอว่าเป็นพวกอิกนอร์
ดูมัน ๆ ๆ กล้าดีมาจากไหน
ไอ้พวกขี้ขลาด อาศัยการปิดบังตัวตนฆ่าแกงใครต่อใคร
“คำพูดทิ่มแทงเพื่อแกคนเดียวเลยแท้ ๆ
กะอีแค่นี้ทำมาเป็นชี้แจง”
ดูมัน ๆ ๆ ไอ้ผู้ร้ายปิดปาก
ความเป็นธรรมเบาราคาที่พวกแกเคยยืนกราน
มันเพื่อคนที่เขาบอบช้ำเสียที่ไหน
มาเผชิญหน้าเจตนาดีที่น่าอึดอีดนี้เสีย
เสียงรบกวนจากสื่อโคมลอย
การเลือกที่ขึ้นอยู่กับผลประโยชน์ของใคร ๆ
ที่เราฟาดฟันกันอยู่นี้ได้อะไร
หันปลายหอกขึ้นเบื้องบนโน่น

ความถูกต้องทางการเมืองก็เอาตามรสนิยมของใครของมัน
ทั้งที่ยังปิดปากกับปัญหาที่น่าเบื่อ
ความเสแสร้งตามใจเลือกกับทัศนคติอีหลักอีเหลื่อ
ตีความตามใจคอของใครของมัน
เรื่องจริงกับเรื่องลวงโลกก็เอาตามรสนิยมของใครของมัน
ทั้งที่ยังหลับหูหลับตากับความจริงที่น่าอึดอัด
ความเสแสร้งตามใจเลือกกับทัศนคติอีหลักอีเหลื่อ
ตีความตามใจคอของใครของมัน

*


08. Interlude : Dawn


09. Snooze (feat. Ryuichi Sakamoto, WOOSUNG of The Rose)

* ไม่ต้องห่วงหรอกนะ 
เพราะคุณที่มองฉันพลางเฝ้าฝัน มีฉันอยู่ข้างหลังตลอดไป
หากการร่วงหล่นมันน่าหวั่น ฉันก็ยินดีจะรับคุณไว้
ฉะนั้นอย่าได้ทุกข์ทนเหมือนฉัน
คุณผู้งีบหลับเพื่อสิ่งที่เฝ้าฝัน 
พักผ่อนเสียบ้างก็ไม่เป็นไร
สำหรับวันนี้ไม่ต้องเฝ้าฝันสักวัน
ยามคุณส่งรอยยิ้มจาง ๆ โดยไม่เอื้อนเอ่ยคำใด
ตอนนั้นเองฉันถึงวางใจ

อาจลำบากลำบน
หนทางนี้ที่ฉันเดินมามันอาจดูราบรื่นไร้กังวล แต่ขอให้คุณเริ่มต้นและระลึกไว้ว่าหนทางนั้นมีขวากหนามอยู่รอบด้าน
ขอคุณอย่าลืมใครคนที่ช่วยแผ้วทาง
ขออย่าลืมใครคนที่มีน้ำตา ยามคุณมีรอยยิ้ม
เพราะรอยยิ้มของคุณ ชุบชูชีวิตพวกเขาในแต่ละวัน
ยามตัวเราถูกลบเลือนท่ามกลางการงานที่เวียนวน
ไม่เป็นไรหรอกหากรู้สึกประเดประดัง
พักผ่อนเสียบ้างก็ไม่เป็นไร

ยามที่ชิงชังโลกใบนี้ เปล่งเสียงร้องออกมาเลยดัง ๆ
ยามมือที่เคยต้อนรับกลายเป็นนิ้วที่ชี้ด่า
ถอนหายใจเฮือกใหญ่และสบถออกมาว่า xxx บ้างก็ได้
เพราะคุณเองก็คน ไม่ต่างจากใคร ๆ
เหตุใดทำให้คุณเลือกเส้นทางที่ปวดร้าวและเปล่าเปลี่ยวกัน
ผ่านไปนานวัน ก็อย่าลืมเหตุผลที่เลือกแล้วกัน
ขอให้ฝันที่คุณมีไม่เป็นเพียงแค่ความใฝ่ฝัน
ไม่ว่าเมื่อไหร่หรือแห่งหนใด
ฉันก็จะเป็นกำลังใจให้พวกคุณ (dream)

