K-Pop

การครองชาร์ต Billboard Social 50 ของศิลปินเกาหลี สะท้อนพลังของแฟนๆ K-Pop

ประชาธิปไตยและโซเชียลมีเดียคือสิ่งอันยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทุกอย่างเท่าเทียมกันอัน และผลจากชาร์ต Social 50 สัปดาห์นี้ก็เป็นตัวอย่างที่ดีเลิศของเรื่องนี้ ด้วยการทำอันดับครั้งประวัติศาสตร์ที่ถูกครอบครองโดยเหล่าศิลปิน K-Pop

ชาร์ต Billboard ที่ติดตามผลความนิยมและการเข้าถึง (Reach) ของแต่ละศิลปินที่มีความแตกต่างกันบนโซเชียลมีเดีย สำหรับชาร์ตประจำสัปดาห์วันที่ 14 เมษายน ที่ปล่อยออกมาเมื่อวันอังคาร เผยให้เห็นว่าหกอันดับสูงสุดเป็นของศิลปิน K-Pop ตั้งแต่ EXO, NCT, Monsta X, GOT7 และ Wanna One ตามลำดับ ส่วนเกิร์ลกรุ๊ปวง TWICE ศิลปินหญิงเกาหลีเพียงหนึ่งเดียวที่ปรากฏตัวบนชาร์ตในสัปดาห์นี้ ครองอันดับ 8 ในขณะที่ Cardi B, The Weeknd, และ Harry Styles อยู่ในอันดับที่เหลือใน 10 อันดันสูงสุด การเข้าถึงอุตสาหกรรม K-Pop เป็นวงกว้างที่แสดงให้เห็นอยู่นี้ มีเพียงสองศิลปินที่มิใช่บอยแบนด์

การจัดอันดับชาร์ต Social 50 นี้อ้างอิงข้อมูลจาก Next Big Sound ชาร์ตเริ่มต้นขึ้นในปี 2010 ได้ Rihanna ขึ้นสู่อันดับสูงสุดเป็นรายแรก ตลอดหลายปีมานี้ Justin Bieber และ BTS กลายเป็นที่รับรู้ของสาธารณชนในฐานะราชาของชาร์ตที่ไม่อาจปฏิเสธได้ ด้วยการขึ้นสู่อันดับ 1 หลายต่อหลายครั้ง และทั้งคู่ยังเป็นเพียงสองศิลปินที่เคยได้รับรางวัล Top Social Artist จากงานประกาศรางวัล Billboard Music Awards ไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้เห็นศิลปินเกาหลีทีละวงๆ ปรากฏตัวขึ้นบนชาร์ต จากการที่โซเชียลมีเดียได้กลายเป็นแพลทฟอร์มที่บ่มเพาะพฤติกรรมสุดร้อนแรงของแฟนๆ ขึ้นมา

Twitter, Tumblr, Facebook, และ Instagram เป็นเพียงโซเชียลมีเดียบางส่วนเท่านั้นที่แฟนๆ K-Pop กำลังเพลิดเพลิน ด้วยแต่ละเว็บไซต์ที่ซ่อนเร้นความหลายหลายของการเคลื่อนไหวของแฟนคลับเอาไว้ ในขณะที่ Twitter กลายเป็นสิ่งที่รองรับแฟนๆ K-Pop และความวาไรตี้ต่างๆ ของแฟนๆ ในการแสดงออกความรู้สึก และทุกวันนี้เองก็แทบจะหาไม่ได้เลยที่ตลอด 24 ชั่วโมงจะผ่านไปโดยไม่มีสักแฮชแท็คที่เกี่ยวกับ K-Pop ติดเทรนด์โลก BTS และ Seventeen เป็นคนดังที่ถูกทวีตถึงมากที่สุดบน Twitter ในปี 2017 ใขขณะที่ในปีเดียวกันนี้ได้เห็น Tumblr เปิดตัวลิสท์สรุป Fandometrics ปลายปีเป็นครั้งที่สองซึ่งยกให้กับ K-Pop ด้วยการเพิ่มลิสท์ศิลปินเดี่ยวเข้ามาแยกจากการจัดอันดับศิลปิน K-Pop โดยรวมที่มีอยู่

https://thefandometrics.tumblr.com/post/168016831199/tumblr2017-kpop-band-members

