Indigo — สีนัมเงิน ทั้ง 10 เฉดของผู้ชายชื่อ คิมนัมจุน

1. Yun1 (with Erykah Badu)

“ที่ผมบอกว่าตลอดชีวิตคนเราต้องดำเนินไปโดยตั้งอยู่บนสัจธรรมนั้น คือนี่ล่ะ หลักมนุษยธรรมของเพลโตกล่าวไว้ว่า ‘ความซื่อสัตย์ ความดี และความงดงามที่มนุษย์แสวงหา (진선미)’ คือแก่นสารของมนุษย์ 진 คือ 眞 เจิน ที่แปลว่า ความซื่อสัตย์ 선 คือ 善 ซ่าน ที่แปลว่า ความดี 미 คือ 美 เหม่ย ที่แปลว่า ความงดงาม แต่ผมคิดว่า เพียงมีความซื่อสัตย์ ก็จะจัดการได้ซึ่งทุกอย่างแล้ว”

ช่างหัวผู้นำเทรนด์แม่งสิ
ฉันจะย้อนเวลากลับไป
ย้อนไปไกลในตอนที่ฉันอายุ 9 ปี
ในตอนที่มีแค่ดีกับไม่ดี
ฉันยังเป็นมนุษย์มนามากกว่าตอนนี้ด้วยซ้ำ
ทางนั้นทางนี้ต่างชี้นิ้วบอกฉัน
ว่าภูเขาตรงนั้นคือที่ที่ฉันต้องไป
นั่นคือที่ที่เหมาะกับแก
หากยืนกรานอยู่กับความตั้งใจนั้น แกจะไม่เหลือใคร
ขาดวงไป แกก็ไม่มีค่าอะไร
พยายามที่จะหันเหจากทางด่วนสู่ทางเปลี่ยว
ฟังที่ฉันพูดไว้ซะ มิฉะนั้นแกจะสูญเสียทุกอย่าง
เดี๋ยวแกก็ดีขึ้นเองเมื่อปล่อยให้มันเป็นไป เหมือนที่เคยทำมา
ช่างแม่งดิ ไลฟ์สไตล์ของคนต่างชาติ
ที่ของฉันคือท่อลำเลียงบนเส้นชายขอบเสมอมา
ฉันยังคงเฝ้าฝันถึงสิ่งต้องห้าม
และเต้นรำในที่ที่ไม่ใครมองมา

* ก่อนจะลงมือทำอะไร จงเงียบงันไว้
จงมีความเป็นคนไปจนตัวตาย

** ฉันอยากเป็นมนุษย์มนา ก่อนลงมือสร้างสรรค์
โลกนี้โหดร้าย แต่ก็จะมีส่วนหนึ่งที่เป็นของฉัน
เพราะความงดงามที่แท้จริงคือความโศกศัลย์
คงรับรู้ความบ้าคลั่งของฉันแล้วสักที

**

เขา1 พูดเสมอ จงเป็นมนุษย์ให้ได้เสียก่อน
เลิกคิดจะทำงานศิลป์ จงเพลิดเพลินไปกับอารมณ์เศร้าสุขทุกข์ยินดี
จะอะไรนักหนากับฝีไม้ลายมือ
จะอะไรนักหนากับคำพูดพวกนั้นในเนื้อเพลงที่แกเองก็ไม่เข้าใจ
สัจธรรมที่คุณพูดถึง ฉันไม่เข้าใจหรอก
มันเป็นเพียงแค่ความเร็วและทิศทางของฉันบนทางที่ฉันมุ่งหน้า
คุณ1 ตายไปแล้ว แต่สำหรับฉันคุณ1 แม่งเป็นสิ่งร่วมสมัย
ยังคงดำรงอยู่อย่างถาวรในที่แห่งนี้
แก่ผู้คนที่อยู่บนทุก ๆ ชายขอบ
หยิบยื่นค่ำคืนที่ฉันต้องใช้
สักวัน ดอกไม้ไฟระยิบระยับต้องร่วงสู่ผืนดิน
ของของซีซาร์จงคืนแก่ซีซาร์2
หัวใจที่ถูกมอดไหม้จนดำสนิท
แต่งกวีอยู่บนเถ้าถ่าน
แก่ชีวิตที่ผ่านช่วงวิกฤตไปมา
และสิ่งที่คุณหลงเหลือเอาไว้บนโลกใบนี้
ฉันเองก็แค่อยากเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งที่ดีกว่าที่ผ่านมา

*, **

1 Yun ในที่นี้คือ ยุนฮยองกึน จิตรกรเอกชาวเกาหลีใต้ ที่ RM ชื่นชอบและอ้างถึงในเพลงนี้
2 บทอ่านจากพระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่ การเสียภาษีแก่ซีซาร์ (มก 12:13-17)


