BTS สัมภาษณ์นิตยสาร Singles (2016)

RAP MONSTER

การงานทำเพลง, ซ้อม, โปรโมท และการทำการแสดง คนอื่นอาจจะมองว่าตารางงานที่หมุนวนเหมือนหนูติดจั่นนี้มันดูเหนื่อยล้าแต่พวกเรากลับคิดว่ามันสนุกมาก ก็ไม่ใช่ว่าสิ่งที่เราอยากทำ มันเป็นสิ่งที่เราชอบทำหรอกหรอ กลับกันความเครียดของผมผ่อนคลายลงด้วยหุ่นฟิกเกอร์ ผมมีความสุขสุดๆ เวลาสะสม Art Toy ของ Kaws หรือ Coarsetoys นอกจากนั้นเวลาเหนื่อยจากตารางงานที่แน่นเอี้ยด ก็จะมีใครบางคนในหัวผมบอกให้ผมเขียนเนื้อเพลงต่อไป จะเรียกว่าเป็นแรงขับเคลื่อนที่ทำให้ทำดนตรีมาได้อย่างต่อเนื่องได้มั้ยนะ? มันอาจจะฟังดูตลก แต่แรงขับเคลื่อนของผมคือการที่จิตวิญญาณของผมทำให้ผมทำต่อไปนี่เอง ฮ่าๆๆ เดบิวต์มากว่า 3 ปีแล้วแต่ก็ยังมีเรื่องที่ยังไม่เคยลองทำอีกเยอะ คอยพูดตลอดแหละแต่ผมยังฝันถึงวันที่จะได้ทำเพลงกับรุ่นพี่ Younha, Tablo, Lee Sora และอยากร่วมงานกับนักดนตรีต่างชาติอย่าง 6lack หรือ King Krule ด้วยเหมือนกัน

 

SUGA

ผมเริ่มทำงานเพลงมากตั้งแต่อายุ 13 แต่ในระหว่างทำงานเป็น BTS ผมเคยกังวลเรื่องตัวตนของไอดอลกับนักดนตรีมากๆ แต่ตอนนี้ผมไม่เอาตัวเองไปผูกกับปัญหาพวกนี้อีกแล้ว เพราะไม่ว่ายังไงเพลงดีๆ ก็ต้องได้รับการยอมรับเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ว่าจะไอดอลที่ทำเพลงหรือนักดนตรีที่ออกอัลบั้ม แล้วมันสำคัญอะไรล่ะ ผมก็เป็นแค่คนที่ทำเพลง เรื่องการทำเพลงดีๆ ให้ได้มากๆ ต้องมาก่อน ปัญหาถัดไปก็คือเราได้รับความนิยมในฐานะไอดอล หรือในฐานะนักดนตรีต่างหาก เดี๋ยวนี้ผมสนุกกับการได้ทำเพลงกับเมมเบอร์คนอื่นๆ มากๆ ในตอนแรกพวกเราแต่ละคนมีสไตล์การแรพที่คล้ายกันแต่ตอนนี้เมื่อเวลาผ่านไปบุคลิกของแต่ละคนก็ค่อยๆ เด่นชัดขึ้น ถ้าได้ลองพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวด้วยกันแล้ว คงได้ทำเพลงดีๆ อีกเยอะ ผมสนุกกับกระบวนการนี้มากเลย แรงกดดัน? ถ้าบอกว่าไม่รู้สึกก็คงเป็นเรื่องโกหก แต่เดี๋ยวนี้ผมว่าคำว่าความรู้สึกรับผิดชอบน่าจะฟังดูเหมาะกว่า เพราะเราอยากจะตอบแทนแฟนๆ ด้วยเพลงที่ดีขึ้นทุกๆ ครั้ง ไม่รู้ว่าฟังดูโอหังไปหน่อยมั้ยแต่นี่แหละคือความ Swag ของพวกเรา ความโอหังกับความ Swag น่ะเป็นเรื่องที่ต่างกัน

 

 

J-HOPE

ผมรู้สึกกดดันมากทุกครั้งที่เขียนเนื้อเพลง ผมหงุดหงิดใจมากกับการบีบบังคับว่า ‘ท่อนนี้ควรจะเขียนเรื่องนี้!’ สิ่งที่ผมรู้สึกเมื่อได้ลองอะไรหลายๆ อย่างคือถ้าตั้งกรอบขึ้นมาแล้วเขียนเนื้อเพลงล่ะก็ความจริงใจในเนื้อหาจะหายไป แต่พอทำงานอัลบั้ม <WINGS> อัลบั้มเต็มรอบนี้ ผมก็ได้สัมผัสประสบการณ์ ‘피땀 눈물’ อันโหดร้ายอีกครั้ง เป็นเพราะผมต้องรับหน้าที่เป็นเมนหลักใน ‘Intro: Boy Meets Evil’ ที่เป็นส่วนเปิดตัวอัลบั้มและต้องโชว์การแรพเดี่ยวกับเต้น ความรู้สึกของเท้าเปล่าๆ เวลาซ้อมท่าเต้นมันยังชัดเจนอยู่เลย ความรู้สึกที่พื้นและตัวผมรวมเป็นหนึ่งนี่น่าประทับใจจริงๆ แต่ตัวผมตอนที่เตรียมการแสดงมันไม่ได้ดูเซ็กซี่ขนาดนั้นหรอก ฮ่าๆๆ  ผมเป็นพวกที่ถ้าจมอยู่กับสิ่งหนึ่งแล้วก็จะจดจ่ออยู่แต่กับสิ่งนั้น เหมือนกับการทำงานเป็น BTS และแน่นอนว่าในเรื่องความรักด้วยเหมือนกัน ความรักในความคิดของผมคือสิ่งที่ทำให้คนเป็นคนโง่ ผมว่าเมื่อตกหลุมรักแล้วก็จะกลายเป็นคนโง่ที่มองแต่คนๆ เดียว ยังไงก็ตาม ถ้าได้ถ่าย(นิตยสาร Singles)กับ V และ Jin ด้วยก็คงจะดี แต่เพราะเขาติดงานอื่นก็เลยมาถ่ายด้วยกันไม่ได้ ผมเสียดายมากเลย