ปีที่ผ่านมาได้เห็นถึงการที่ BTS คว้ารางวัล Top Social Artist จากงานประกาศรางวัล Billboard Music Awards กลับบ้านไป เจ็ดหนุ่มที่กำลังรุ่งเรืองที่เพิ่งเสร็จสิ้นซีรี่ส์ทัวร์คอนเสิร์ตที่ฝั่งสหรัฐ พุ่งขึ้นสู่อีกระดับอย่างมหาศาล เพียงไม่นานหลังจากชัยชนะที่งานประกาศรางวัล Billboard และนับแต่นั้นมาก็ไม่อาจปฎิเสธได้ว่าพวกเขากลายเป็นบอยแบนด์ที่ร้อนแรงที่สุดในอเมริกา ณ ขณะนี้ พวกเขาส่ง 4 อัลบั้มขึ้น 50 อันดับสูงสุดบนชาร์ตอัลบั้ม Billboard 200 และอีก 2 เพลงเจาะชาร์ตเพลง Billboard Hot 100 ภายหลังการชนะรางวัลจากงาน Billboard ของพวกเขา BTS และความนิยมที่เพิ่มพูนขึ้นอันเป็นผลที่ตามมานั้นเอง ศิลปิน K-Pop เริ่มทำอันดับบนชาร์ต Social 50 ถี่ขึ้นกว่าที่เคยเป็นมาก่อน ด้วยทั้งตัวแฟนๆ และศิลปิน K-Pop ที่ตระหนักถึงอิทธิพลจากการชนะรางวัลในสายโซเขียลของ BTS ศิลปิน K-Pop จำนวนมากที่มีชื่อเสียง รวมถึง EXO และ NCT ที่ไม่เคยมีแอคเคาท์ Twitter มาก่อน มาเปิดแอคเคาท์บนเว็บไซต์นี้ และยังมีความเคลื่อนไหวที่เพิ่มพูนขึ้นอย่างน่าจับตามองจากศิลปิน K-Pop บนแพลทฟอร์มอื่นๆ เห็นได้จากยอดไลค์บน Instagram Story และ Answer Time บน Tumblr

ผลจากการที่ศิลปิน K-Pop และแฟนๆ มีแนวโน้มมากขึ้นบนโซเชียลมีเดีย ซึ่งพวกเขาทำมาตลอดหลายปี แต่เพิ่งถูกยกระดับไปอีกขั้นเมื่อปีที่ผ่านมา นำมาซึ่งผลปรากฎบนชาร์ตประจำวันที่ 14 เมษายน เป็นการแสดงให้เห็นว่า วัฒนธรรมแฟนคลับสิบปีของวงการ K-Pop มาบรรจบเป็นพลังบนโซเชียลมีเดียที่ไม่อาจเพิกเฉยได้ได้อย่างไร ในเพียงเกือบขวบปีหลังจากงานประกาศรางวัล Billboard ปี 2017 นี่ไม่ใช่ปรากฏการณ์ข้ามคืน แต่กลับเป็นสิ่งที่ตามมาจากการที่แฟนคลับของศิลปิน K-Pop แสดงความรู้สึกบนโซเชียลมีเดียทั้งวัน ทุกวันร่วมหลายปี จนในที่สุดก็ตระหนักได้ถึงพลังที่ตัวเองมี ที่สามารถเป็นแรงกระตุ้นการงานของศิลปินที่พวกเขาชอบได้ ผ่านการโพสท์และการติดแฮชแท็คนั่นเอง