2. Still Life (with Anderson .Paak)

I’m still life
I’m still life
I’m still life
I’m still life

ตัวฉันคือภาพนิ่ง แต่ยังเคลื่อนไหว
แค่ใช้ชีวิตและมุ่งไปข้างหน้า
หุ่นนิ่งที่ไม่หยุดนิ่ง
ดอกไม้ของฉันผลิบานอีกครั้ง
ไม่ต้องตั้งชื่อให้ฉัน เพราะฉันคือผลงานที่ไม่ระบุชื่อ
ชีวิตฉันคือถูกจัดแสดงอยู่เรื่อยไป
แต่ก็ยังดำรงชีวิต และมีชีวิต

อดีตมันหายไปแล้ว อนาคตก็ยังไม่รู้
ที่ทางแยก ฉันพักหายใจ
อยากจะหลุดพ้นออกไปจากกรอบของผืนผ้าใบ
เงาทอดยาวมายังฉันในวันวานและวันข้างหน้า
ฉันเพียงอยู่อย่างสงบ ๆ ทุกเวลา
24 ชั่วโมง 7 วัน ฉันตรงเวลา
เพียงใช้ชีวิตวันนี้พนันด้วยทุกอย่างที่มี
ในทุกนาที ทุกวินาที รู้อะไรเกี่ยวกับฉันบ้างล่ะเธอ?

* ฉันคือภาพนิ่งที่ยังมีชีวิต1
เธอขังฉันไว้ในกรอบไม่ได้หรอก เพราะฉันยังเคลื่อนไหว
ฉันคือภาพนิ่งที่ยังมีชีวิต
ฉันจะพิสูจน์ให้ดูว่าการมีชีวิตมันดีกว่าความตาย
เธอขังฉันไว้ในกรอบไม่ได้หรอก เพราะฉันยังเคลื่อนไหว
แค่ใช้ชีวิตและมุ่งไปข้างหน้า
หุ่นนิ่งที่ไม่หยุดนิ่ง
ดอกไม้ของฉันผลิบานอีกครั้ง
เธอขังฉันไว้ในกรอบไม่ได้หรอก เพราะฉันยังเคลื่อนไหว
แค่ใช้ชีวิตและมุ่งไปข้างหน้า
หุ่นนิ่งที่ไม่หยุดนิ่ง
ฉันไม่มีวันหยุดหรอกคนดี ไปลุยกันเลย

ทุก ๆ วันคือการเริ่มต้นใหม่
ใช้เงินซื้อเวลา
อย่าไปฟังคำเย้ยหยันของคนพวกนั้น หูแกจะเสียหาย
พวกแมลงทั้งหลายฝากชีวิตไว้บนโลกออนไลน์
ผู้นำเทรนด์งั้นหรอ? ฉันคือเฟรนด์ที่ดีกว่า
เป็นคนทะเยอทะยานที่ทำให้แกเบื่อหน่าย
สุดท้ายก็ไม่เป็นไปอย่างที่แกต้องการ
ใช้ชีวิตอย่างดีต่างจากที่แกหวัง ตามความตั้งใจของฉัน
94 ไลน์อาศัยอยู่ใน Nine One ถนนฮันนัม2
ดูเส้นทางที่ราบรื่นของฉัน
เดี๋ยวนี้ไม่มีความจำเป็นต้องไปที่คังนัม
คนที่ผลัดค่าเช่าห้องอย่างแก รีบหนีออกไปจากห้องนั้นซะ
What a poor flex hon’ look at yo chain
Me rather do it like “Look at my stain”

ใช้ชีวิตวันนี้เหมือนวัชพืช แค่เหมือนพืชดอก but I never stay

*

1 ตีความว่าสื่อคำว่า Still Life เป็นสองความหมาย ภาพนิ่ง, ภาพสิ่งไม่มีชีวิต และ ‘(There’s) still life (in…)’ …ยังมีชีวิต
2 โครงการ Nine One Hannam Complex บนถนนฮันนัม เป็นโครงการที่พักอาศัยที่แพงที่สุดในเกาหลีใต้