 

 

JUNGKOOK

ใช้ชีวิตที่หอพักกับพวกฮยองมาไม่เคยรู้สึกอึดอัดสักครั้งเลย กลับกังวลมากกว่าจะรู้สึกอึดอัดถ้าต้องแยกกันอยู่ เมมเบอร์คนอื่นๆ ก็เหมือนกัน ไม่ได้รู้สึกต้องการจะแยกไปอยู่คนเดียวหรือรู้สึกถึงความอึดอัดจากการใช้ชีวิตที่หอพักด้วยกันเลย ถึงแม้บางทีแรพม่อนฮยองจะรำคาญแทฮยองฮยอง (V) เวลาเล่นเกมส์ในห้องก็ตาม (RAP MONSTER “เวลาเขาใส่หูฟังแล้วแหกปากสั่งคนที่อยู่ทีมเดียวกันในเกมส์ให้ทำนู่นทำนี่เนี่ยแหละที่ได้ยินแล้วอยากเคยออกไปใช้ห้องคนเดียวครับ”) ทุกครั้งที่เป็นแบบนั้นผมว่าจะโชคดีมากถ้าเป่ายิงฉุบชนะ เพราะตอนแบ่งรูมเมทกันเหลือห้องอยู่ห้องนึง ใครก็เลยจะเข้าไปใช้ห้องคนเดียวก็ได้ พวกเราก็เลยให้เป่ายิงฉุบกันอย่างเท่าเทียม(?) แล้วผมก็ชนะ ผมเลยมีความสุขมาก ฮ่าๆๆ ช่วงเวลานี้เป็นฮวายังยอนฮวามั้ย? ไม่ใช่ว่าเมื่อเวลาผ่านไปแล้วเรารู้สึกได้ว่า ‘อา ตอนนั้นฉันมีความสุขมากๆ เลยนะ’ ช่วงเวลานั้นถึงจะเรียกได้ว่าเป็นฮวายังยอนฮวาหรอกหรอ?

 

 

JIMIN

ตอนที่เลือก <WINGS> เป็นชื่ออัลบั้มเต็ม ผมจินตนาการถึงการโบยบินบนท้องฟ้าได้ตามใจอยาก ผมก็อยากจะโบยบินบนท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ไปที่นั่นที่นี่อย่างไม่ต้องมีจุดหมายเหมือนกัน คอนเซ็ปต์ ‘สิ่งเย้ายวนที่เราไม่อาจปฏิเสธได้’? ผมพยายามนึกถึงตอนที่ผมเซ็กซี่ที่สุด ผมว่าคนที่เย้ายวนคนอื่นต้องเซ็กซี่ คนอื่นถึงจะปฏิเสธไม่ได้ เมมเบอร์คนอื่นๆ คงตอบแนวๆ ว่าพวกเขาเซ็กซี่ที่สุดตอนที่โฟกัสงานของตัวเอง เช่น เขียนเพลงหรือฝึกซ้อมท่าเต้น แต่ผมคิดว่าผมเซ็กซี่ที่สุดตอนที่ตาผมปรือๆ ครับ (SUGA “ใครมองตาจีมินก็หลงกันทุกคนครับ”, RAP MONSTER “ผมว่าเซ็กซี่โดยสัญชาตญาณน่ะเจ๋งสุดไง จุดนี้น่ะไม่มีใครเอาชนะจีมินได้เลยครับ”) ใช่แล้ว เพราะผมตาปรือตลอด ผมก็เลยเซ็กซี่ตลอด แต่จริงๆ แล้วผมอึดอัดนะเวลาตอบคำถามที่ถามว่าตอนไหนที่ผมเซ็กซี่ที่สุดกับตอนไหนคือฮวายังยอนฮวา เพราะผมไม่มีช่วงเวลาไหนเป็นพิเศษในใจหรอก ผมว่าสิ่งสำคัญก็คือทัศนคติ ช่วงอายุที่ผมตั้งตารอที่สุด? ก็คงตอนที่ตัวเราเป็นได้อย่างที่ฝันไว้? ถึงแม้ตอนนี้จะยังตอบออกมาชัดๆ ไม่ได้ว่าเป็นตัวผมในแบบไหน แต่สิ่งสำคัญก็คือการที่ผมกำลังตามหาคำตอบของมันอยู่ในตอนนี้

ที่มา | Singles
แปลจากเกาหลีเป็นไทยโดย CANDYCLOVER

 

About the Author /

bts.candyclover@gmail.com

I go by the name Candy, a co-founder, admin, designer, translator, writer of and for CANDYCLOVER. I'm a graphic/UI designer and a self-taught Korean translator who's passionate about telling success stories of BTS in the form of mixed media from graphic to web-based experiences. Now, I'm also pursuing my career as a professional Korean translator. My recent book-length translation projects are: I AM BTS (TH Edition), BTS The Review (TH Edition) and more to come!

Post a Comment