ศิลปิน K-Pop แต่ละวงที่ติด 10 อันดับสูงสุดบนชาร์ตเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นวงที่ได้รับความนิยมซึ่งเห็นได้ถึงความสนใจที่มีเพิ่มพูนขึ้นจากการออกเพลงใหม่ หรือการประกาศให้ทราบถึงการออกเพลงใหม่ที่กำลังใกล้เข้ามา การจัดอันดับบนชาร์ตสะท้อนให้เห็นถึงจำนวนการแสดงผล (Impression) ที่เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 30 มีนาคา – 5 เมษายน ซึ่งในช่วงระยะเวลาดังกล่าวมีการทำสถิติใหม่เกิดขึ้นจากอัลบั้มภาษาญี่ปุ่นของ BTS และเพลงใหม่ กับการโปรโมทอัลบั้มล่วงหน้าของ TWICE และ EXO ยูนิต CBX ตามมาด้วยการปล่อยอัลบั้มใหม่ของ NCT, Monsta X, GOT7 และ Wanna One รวมถึงการประกาศข่าวเวิลด์ทัวร์คอนเสิร์ตของ Wanna One ส่วนศิลปินเกาหลีวงอื่นๆ ที่ปรากฏตัวบนชาร์ตนี้ก็มีการออกเพลงใหม่ หรือข่าวเกี่ยวกับเพลงใหม่ที่ใกล้จะออก ซึ่งกระตุ้นให้เกิดจำนวนการโต้ตอบที่เพิ่มมากขึ้นบนโซเชียลมีเดีย

ขณะนี้ ชาร์ต Social 50 ของ Billboard อเมริกา ซึ่งกำลังถูกครองอันดับสูงสุดโดยศิลปินต่างชาติ ที่ได้รับการสนับสนุนจากแฟนๆ ทั่วโลก อาจกลายเป็นเรื่องน่าตระหนกตกใจสำหรับชาวฝั่งสหรัฐแท้ๆ ซึ่งคงง่ายสำหรับพวกเขาที่จะตัดเรื่องการโต้ตอบทางโซเขียลมีเดียพวกนี้ออกไป จากการที่ขณะนี้อยู่ในช่วงสัปดาห์ซบเซาของตลาดเพลง และไม่มีความเกี่ยวเนื่องกับกระแสหลักของวงการเพลงอเมริกัน แต่ศิลปิน K-Pop กำลังเป็นที่นิยมอย่างมหาศาลทั่วโลก ซึ่งแฟนเบสหลากหลายในอเมริกาของศิลปินเหล่านี้ถ้าไม่ใช่เป็นล้าน ก็มีเป็นแสนๆ และมีความแข็งแกร่ง เทรนด์อันดับท็อปทั้งหลายบนเว็บไซต์อย่าง Twitter และ Tumblr ไม่ได้พลุ่งพล่านขึ้นมาจากคนเพียงหยิบมือ แม้ว่าเพลงของศิลปินพวกนี้จะไม่ได้เปิดที่สถานีวิทยุตามภาคพื้นดิน แต่แฟนๆ ก็โปรโมทศิลปินเกาหลีเหล่านี้ขึ้นอันดับสูงสุดบนชาร์ต Social 50 เพราะมีคนรัก K-Pop เป็นล้านๆ บนโลก ซึ่งผู้คนเหล่านี้ก็เชื่อมถึงกันผ่านโชเชียลมีเดียนั่นเอง ไม่มีช่วงไหนสักช่วงไหนแต่ละวันที่แฟนๆ K-Pop ไม่ตื่นตัว คอยเชียร์ศิลปินคนโปรด