3. All Day (with Tablo)

โฆษณาเดี๋ยวนี้มันก็เหมือน ๆ กันทั้งนั้น
ขอสนุกตามใจฉันไปก่อนก็แล้วกัน
พวกเขาเหล่านั้นในเสื้อผ้าสุดเท่และท่าเต้นสุดอลัง
แต่ข้างนอกนั่นมีคนที่เต้นไม่เป็นอยู่ตั้งมากมาย
บอก ฉันไม่สน เป็นนิสัย
แต่รู้ไหม ไอ้พวกนั้นนั่นล่ะที่ ยิ่งใส่ใจ
กายไม่ได้อะไร จิตใจต่างหากที่เป็นปัญหา
เออ ใช่ ฉันก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
ไสหัวไปซะ พวกปัญญาประดิษฐ์ (AI, 인공지능) ช่างแม่งสิอัลกอริธึม (algorithm)
ฉันต้องครุ่นคิด ช่างแม่งสิริธึม (rhythm)
จังหวะชีวิต (biorhythm) ไม่มีเวลาให้ได้คิดคำนึง
เมื่อไหร่กันจะได้แต่งบทกวีของฉัน
มัวแต่ใช้ชีวิตจนลืมความใฝ่ฝัน
หากเธอกำลังตามหาบางสิ่งที่กลายเป็นดวงดาวและถูกฝัง
คนดี เธอเผชิญแบบเดียวกับฉันเลย

Okay, okay ฉันขุดค้นมันอยู่ทั้งวัน
Okay, okay ฉันค้นหาตัวตนที่แท้จริงของฉัน
Okay, okay ฉันร่ำร้องอยู่ทั้งวัน
Okay, okay (let’s go)
All day
All day
All day
All day

มันบรรยากาศอะไรกัน
เรามาทำอะไรกันอยู่ตรงนี้?
ใส่เกียร์ N กับทุกอย่าง
มันอยากให้แกหวาดกลัว
กล้าดียังไงถึงพูดสิ่งที่คิด?
รีบพับเข้าสิ ออริกามิ1 (แบบแผนพวกนั้น)
มันเอาแกไว้อยู่หมัด ทั้งทางสังคมและเศรษฐกิจ
นั่นน่ะข้อเท็จจริงที่สำคัญ

มันสมองที่เหยียบย่ำเอกลักษณ์
อิมแพกต์ของปัจเจกที่อ่อนกำลังลง
จุดไฟกองใหญ่กว่านี้ ชีวิตของแกคือแมตช์ใหญ่
โหมมันเข้าไป ยังต้องกลัวอะไรอีก
ลุกขึ้นมาจากม้านั่ง แล้วอุ่นเครื่องซะ
เมื่อไหร่ที่มันบอก “ทำตัวให้มันดี ๆ!” เราก็ต้องสู้สิวะ
เรามี Dynamite อยู่ใน DNA
เราจะไม่เป็น เราจะไปทางนั้น

ฉันจะถลึงตาแล้วจะดูแลตัวเองเอง
พวกจงเกลียดจงชัง ถ้าทนมองดูสภาพชีวิตฉันไม่ไหว
ก็รีบหลับตาไปซะ
เพราะสิ่งที่เหมือนฝัน มันยากที่จะดูด้วยการลืมตา
เก็ทฟีลกูแล้วยัง?

Okay, okay ฉันกัดฟันสู้อยู่ทั้งวัน
Okay, okay ไสหัวไปให้พ้นทางของฉัน
Okay, okay ฉันใช้ชีวิตในแบบของฉัน
Okay, okay (let’s go)
All day
All day
All day
All day

ไปมีชีวิตของแกซะ

ยามที่โลกอันโหดร้ายเหมือนจะเยาะเย้ยแก
โลกจะว่ายังไงก็ช่าง เพราะเรามันโบยบินไปไกล
แกต้องเชื่อมั่น แกต้องใช้ชีวิต
แกต้องเชื่อมั่น แกต้องใฝ่ฝัน
แกต้องเชื่อมั่น แกต้องดื่มด่ำ
เพราะตัวเรารู้ดีว่าโบยบินอยู่ทั้งวัน

1 ออริกามิ เป็นวิธีการพับกระดาษแบบญี่ปุ่น ในที่นี้ตีความว่า ออริกามิ สื่อถึงการที่ต้องทำอะไรตามแบบแผนที่กำหนด


4. 건망증 (อาการหลงลืม, Forg_tful with Kim Sawol)

ฉันเอาแต่ลืมเรื่องวันวาน
แม้แต่วันนี้ฉันก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ
ฉันเอาแต่ลืมตัวฉันในวันวาน
ฉันอายุแค่ยี่สิบหกแท้ ๆ
แต่กลับถูกถามว่าทำไมถึงจำไม่ได้
เพื่อน ๆ ฉันรู้สึกผิดหวัง
ขอโทษนะ ฉันมันคิดอะไรมากมาย
เมโมรี่ที่ฉันมีมันไม่พอ

