BTS กลับมาอีกครั้งกับ ‘เพลง K-Pop’ ที่สะเทือนทั่วโลก

ศิลปินเกาหลีวง BTS สร้างปรากฏการณ์จากการเปิดตัวอัลบั้มใหม่ MAP OF THE SOUL : PERSONA พร้อมกันทั่วโลกเมื่อวันที่ 12 เมษายน เวลา 16:00น. (ไทย) ที่ผ่านมา

BTS ขึ้นครองอันดับสูงสุดบนชาร์ตเพลงหลักในประเทศ และอีก 86 ประเทศบนชาร์ต iTunes ‘Top Albums’ ทันทีหลังจากปล่อยอัลบั้ม เพลง Boy With Luv ซึ่งเป็นเพลงไตเติ้ลของอัลบั้มไต่ขึ้นสู่อันดับ 4 ของชาร์ต Global Top 200 บนแพลทฟอร์มผู้ให้บริการสตรีมเพลงที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Spotify ส่วน MV เพลงไตเติ้ลก็ทำยอดเข้าชมเกินกว่า 100 ล้านวิว ไปเมื่อเวลา 05:37น. (ไทย) ในวันที่ 14 เมษายน ซึ่งเป็นสถิติที่ใช้เวลาสั้นที่สุดในการทำยอดวิวทะลุ 100 ล้านวิว โดยใช้เวลาไปทั้งสิ้นเพียง 37 ชั่วโมง 37 นาที นอกจากนั้นยังพบว่าเว็บไซต์เพลงที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอย่าง MelOn เองก็เกิดข้อผิดพลาดในการเข้าถึงผ่านโทรศัพท์มือถือเป็นเวลาราวๆ 1 ชั่วโมง ในช่วง 2 วันที่ผ่านมาจากการที่ผู้ใช้งานแห่เข้าใช้งานพร้อมๆ กันเป็นจำนวนมาก

MAP OF THE SOUL : PERSONA เป็นอัลบั้มแรกที่เปิดประตูสู่ซีรี่ส์ใหม่ ต่อจากซีรี่ส์ LOVE YOURSELF ที่เผยแพร่อย่างต่อเนื่องมาตลอดระยะเวลา 2 ปี 6 เดือน Big Hit Entertainment ได้เปิดเผยเอาไว้ว่าเรื่องราวความจริงใจที่ BTS อยากบอกเล่าแก่แฟนๆ ทั่วโลกที่นำพาพวกเขาขึ้นมาสู่จุดยืน ณ ปัจจุบันจะถูกสอดแทรกเอาไว้ในอัลบั้มนี้ ผู้เชี่ยวชาญต่างลงความเห็นว่าผลงานชิ้นใหม่ของ BTS ในคราวนี้ เรียกได้ว่าเป็นอัลบั้มที่ประกอบขึ้นด้วยองค์ประกอบที่ดีที่สุดอย่างซาวด์เพลงป็อปที่ฟังสบาย ซึ่งเจาะกลุ่มผู้ฟังทั่วไปในอเมริกา และในขณะเดียวกันก็ยังคงสีสันเดิมของตัวพวกเขาเอาไว้ด้วย

คุณมี-มโย ผู้อำนวยการกองบรรณาธิการจากนิตยสารดนตรีออนไลน์ Idology ให้คำวิจารณ์เกี่ยวกับอัลบั้ม “พวกเขาทำให้ฉันรู้สึกว่าในขณะที่พวกเขายังคงรักษาเอาไว้ซึ่งสเน่ห์ของไอดอลในวงการ K-Pop พวกเขาก็ได้แสดงให้เห็นถึง ‘เพลงป็อป’ ที่สามารถเจาะกลุ่มผู้ฟังในอเมริกาได้กว้างขึ้นกว่าเดิมด้วยเช่นกัน ถ้าแต่ก่อนเป็น K-Pop ที่ได้รับกระแสตอบรับในตลาดโลก ครั้งนี้ฉันรู้สึกว่ามันเป็นเพลงป็อปสร้างสรรค์ขึ้นโดยศิลปิน K-Pop ฉันว่าเราตั้งตารอสถานีวิทยุ (ในอเมริกา) เปิดเพลงของพวกเขาได้เลย”

ในอีกด้านหนึ่งนักวิจารณ์ดนตรี อาจารย์คิมยองแด ผู้เขียนหนังสือ ‘BTS: The Review’ วิเคราะห์เพลงทั้งหมดของ BTS ได้แสดงความเห็นเช่นกัน “ส่วนตัวแล้วผมตระหนักได้ถึงสถานะ ณ ปัจจุบันของ BTS ที่เกิดใหม่อีกครั้งในฐานะป็อปสตาร์ระดับโลก เราประเมินได้เลยครับว่าอัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มที่ประกอบขึ้นด้วยองค์ประกอบที่ดีที่สุดที่พยายามที่จะรักษาอัตลักษณ์ของตัวพวกเขาที่เริ่มต้นมาจากฮิปฮอป และในขณะเดียวกันก็พยายามที่จะใส่ไวยากรณ์ของความเป็นป็อปที่เป็นไปในทางเดียวกันกับตลาดเพลงต่างประเทศโดยเฉพาะตลาดเพลงอเมริกาลงไปด้วย”