แทนที่จะมองข้ามฐานแฟนคลับ K-Pop เป็นตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche) ถึงเวลาที่จะตระหนักถึงพลังที่อยู่เบื้องหลังแฟนๆ นับล้านจากทั่วโลกที่อยู่ตรงนี้และประกาศตนอย่างขันแข็ง ทั้งในพื้นที่บนโลกดิจิตอลและในรูปแบบดั้งเดิม เพื่อพิสูจน์ว่า K-Pop ไม่ใช่กลุ่มวัฒนธรรมย่อย (Sub-culture) อีกต่อไป เฉกเช่นเดียวกับดนตรีแนว Metal แฟนๆ K-Pop คือกลุ่มที่ถูกถักทอขึ้นอย่างเหนียวแน่น ที่สร้างความสัมพันธ์ขึ้นจากความรักที่มีต่อวงการเพลงและศิลปินของตัววงการเอง แม้ว่า K-Pop จะไม่ได้ถูกคำนึงถึงว่าเป็นส่วนหนึ่งของดนตรีกระแสหลักก็ตาม

ในขณะที่ K-Pop ยังคงมีจุดยืนประเภทกลุ่มวัฒนธรรมแหกคอก (Counter-culture) ในวงการเพลง สื่อหลายสำหนักและธุรกิจต่างๆ เริ่มตระหนักถึงแนวทางที่แฟนๆ ประกาศตัวออกมาอย่างเต็มกำลังเพื่อสนับสนุนศิลปินที่พวกเขาชื่นชอบ เป็นเรื่องปกติที่จะได้บังเอิญพบเจอโพลล์ความเห็นบน Twitter หรือการปะทะแฮชแท็ค ซึ่งเป็นสิ่งที่แฟนๆ K-Pop สนใจ และยังดึงดูดคนเป็นพันๆ ไปยังแอคเคาท์โซเชียลและเว็บไซต์ของแบรนด์ต่างๆ ชาร์ต Social 50 เองเป็นสิ่งที่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องนี้ในหลายๆ แง่มุม ด้วยความที่มันสะท้อนให้เห็นถึงเทรนด์ในแต่ละวัน กระทั่ง Billboard เองยังจัดตั้งอีเวนท์จากแฮชแท็คอย่าง Fan Army Face-Off ประจำปีมากว่าหลายต่อหลายปี

เหล่าคนดัง K-Pop คือผู้ทรงอิทธิพลทรงคุณค่าบนแพลทฟอร์มโซเชียลมีเดีย ซึ่งแบรนด์ระดับโลกกำลังตระหนักถึงการเข้าถึง (Reach) ของศิลปินเหล่านี้ วง NCT ยูนิต NCT 127 เพิ่งปล่อยมิวสิควิดีโอเพลง “Touch” มีฟีเจอร์ร่วมกับ iPhone จาก Apple ในขณะที่มิวสิควิดีโอล่าสุดของ TWICE ก็มีฟีเจอร์โฆษณากับคอนแทคเลนส์แบรนด์ Acuvue กลยุทธ์การวางสินค้าให้เห็น (Product Placement) เป็นเรื่องปกติในรายการโทรทัศน์ประเทศเกาหลีใต้ และไม่เคยไม่มีมาก่อนในมิวสิควิดีโอ แต่ในยุคของไวรัลและการทำรูปภาพเคลื่อนไหว (Gif) ได้ในพริบตา ผู้มีอิทธิพลคนดังเพียบพร้อมด้วยฐานแฟนคลับ ที่จะแชร์คอนเทนท์เหล่านั้นที่มีโฆษณาอยู่ เป็นอะไรที่ทรงพลังอย่างมหาศาล เหล่าคนดัง K-Pop กับสิ่งที่ตามมาที่โลดแล่นอยู่บนโลกออนไลน์และมีพลังในกำมือเพื่อควบคุมความสนใจ เผลอๆ อาจจะเป็นผู้ทรงอิทธิพลที่สมบูรณ์แบบที่สุดแล้วที่ศตวรรษที่ 21 อาจวอนขอมาได้