* เสี้ยนหนามมากมาย
กับเช้าวันใหม่ที่ในที่สุดก็ต้องหวนมา
ไปทำให้ใจมันด้านชาด้วยหนทางของเราแต่ละคน

ฉันไม่ไปสวนสาธารณะไม่ได้
เพราะฉันชอบสีสันของธรรมชาติ
สุดท้ายก็ติดตรงที่เวลาทั้งนั้น
เธอเองก็คงต้องการเวลาเหมือนกัน
กลิ่นของต้นหญ้าตอนเด็ก ๆ ยังจำได้ไหม?
คงจะให้ความรู้สึกสดใหม่น่าดูเชียวนะ
อย่างนั้นล่ะ ลืม ๆ มันไปแล้วใช้ชีวิตเถอะนะ
ใครต่อใครที่นี่ก็คงซื่อบื้อคนหนึ่งทั้งนั้น

*


5. Closer (with Paul Blanco, Mahalia)

* บางทีเกิดรู้สึกว่าฉันไม่มีทางเข้าใกล้เธอได้มากพอ
ตกกลางคืนความรู้สึกยิ่งตอกย้ำ
ทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นใกล้ชิดกับเธอกว่าตอนไหน
หากลงลึกไปถึงจิตใจของเธอได้
ใกล้ชิดกันกว่าที่เคยเป็นมา
เราคงใกล้ชิดกันกว่าที่เคยเป็นมา

ตกกลางคืนความรู้สึกยิ่งตอกย้ำ
ฉันไม่เคยอยู่ในไทม์ไลน์ของเธอสักครั้ง
ก็เธออยู่ท่ามกลางจุดสนใจ
ทำเอาฉันยิ่งถลำลึกลงไป
ไม่ได้แกล้ง ไม่ได้หยอก ก็ฉันพูดจริง
อย่าหยุดเลยคนดี ทำไมเธอถึงล่องลอยอย่างนั้น
อยากขังเธอไว้ในสายตาฉัน
แต่เธอกลับหนีไปอย่างว่องไว

เก็บเธอไว้ข้างกายฉัน
แค่เพียงในความฝัน
มองเห็นเธอในสีแดง น้ำเงิน เขียว
อย่าปลุกฉันจากหลับใหล
ฉันคงเสียอาการ
ทุกอย่างไม่เป็นไปในทางที่ถูกที่ควร
เธอโผล่เข้ามาในชีวิตฉันกะทันหันแบบนี้ได้ยังไง

*

มาทักทายหนุ่มสาวคนนี้
เขาว่าเวลาไม่คอยใคร
พนันเลยว่าเธอคงคิดแบบนั้น
แต่เวลาจะหยุดลง เมื่อริมฝีปากเธอกับฉันประกบกัน
(เชื่อฉันเถอะ)
อีกครั้งแล้วที่เธอทำฉันลืมศักดิ์ศรีไว้ไหนไม่รู้
(เชื่อฉันเถอะนะ)
สัญญากับตัวเองว่าจะไม่เป็นแบบนี้อีกแล้ว
แต่เธอกลับทำให้ฉันทำเรื่องเดิม ๆ อีกแล้ว
ฉันเตรียมกายเธอพร้อมแล้ว
อยากแสดงให้เธอดูว่าฉันจะลงไม้ลงมือยังไง
มาเร็วเธอคนดี
(มาเร็วเข้าสิ)

ถ้าความรักมันไม่ตอบโจทย์เราสอง
ให้ฉันใช้สิ่งนี้สนองเธอให้อิ่มเอมใจ
ไม่ต้องการให้เธอสัมผัส
แค่ได้ความรักของเธอมาก็พอใจ
(เข้ามาใกล้กันกว่านี้)

ถ้าเราทำได้เท่านี้
แค่เฝ้ามองเธอแบบนี้
ก็คงไม่ต้องมีเทคสอง
ขอเธออยู่ตรงนั้นต่อไป

ถ้าเราทำได้เท่านี้
แค่เฝ้ามองเธอแบบนี้
ก็คงไม่ต้องมีเทคสอง
ขอเธออยู่ตรงนั้นต่อไป

ขอเธออยู่ตรงนั้นต่อไป
เพียงแค่เธออยู่ตรงนั้น
ขอเธออยู่ตรงนั้นต่อไป
ขอเธออยู่ตรงนั้นต่อไป
ขอเธออยู่ตรงนั้นต่อไป
เพียงแค่เธออยู่ตรงนั้นต่อไป