** ยามกลีบดอกไม้โรยรา
ฉันจะปกป้องเธอไว้ good night
ยามม่านหมอกจางหาย
ฉันจะจากไป bye
ความฝันที่เบ่งบาน

*

ที่แห่งนี้คือสมรภูมิไร้กระสุน
ศัตรูก็พรรคพวกเดิม ๆ ทั้งนั้น
ความดีชั่วทั้งโหดร้ายทั้งงดงามที่ตัวเลขแสดงให้เห็น
หากคร่าคนอื่นไม่ได้ ตัวฉันก็ต้องตาย
แต่ในเมื่อที่นี่ไม่ใช่สังเวียน แล้วต้องคร่าชีวิตใครไปทำไมกัน
ยามระอาสิ่งที่เคยชอบ
ยามความปรารถนาถูกพัดพาไปกับสายลม
ไม่เป็นไรหรอกนะ 
พอทุกอย่างผ่านพ้นก็จะกลายเป็นบทเรียนและความทรงจำ
อย่าลืมเสียล่ะว่าโลกนี้ไม่ได้มีความอดทนขนาดนั้น
ขออย่าไปหัวเราะความขัดแย้งของใคร ๆ
เพราะคุณเองไม่รู้หรอกว่าจะเจอกับตัวเมื่อไหร่
ความสำเร็จของคุณจะกลายเป็นเชือกจูงและสิ่งผูกมัด
ความรู้สึกเหมือนเดินไต่เชือกนี่ล่ะที่จะทำให้คุณอึดอัด
แค่หัวเราะออกมาให้ลั่น
แค่อดทนไว้ ไม่ว่าคุณอยู่แห่งหนไหน 
ขอให้ฝันที่คุณมีไม่เป็นเพียงแค่ความใฝ่ฝัน
ไม่ว่าเมื่อไหร่หรือแห่งหนใด
ฉันก็จะเป็นกำลังใจให้พวกคุณ (dream)

** 

แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นนะ x 16

Dream ขอให้ฝันร่วมทางไปกับสิ่งที่คุณสร้างสรรค์ ไปกับชีวิตบั้นปลาย
Dream ขอให้ที่ที่คุณอยู่ใจกว้างกับคุณ ไม่ว่าจะอยู่แห่งหนไหน
Dream ขอให้สุดท้ายคุณเบ่งบานเมื่อผ่านพ้นความเคี่ยวกรำ
Dream จุดเริ่มต้นอาจต้อยต่ำ แต่ปลายทางจะงอกงาม
Dream

เมื่อกลีบสุดท้ายโรยรา
ฉันจะรับเอาไว้ hold tight
เมื่อถึงปลายรุ้งกินน้ำ
ฉันจะจากไป bye 
ความฝันที่เบ่งบาน

Dream


10. Life Goes On

ด้วยเหตุผลใดสักอย่างเราถึงห่างเหินกันไป
แต่ก็สัญญากันไว้ว่าเราจะไม่ขุ่นเคืองกัน
ทั้ง ๆ ที่บอกว่าสิ่งใดก็ไม่อาจแยกเราไปจากกัน
แต่ฉันกลับเอาแต่กลัวว่าเราจะห่างเหินกันไปตลอดกาล

ใช้บทเพลงนี้เป็นโอกาสถ่ายทอดให้เธอฟัง
ผู้คนเขาว่าโลกมันเปลี่ยนไป
แต่โชคดีที่ระหว่างเรายังคงไม่เปลี่ยนแปลง
เรามาทักทายกันด้วยคำว่า hello แทนคำว่า bye
ถึงโลกจะไม่เป็นไปตามที่ตั้งใจ
นับไปอีกไม่คืน
แล้วอย่าลืมวันที่จะเจอะเจอกันอีกครั้ง

* เวลาผ่านพ้นไป ใครคนหนึ่งคงถูกลืม
เวลาถูกผลักออกไปเหมือนคลื่นที่ขึ้นและลง 
ตามที่เราอยากให้เป็นไป
แต่ถึงอย่างไรก็อย่าลืมแวะเวียนมาหาฉันบ้างแล้วกัน