เพลงแรกของอัลบั้ม ‘Intro : Persona’ เป็นเพลงโซโล่ของลีดเดอร์ RM ที่แต่งขึ้นด้วยแรพอย่างเดียว แม้ว่าจะสร้างความเป็นเนื้อแท้ของดนตรีป็อปไว้อย่างหนักแน่น แต่กลับรู้สึกได้ราวกับว่าพวกเขาพยายามที่จะนิยามให้เห็นภาพว่ารากฐานทางดนตรีของเพลงนี้เป็นฮิปฮอป

คุณคิมบงฮยอน นักข่าวนักวิจารณ์ทางด้านฮิปฮอป อธิบายเอาไว้ “ในบรรดาเพลงในอัลบั้มนี้ เพลง ‘Intro : Persona’, ‘HOME’ และ ‘Dionysus’ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเป็นเพลงที่มีจุดยืนของความเป็นฮิปฮอปอยู่ หากพูดถึงในแง่คุณลักษณะของตัวเพลง ทั้งสามเพลงล้วนมีสิ่งที่ทำให้หวนระลึกถึงสไตล์ฮิปฮอปอเมริกันในยุค 90 ถึงช่วงต้นยุคปี 2000 ส่วนถ้าพูดถึงการแรพ มันไม่ได้หนักแน่นเท่ากับความดุดันของอัลบั้มในยุคแรกๆ แต่มันกลับมีความเป็นธรรมชาติ เพราะพวกเขาไม่มีความจำเป็นจะต้องพิสูจน์ความเป็น ‘ฮิปฮอป’ ของตัวพวกเขาให้ใครเห็นเหมือนอย่างแต่ก่อนแล้ว ในเรื่องของการคอนโทรลพลังในการแรพ พวกเขายังคงแสดงให้เห็นถึงการรักษาพื้นฐานของการแรพไว้ได้อย่างสมบูรณ์”

ในแง่ของคำร้อง เป็นที่น่ายกย่องที่พวกเขาหยิบยกประเด็นใหม่ๆ ขึ้นมาเปิดตัวซีรี่ส์ใหม่ได้แล้วประสบความสำเร็จ คุณคิมยูนา นักวิจารณ์ดนตรี กล่าว “แม้ว่าคนส่วนมากจะรู้สึกว่าอัลบั้มนี้ออกจะเบาๆ และสดใสเมื่อเทียบกับผลงานที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน แต่มันทำให้เราได้หันมาสนใจในความพิถีพิถันของความแนวทางที่จะรับฟังเรื่องราวของแต่ละคนที่อยู่รอบตัว ภายใต้การเปลี่ยนแปลงทิศทางจาก เมสเสจ ‘Love Yourself’ ที่เคยเป็นบททดสอบในเรื่องของข้อจำกัดแก่พวกเขา มาสู่ธีมใหม่อย่าง ‘Persona’ นั่นเอง”

อาจารย์คิมยองแด อธิบายเพิ่มเติม “แม้ว่าภาพรวมของมหากาพย์ ‘แผนที่แห่งจิตวิญญาณ’ นี้จะยังไม่ได้เปิดเผยออกมา แต่ในแง่ของการตื่นตัวรับรู้ต่อหัวข้อนี้นั้น ความสัมพันธ์ สายใย และความรักของบรรดาแฟนๆ ซึ่งเป็นของหัวใจของอัลบั้มนี้ ได้รับการนำเสนอออกมาผ่านแนวคิด ‘Persona’ ที่หยิบยืมมาจากทฤษฎีของคาร์ล ยูง (Karl Jung) แนวคิดอย่างเช่น แรงภายใน (Inner Force), ตัวตนที่เราปฏิเสธ (Shadow), การโยนความผิดให้ผู้อื่น (Projection) ฯลฯ นั้นมีโอกาสเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นตัวสร้างความแตกต่างกับอัลบั้มถัดไป ซึ่งต้องอาศัยการทำความเข้าใจครับ”

ในอีกฟากฝั่งหนึ่ง สายสัมพันธ์ของแฟนๆ ที่เชื่อมถึงกันโดยไม่ผ่านการเสียค่าโฆษณาภายใต้แคมเปญ ‘ARMYPEDIA’ ซึ่งเริ่มต้นขึ้นเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ด้วยจุดประสงค์ที่จะแบ่งปันความทรงจำและรับฟังเสียงของแฟนคลับทั่วโลกนั้นก็ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก

คิมยูนฮา กล่าว “ฉันรู้สึกว่าทิศทางของอัลบั้มกับ ARMYPEDIA เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ฉันชอบการวางแนวคิดที่ทำให้มุมมองที่มีต่อโลกไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวอัลบั้มหรือศิลปินเท่านั้น แต่เผยแพร่ออกไปสู่ภายนอกด้วย”

ที่มา | The Hankyoreh
แปลจากเกาหลีเป็นไทยโดย CANDYCLOVER

ไม่อนุญาตให้นำไปรีโพสต์บนเว็บไซต์อื่น หรือคัดลอก ทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไข นำไปใช้โดยไม่ให้เครดิตแหล่งที่มาก่อนได้รับอนุญาต หากพบเห็นจะดำเนินคดีทางกฎหมายให้ถึงที่สุด