6. Change pt.2

* อะไร ๆ เปลี่ยน คนก็เปลี่ยน
ทุกอย่างเปลี่ยนไป
อะไร ๆ เปลี่ยน คนก็เปลี่ยน
ทุกอย่างเปลี่ยนไป
รักก็เปลี่ยน เพื่อนก็เปลี่ยน
ใคร ๆ ก็เปลี่ยนไป
ไม่ผิดแผกอะไร
สภาพโลกเรามันเป็นแบบนี้

เหลือเชื่อนะที่ครั้งหนึ่งฉันเคยมีรักให้กับเธอ
หลอกกันได้ครั้งหนึ่ง ก็มีครั้งที่สอง
หน้าไม่อายเลยนะตัวเธอ หน้าไม่อายเลยนะตัวฉัน
ฉันคงเสียสติไปแล้วล่ะมั้ง
เคมีระหว่างกันคือสิ่งที่เรามี
แต่แล้วเรากลับค่อย ๆ ต้องการมากกว่านี้
เขาว่าเราแก้ไขใครไม่ได้
เห็นทีเธอคงมีใครที่พอดีกับเธอแล้ว

ช่างหัวบทสัมภาษณ์ของฉันเมื่อหลายปีก่อนแม่งสิวะ
ฉันมันคนละคนแล้ว เป็นอย่างแต่ก่อนที่ไหนกัน
ช่างหัววิกิพีเดีย ช่างหัวข้อมูลพวกนั้น
ใครวะนั่น ฉันไม่รู้หรอกว่าไอ้โง่นั่นมันใครกัน

*

แกต้องยอมรับซะ
ยังไม่เข้าใจอีกหรือไง
สักวันเองแกก็จะพบกับความอาลัยครั้งใหญ่
ถึงตอนนั้นแกเองก็จะรู้
ฉันบอกได้เพียงว่า
แกไม่มีวันมีความรักให้กับใครสักคนได้เหมือนฉัน


7. Lonely

* ฉันเหงาชิบหาย
เดียวดาย (เหมือน) อยู่บนเกาะ
เหงาแทบขาดใจ
ใครก็ได้โทรหาฉันที

ล่องลอยอยู่เพียงลำพังในห้องพักโรงแรม
ห้องที่บรรจุอยู่ในความจีรังชั่วพริบตา
ฉันเกลียดมัน
เสียงเตือนภัยที่ดังเอะอะ
ฉันถูกกักขังอยู่กับตัวฉัน
เท่ากับความกว้างของห้องที่คับแคบ

พยายามปล่อยเธอไปเป็นล้าน ๆ ครั้ง
ความทรงจำกระจัดกระจายอยู่ตรงนี้
เกลียดเมืองต่าง ๆ ที่ไม่ใช่ที่ของฉัน
แค่อยากจะกลับบ้านเท่านั้นเอง

*

คนดี ฉันมีอะไรจะบอก
ฉันเกลียดมันหมดทุกสิ่งอย่าง
สงสัยฉันคงจะเหี่ยวเฉาล่ะมั้ง
เวลาแม่งเอาแต่เดิน ส่วนฉันก็ต้องรีบจ้ำ
ดูแต่ YouTube กับ Netflix ทั้งวี่ทั้งวัน
ได้แต่เดตกับดาต้าในโทรศัพท์อยู่อย่างนั้น
นัดพบกันในตอนเช้าของทุกวัน
กังหันลมสีแดง (Moulin Rouge) หมุนเวียนวนจนแดงก่ำ

ยิงดาวดวงนับล้านเพื่อบอกให้เธอรู้
สิ่งละเล็กละน้อยกระจัดกระจายอยู่ตรงนี้
เกลียดตึกรามต่าง ๆ ที่ฉันไมรู้จัก
แค่อยากจะกลับบ้านเท่านั้นเอง

*, *


8. Hectic (with Colde)

* เรื่องของวันวานมีแต่ความวุ่นวาย
ไม่ได้มีอะไรโรแมนติก
หากเพียงแต่ฉันหาเหตุผล
ให้กับการวิ่งไล่ตามที่ไม่มีวันจบสิ้น
เรื่องของวันวานมีแต่ความวุ่นวาย
ไม่ได้มีอะไรโรแมนติก
หากเพียงแต่ฉันจินตนาการ
ได้อีกหนึ่งสรวงสวรรค์

อีกหนึ่งรอยยิ้มเขิน ๆ ของฉัน
กับความทรงจำเก่า ๆ
เรื่องพูดคุยในวงเหล้าที่วกวนของผู้คนที่ไม่รู้จะพูดอะไร
รู้สึกเหมือนกำลังจะตายไปอีกหนึ่งวัน
เบื่อหน่ายกับถนนเส้นโอลิมปิกยามค่ำ
แสงไฟเป็นประกาย กับรถแท็กซี่ที่โหดร้าย

** พบเจอผู้คน ผู้คน ผู้คน
(พูดแม่งแต่เรื่องเดิม ๆ)
เกลียดเหตุผล เหตุผล เหตุผล
(ที่แม่งพ่นออกมา)
หากการเกิดมาคือความทุกข์ทรมาน
เราควรทำยังไงกับการแข่งขันนี้ดี
ครุ่นคิด ครุ่นคิดต่อไป และฉัน..