ยามนี้ที่ทุกสิ่งหยุดชะงัก
ปากทางเข้าดูเหมือนอยู่แสนไกล
แต่ชีวิตก็ยังดำเนินต่อไป (x4)
ยามนี้ที่ทุกสิ่งตกต่ำ
เรายิ่งห่างเกินกันกว่าที่ผ่านมา
แต่ชีวิตก็ยังดำเนินต่อไป (x4)

ที่ที่ฉันผ่านมาตลอด 10 ปี
เมื่อเผชิญมาทั้งสารพันความเจ็บปวด และกระทั่งเกียรติยศศักดิ์ศรี
ทุก ๆ ช่วงเวลาแห่งความทรงจำ
ฉันถึงได้มุ่งหน้าผ่านมาเหมือนเป็นครั้งสุดท้าย
แต่ก็ใช่ว่าเลิกกลัวแล้วเสียที่ไหน
ฉันรู้ ฉันรู้ ว่าในไม่ช้าที่ตอนนี้ก็จะกลายเป็นความทรงจำ
แต่ก็อย่ากลัวไป เพราะชีวิตจะยังดำเนินต่อไปไม่หยุดยั้ง
จนกว่าจะถึงบั้นปลายชีวิตฉันอยู่ดี

*


ที่มา | Melon
แปลและเรียบเรียงจากเกาหลีเป็นไทยโดย CANDYCLOVER

คำแปลเป็นไปตามการตีความจากความเข้าใจของผู้แปล หากต้องการท้วงติงหรือมีเนื้อหาผิดพลาดประการใด พร้อมรับฟังเฉพาะผู้แสดงความเห็นแบบปัญญาชน สุภาพ และหวังดี เพื่อแก้ไขปรับปรุงให้คำแปลถูกต้องและสมบูรณ์ต่อไป ส่งความเห็นที่กล่องคอมเมนต์ด้านล่างหรือทางอีเมลล์ bts.candyclover@gmail.com

DMCA.com Protection Status

ทาง CANDYCLOVER มีความยินดีหากผู้อ่านเล็งเห็นประโยชน์ของคอนเทนต์นี้ และต้องการนำไปประกอบเอกสารหรือสื่อทางการศึกษา เผยแพร่ต่อบนโซเชียลมีเดีย รวมถึงนำไปผลิตของที่ระลึก เช่น Giveaway สำหรับแจกฟรี มิใช่การจัดจำหน่าย

หากต้องการนำข้อมูลไปใช้อ้างอิง กรุณาติดต่อทางอีเมลล์ bts.candyclover@gmail.com และรอการตอบกลับที่ระบุว่าอนุญาตแล้วเท่านั้น ยกเว้นกรณีการนำข้อมูลที่ “แปล เรียบเรียง หรือจัดทำโดย CANDYCLOVER” ไปรีโพสต์ ทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไข นำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ รีโพสต์บนแฟนเพจ เว็บไซต์ หรือเว็บบอร์ด ที่มิใช่แพลตฟอร์มของ CANDYCLOVER พร้อมใส่เครดิตเองโดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงนำไปเป็นคอนเทนต์ทางสื่อโทรทัศน์ หรือกระทำการใด ๆ ก็ตามที่เข้าข่ายแอบอ้างผลงาน หากพบเห็นจะดำเนินคดีทางกฎหมายให้ถึงที่สุด

หากท่านชื่นชอบคอนเทนต์ที่ CANDYCLOVER นำเสนอ สามารถให้การสนับสนุนพวกเราได้ง่าย ๆ เพียง 1.) ไม่สนับสนุนแอคเคาต์ที่แอบอ้างข้อมูลที่แปลโดย CANDYCLOVER 2.) รีพอร์ตแอคเคาต์ดังกล่าวผ่านระบบของแพลตฟอร์มที่ท่านพบเห็นโพสต์ที่เข้าข่าย โดยเลือกหัวข้อ “ละเมิดลิขสิทธิ์” 3.) สนับสนุนค่ากาแฟทาง Ko-fi หรือ Patreon

About the Author /

bts.candyclover@gmail.com

I go by the name Candy, a co-founder, admin, designer, translator, writer of and for CANDYCLOVER. I'm a graphic/UI designer and a self-taught Korean translator who's passionate about telling success stories of BTS in the form of mixed media from graphic to web-based experiences. Now, I'm also pursuing my career as a professional Korean translator. My recent book-length translation projects are: I AM BTS (TH Edition), BTS The Review (TH Edition) and more to come!

Post a Comment