กระทั่งศิลปินนอกฝั่งตะวันตกสักหยิบมือหนึ่ง ปรากฏตัวด้วยกันบนสักชาร์ตของ Billboard อเมริกาก็เป็นอะไรที่น่าประทับใจแล้วเมื่อสิบปีก่อน แต่ชาร์ต Social 50 เมื่อวันที่ 14 เมษายน ทำให้เห็นชัดเจนอย่างไม่อาจปฏิเสธได้ว่าแฟนๆ K-Pop ทรงพลังอย่างไรในฐานะผู้ทรงอิทธิพลย่อย ที่ขับเคลื่อนศิลปินคนโปรดสู่อีกระดับขั้น เพื่อให้มีโอกาสได้สร้างผลประโยชน์ในโลกแห่งความจริง ตราบใดที่ศิลปิน K-Pop ยังคงเดินหน้าปล่อยเพลงคุณภาพสูง และคอนเทนท์บันเทิงที่เกี่ยวเนื่องกันออกมา แฟนๆ ก็จะผลักดันไอดอลคนโปรดไปสู่อีกระดับขั้น สร้างอิทธิพลต่อเมืองแห่งวงการเพลงทั่วโลกไปอีกอย่างต่อเนื่องต่อไป

ที่มา | Forbes
แปลจากอังกฤษเป็นไทยโดย CANDYCLOVER

DMCA.com Protection Status

ทาง CANDYCLOVER มีความยินดีหากผู้อ่านเล็งเห็นประโยชน์ของคอนเทนต์นี้ และต้องการนำไปประกอบเอกสารหรือสื่อทางการศึกษา เผยแพร่ต่อบนโซเชียลมีเดีย รวมถึงนำไปผลิตของที่ระลึก เช่น Giveaway สำหรับแจกฟรี มิใช่การจัดจำหน่าย

หากต้องการนำข้อมูลไปใช้อ้างอิง กรุณาติดต่อทางอีเมลล์ bts.candyclover@gmail.com และรอการตอบกลับที่ระบุว่าอนุญาตแล้วเท่านั้น ยกเว้นกรณีการนำข้อมูลที่ “แปล เรียบเรียง หรือจัดทำโดย CANDYCLOVER” ไปรีโพสต์ ทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไข นำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ รีโพสต์บนแฟนเพจ เว็บไซต์ หรือเว็บบอร์ด ที่มิใช่แพลตฟอร์มของ CANDYCLOVER พร้อมใส่เครดิตเองโดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงนำไปเป็นคอนเทนต์ทางสื่อโทรทัศน์ หรือกระทำการใด ๆ ก็ตามที่เข้าข่ายแอบอ้างผลงาน หากพบเห็นจะดำเนินคดีทางกฎหมายให้ถึงที่สุด

หากท่านชื่นชอบคอนเทนต์ที่ CANDYCLOVER นำเสนอ สามารถให้การสนับสนุนพวกเราได้ง่าย ๆ เพียง 1.) ไม่สนับสนุนแอคเคาต์ที่แอบอ้างข้อมูลที่แปลโดย CANDYCLOVER 2.) รีพอร์ตแอคเคาต์ดังกล่าวผ่านระบบของแพลตฟอร์มที่ท่านพบเห็นโพสต์ที่เข้าข่าย โดยเลือกหัวข้อ “ละเมิดลิขสิทธิ์” 3.) สนับสนุนค่ากาแฟทาง Ko-fi หรือ Patreon

About the Author /

bts.candyclover@gmail.com

I go by the name Candy, a co-founder, admin, designer, translator, writer of and for CANDYCLOVER. I'm a graphic/UI designer and a self-taught Korean translator who's passionate about telling success stories of BTS in the form of mixed media from graphic to web-based experiences. Now, I'm also pursuing my career as a professional Korean translator. My recent book-length translation projects are: I AM BTS (TH Edition), BTS The Review (TH Edition) and more to come!

Post a Comment