*
ความพยายามที่จะขีดเขียนออกมา
โดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามุ่งหน้าไปทางไหน
ไม่ทันไรก็กลายเป็นเส้นทางที่ฉันก้าวเดินมา
ฉันในความทรงจำเมื่อวันวาน
ที่ไม่อยากหลงทางอีกต่อไป
ช่วยฉันคนนั้นไว้ที

**, *

จบลงแล้วอาการเมาค้าง
ท่าทางของเมืองแห่งนี้ที่ยั่วตัณหา
บทเพลงยามค่ำแด่กรุงโซลในคืนที่ไม่สุขสันต์
เราก็รู้ทั้งรู้ แต่ก็ยังเสียไปอีกหนึ่งวัน
ความสุขมันคืออะไรกัน
ควาบสงบสุขเล็ก ๆ ที่เฝ้าวอนขอมาขนาดนั้น
หัวใจฉันลาจากผู้คนที่จางหาย
สุดท้าย ก็มีแต่ค่ำคืนประดับดาวที่เราเรียงร้อย
หลับตาลงเหมือนฝัน
กลั้นหายใจอย่างแผ่วเบา
ก้าวของผู้คนที่เต้นรำ
ลื่นไหลไปเป็นเส้นโค้ง
แม้เหนี่ยวรั้งไว้ไม่ได้
เมือง ๆ นี้เราก็ยังทั้งรักทั้งชัง


9. 들꽃놀이 (จุดดอกไม้ป่า, Wild Flower with youjeen)

* ฉันอยู่บนทุ่งดอกไม้
ฉันอยู่บนท้องทุ่งกว้าง
สิ่งฉันมีคือความนิรนาม
ไม่อับอาย ฉันอยู่บนหลุมฝังศพของฉัน
ยามที่สองเท้าไม่แตะผืนดิน
ยามที่จิตใจคุณสบประมาทคุณ
ยามที่ความฝันกัดกินตัวฉัน
ยามที่ฉันไม่เป็นฉัน
ทุก ๆ ยามนั้น

ฉันใฝ่ฝันถึงดอกไม้ไฟ
เพียงอยากโรยราลงไปอย่างสง่างาม
วาดฝันมาตั้งแต่ก่อนเริ่มต้นมา
หวังไว้ว่าที่ปลายทางจะยิ้มและปรบมือให้กัน
มันคือสิ่งฉันปรารถนา
ยามทุกสิ่งที่เชื่อมั่นไกลห่าง
ยามที่เกียรติศักดิ์ศรีกลายเป็นสิ่งพันธนาการ
นำความกระหายนี้ออกไปที
ไม่ว่าจะเกิดอะไร
ให้ฉันได้เป็นฉันที
ทุกค่ำคืนวัน
บาดแผลที่เรื้อรัง จิตที่ไร้สามัญ
ค่ำคืนที่นอนไม่หลับเพราะเสียงของหัวใจ
จันทร์ข้างขึ้นที่น่าสงสารลอยละล่องอยู่นอกบานหน้าต่าง
ฉันก็หวังให้ตัวเองมีค่ำคืนที่เบิกบาน
ชีวิตที่เทอะทะยิ่งกว่าสถานะ
ออกแรงคว้าลูกโป่งที่เหินขึ้นไป
และซักไซ้ว่าตอนนี้แกอยู่จุดไหน
ที่ที่แกไป จิตวิญญาณแกมันไปไหน
ความฝันแกมันไปไหน?

** จะกระจัดกระจายไปทั่วผืนฟ้า
ดั่งการจุดดอกไม้
ให้ตระการตาทั่วผืนฟ้า
ดั่งการจุดดอกไม้

จุดจบของฉันจะไปถึงตรงไหน
ตั้งแต่หนึ่งถึงสิบ ฉันสั่นสะท้านกับทุกอย่าง
หน้ากากที่น่าเข็ดขยาดจะถูกถอดออกไป
ฉันไม่ใช่วีรบุรุษหรือตัวร้าย
ไม่ใช่อะไรทั้งนั้น
ความเกียจคร้านเกิดขึ้นอยู่ซ้ำ ๆ ความทรงจำกลายเป็นสิ่งชั่วร้าย
เอนตัวลงในทุ่งหญ้า ทอดสายตาขึ้นไปบนผืนฟ้า
ตอนนี้กลับนึกไม่ออกแล้วว่าฉันต้องการอะไร
หมู่มวลความสุขที่เคยเชื่อมั่นแทบจะเป็นเพียงชั่วพริบตา
ฉันเดินหน้ามาตลอด ไม่ว่ามีอะไรอยู่ข้างหน้า
ไม่ว่ามันจะเป็นอะไร
เหนี่ยวรั้งชายขอบของรุ่งสาง จำได้ว่าสำรอกอะไรออกมา
ในสังคมของผู้คนที่เปล่งเสียงดัง
ฉันยังคงเอื้อนเอ่ยความเงียบงัน
มันคือการพูดป้องปาก 
เรือใบที่เติบใหญ่ ให้มันได้ส่งถึงทุกความเดียจฉันท์
ไม่ได้ยินดียินร้ายกับการถูกแกจับโยนฉลอง
สองเท้าของฉันอยู่ที่ผืนดินตรงนี้
กับหมู่มวลดอกไม้นิรนาม
ฉันไม่อาจไปยังดวงดาวได้อีกครั้ง
ฉันเพียงก้าวไปด้วยสองเท้า
สู่จุดหมายที่ไร้ปลายทาง
ไม่รู้จักโศกจักเศร้า
ผูกมิตรกระทั่งกับเงา
ฉันจะหายไป

**

จู่ ๆ เมื่อหยุดลง เท้าเปลือยเปล่ากลับเปล่งประกาย
เดิมทีไม่มีอะไรเป็นของฉันสักอย่าง
แล้วไม่ต้องมาว่าฉันจะได้กลายเป็นคนสำคัญ
เพราะฉันไม่มีทางกลายเป็นเหมือนพวกเขาเหล่านั้น
(ดั่งการจุดดอกไม้)
ใช่แล้ว จุดเริ่มต้นของฉันคือบทกวี
พลังและความฝันเพียงหนึ่งเดียวที่ปกป้องฉันมาจนถึงตอนนี้
(ดั่งการจุดดอกไม้)
จากดอกไม้ไฟที่ลุกโชนสู่ดอกไม้ป่า
จากเยาว์วัยสู่นิรันดร์กาล 
ฉันจะยังคงอยู่ในท้องทุ่งนี้ที่อ้างว้าง 
อา สักวันฉันจะหวนกลับคืน

**, *


10. No.2 (with parkjiyoon) 

* เธอคนดี ไม่ต้องหันกลับไปแล้วนะ
ต่อให้ยังมีเรื่องราวนับหมื่นอนันต์รบกวนหัวใจ
หลังพายุมากมายพัดผ่านพ้น
จากนี้คนที่จะปกป้องเธอนั้นคือตัวเธอเอง

** เธอคนดี ไม่ต้องหันกลับไปแล้วนะ
หลังความทรงจำมากมายที่คลาคล่ำ
ยังมีชีวิตเหมือนของแจกฟรีเหลืออยู่ให้เธอใช้
ที่เธอทำไปนั้น เธอทำดีที่สุดแล้ว

เธอคนดี ไม่ต้องหันกลับไปอีกต่อไป
จะมีหนทางไหนที่จะไม่ต้องเสียดาย
ก็นะ เธอไม่ได้พิเศษขนาดนั้น
ฉันจะไม่เสียน้ำตาให้คำพูดพวกนี้อีกต่อไป
ฉันสุขใจ
ที่ฉันไม่ต้องพิสูจน์ตัวเองแล้ว
ที่ฉันไม่ต้องเป็นคน ๆ นั้น

เด็กน้อยที่โหยหาการยอมรับ1
แต่ตอนนี้จิตใจกลับเหมาะสมกับ การไม่ยอมรับ/ผู้สูงอายุ2 เสียมากกว่า
ลูกโป่งที่อัดแน่นด้วยตัวฉันจนระเบิดออก
สิ่งที่รู้หลังจากนั้น คือภายในมีแต่ความว่างเปล่า
ไถ่ถามไม่จบไม่สิ้น ปล่อยให้มันพัดผ่านไปทั้งอย่างนั้นได้ไหม?
ฉันจะเป็นส่วนหนึ่งในที่ที่ไม่อยากเป็นส่วนหนึ่งได้ไหม?
เมโลดี้ที่เหมือนจะดำเนินไปตลอดกาล
มันคือความผิดพลาดร้ายแรงของฉัน
มีเพียงสิ่งเดียวที่ได้เรียนรู้มาจนถึงตอนนี้
นั่นคือฉันจะเป็นฉันคนนี้ตลอดไป
ทุกความบังเอิญเหล่านั้นที่เคยเชื่อว่าไม่อาจหลีกหนี
ทุกค่ำคืนวันที่เคยยาวนานเหมือนนิจนิรันดร์
เธอได้ทำแต่สิ่งที่ดีที่สุดแล้ว

*, **

เพราะฉะนั้น
ไม่ต้องหันกลับไปแล้ว ไม่เอานะ
ไม่ต้องหันกลับไปแล้ว ไม่เอานะ
ไม่ต้องหันกลับไป
ไม่ต้องหันกลับไปอีกแล้ว
ไม่ต้องหันกลับไปแล้ว ไม่เอานะ
ไม่ต้องหันกลับไป
เธอได้ทำแต่สิ่งที่ดีที่สุดแล้ว

เพราะฉะนั้น
ไม่ต้องหันกลับไปแล้ว ไม่เอานะ
ไม่ต้องหันกลับไปแล้ว ไม่เอานะ
ไม่ต้องหันกลับไป
ไม่ต้องหันกลับไปอีกแล้ว
ไม่ต้องหันกลับไปแล้ว ไม่เอานะ
ไม่ต้องหันกลับไป
จากนี้คนที่จะปกป้องเธอนั้นคือตัวเธอเอง

1 인정 /อินจอง/ ยอมรับ
2 노인 /โนอิน/ ผู้สูงอายุ, 노인정 /โนอินจอง/ ศูนย์ผู้สูงอายุ
ในที่นี้เป็นการเล่นเสียง โน จากคำว่า 노인정 ในความหมายว่า No (ไม่) จึงเป็นการสื่อความหมายว่า ไม่ยอมรับ ในขณะเดียวกันก็เล่นกับคำว่า 어린아이 /ออรีนาอี/ เด็กเล็ก ในวรรคก่อนหน้ากับคำว่า ผู้สูงอายุ

ที่มา | melon
แปลและเรียบเรียงจากเกาหลีเป็นไทยโดย CANDYCLOVER

DMCA.com Protection Status

ทาง CANDYCLOVER มีความยินดีหากผู้อ่านเล็งเห็นประโยชน์ของคอนเทนต์นี้ และต้องการนำไปประกอบเอกสารหรือสื่อทางการศึกษา เผยแพร่ต่อบนโซเชียลมีเดีย รวมถึงนำไปผลิตของที่ระลึก เช่น Giveaway สำหรับแจกฟรี มิใช่การจัดจำหน่าย

หากต้องการนำข้อมูลไปใช้อ้างอิง กรุณาติดต่อทางอีเมลล์ bts.candyclover@gmail.com และรอการตอบกลับที่ระบุว่าอนุญาตแล้วเท่านั้น ยกเว้นกรณีการนำข้อมูลที่ “แปล เรียบเรียง หรือจัดทำโดย CANDYCLOVER” ไปรีโพสต์ ทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไข นำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ รีโพสต์บนแฟนเพจ เว็บไซต์ หรือเว็บบอร์ด ที่มิใช่แพลตฟอร์มของ CANDYCLOVER พร้อมใส่เครดิตเองโดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงนำไปเป็นคอนเทนต์ทางสื่อโทรทัศน์ หรือกระทำการใด ๆ ก็ตามที่เข้าข่ายแอบอ้างผลงาน หากพบเห็นจะดำเนินคดีทางกฎหมายให้ถึงที่สุด

หากท่านชื่นชอบคอนเทนต์ที่ CANDYCLOVER นำเสนอ สามารถให้การสนับสนุนพวกเราได้ง่าย ๆ เพียง 1.) ไม่สนับสนุนแอคเคาต์ที่แอบอ้างข้อมูลที่แปลโดย CANDYCLOVER 2.) รีพอร์ตแอคเคาต์ดังกล่าวผ่านระบบของแพลตฟอร์มที่ท่านพบเห็นโพสต์ที่เข้าข่าย โดยเลือกหัวข้อ “ละเมิดลิขสิทธิ์” 3.) สนับสนุนค่ากาแฟทาง Ko-fi หรือ Patreon

About the Author /

bts.candyclover@gmail.com

I go by the name Candy, a co-founder, admin, designer, translator, writer of and for CANDYCLOVER. I'm a graphic/UI designer and a self-taught Korean translator who's passionate about telling success stories of BTS in the form of mixed media from graphic to web-based experiences. Now, I'm also pursuing my career as a professional Korean translator. My recent book-length translation projects are: I AM BTS (TH Edition), BTS The Review (TH Edition) and more to come!

Post a Comment